"สกลธี" ขอโอกาสเป็นผู้ว่าฯ กทม. ชูนโยบาย "หาเงินได้ ใช้เงินเป็น"
“สกลธี ภัททิยกุล” ปราศรัยใหญ่ขอโอกาสคน กทม. พร้อมทำทันธี ประกาศเป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่หาเงินได้ ใช้เงินเป็น ใช้ภาษีพัฒนาทุกตารางนิ้วของ กทม. และเปิดตัวทีมธี เลือกธีได้ทั้งทีม
ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก “สกลธี ภัททิยกุล” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 เลือกลานคนเมือง หน้าตึกศาลาว่าการกรุงเทพมหานครเป็นสถานที่ปราศรัย หวังขอคะแนนเสียงจากคน กทม. เพื่อเป็นกุญแจดอกสำคัญให้กลับเข้าไปทำงานในฐานะผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 17 ชูประสบการณ์การทำงานในฐานะรองผู้ว่าฯ กทม. 4 ปี พ่วงด้วยประสบการณ์ในแวดวงการเมืองอีก 16 ปี
“สกลธี ภัททิยกุล” จากคนที่เคยรู้สึกอึดอัดว่าทำไม กทม.ดีกว่านี้ไม่ได้ แต่จากการเข้าไปทำงานในตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. ทำให้รู้ว่า การทำให้ กทม. น่าอยู่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไม่มีคนทำ
สกลธีจึงประกาศนโยบายสำคัญในการเข้าเสนอตัวทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. ว่า ผู้ว่าฯ กทม. ยุคใหม่ แต่ต้องหาเงินเป็น และใช้เงินเป็นด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา กทม. ได้รับการสนับสนุนมาเงินจากรัฐบาล 80,000 ล้านบาท แต่เมื่อหักเงินค่าใช้จ่ายองค์กร เงินเดือนบุคลากร และจ่ายหนี้สะสม จะเหลืองบพัฒนา กทม. เพียง 20,000 ล้านบาทเท่านั้น และหากนับรายหัวประชากรที่อาศัยอยู่ใน กทม. ทั้งมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนและไม่มี รวมประมาณ 10 ล้านคน คิดงบเฉลี่ยรายหัวได้เพียง 2,000 บาท
ที่ผ่านมา สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. “สกลธี ภัททิยกุล” ทำให้เห็นแล้วว่า สามารถหารายได้เข้า กทม. ได้จริง จากการจับปรับรถวิ่งบนทางเท้า โดยจากเดิมเก็บค่าปรับได้ปีละจาก 3 แสนบาท เป็น 15 ล้าน ทำไป 3 ปี มีเงินเข้า กทม. 47 ล้านบาท
ส่วนการหารายได้ในอนาคต ในฐานะผู้ว่าฯ กทม. “สกลธี” คิดจะเปลี่ยนขยะให้เป็นเงิน ดึงเอกชนมาดูแลบริหารจัดการขยะ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายกว่า 5 พันล้านบาท ของ กทม. ที่ใช้บริหารจัดการส่วนนี้ และแนวคิดการจัดเก็บภาษี City Tax โดย สกลธี ได้อ้างอิงจากข้อมูลปี 59 ซึ่ง กทม. เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 มีคนมาท่องเที่ยวสูงถึง 60 ล้านคน หากเก็บภาษีห้องพักคืนละ 100 บาท หากคิดเพียงครึ่งเดียวของ 60 ล้านคน ก็ได้มีเม็ดเงินเข้า กทม.ถึง 3,000 ล้านบาท เมื่อรวมทั้งรายได้ 2 ส่วนเข้าด้วยกัน กทม.จะมีงบสำหรับไปพัฒนาต่อยอดได้อีก 8,000 ล้านบาทต่อปี ไม่ว่าเป็นเรื่องของ โรงเรียนดีใกล้บ้าน สวนให้พื้นที่ชั้นนอก การปรับถนน ท่อ ไฟส่องสว่าง และกล้องซีซีทีวี ที่ “สกลธี” ประกาศบนเวทีปราศรัยใหญ่ว่า จะกระจายเงินไปทุกเขตอย่างเท่าเทียม ไม่กระจุกตัวแค่ กทม.ชั้นใน
การปราศรัยใหญ่ครั้งแรกบนเวทีลานคนเมือง “สกลธี ภัททิยกุล” ได้ย้ำเหตุผลที่คน กทม. ต้องเลือก “สกลธี”
- ได้ผู้ว่าฯ กทม.วัยทำงาน เพราะ กทม. ต้องการคนมีพลังทำงานแก้ปัญหาที่พร้อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สกลธี ในวัย 44 ปีมีไฟเต็มที่
- ได้ผู้ว่าฯ กทม. ที่มีประสบการณ์การทำงาน
- ได้ผู้ว่าฯ กทม. ที่หาเงินได้ใช้เงินเป็น
- ได้ผู้ว่าฯ กทม. อิสระทำงานเพื่อคน กทม. ไม่ต้องตอบแทนใครนอกจากคน กทม.
นอกจากนี้ ยังได้มีการเปิดตัวทีมธี “เลือกธีได้ทั้งทีม” โดยทีมธีที่เปิดตัวครั้งนี้ มี 6 คน เป็นที่ปรึกษาใน 6 ด้าน
- ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ทีมที่ปรึกษาด้านไอทีและดิจิทัล
- ฝันดี จรรยาธนากร ทีมที่ปรึกษาด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
- ดร.นริศรา ลิ้มธนากุล ทีมที่ปรึกษาด้านการจราจรและขนส่งสาธารณะ
- กฤษณะ แก้วธำรง ทีมที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว
- เจตน์ โศภิษฐ์พงษธร ทีมที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ศิลปะและวัฒนธรรม
- ณัฐรดา เลขะธนชลท์ ทีมที่ปรึกษาด้านการศึกษา
“สกลธี ภัททิยกุล” ระบุว่า ทีมธีมาจากคนที่มีความสามารถ ไม่ใช่คนของใคร เป็นอิสระ จึงไม่จำเป็นต้องตอบแทนใคร นอกจากชาว กทม. และทีมงานเหล่านี้จะเข้ามาเป็นทีมผู้บริหาร กทม. ในอนาคตด้วย ซึ่งยังต้องจับตาการปราศรัยรอบหน้าที่วงเวียนใหญ่ 20 พ.ค.นี้ ว่าทีมธีที่จะเข้ามาช่วยบริหารงาน กทม. เพิ่มจะเป็นใคร เพราะนี่เป็นโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ “สกลธี” ในฐานะผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ฝากถึงคน กทม. ที่ยังลังเล หรือยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ว่า ตนเองมีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. และมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ในการนำเสนอนโยบายที่ทำได้ และทำได้ทันที ขึ้นอยู่กับว่า คน กทม. จะเห็นเหมือนที่เขาเห็นหรือไม่
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)