ข่าว

มนัญญา พลิกโฉม "สารวัตรเกษตร" จากบทบาทตรวจจับ เป็นเพื่อนคู่คิด เกษตรกรไทย

มนัญญา พลิกโฉม "สารวัตรเกษตร" จากบทบาทตรวจจับ เป็นเพื่อนคู่คิด เกษตรกรไทย

26 พ.ค. 2565

รมช.เกษตรฯ มนัญญา ไทยเศรษฐ์  พลิกโฉม "สารวัตรเกษตร" และอาสาสมัคร เป็นเพื่อนคู่คิดของเกษตรกรไทย ย้ำซื้อ ปุ๋ย ยา ถูกต้อง ใช้ปลอดภัยและลดต้นทุนการผลิต

26 พ.ค.65 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวในการมอบนโยบายให้ "สารวัตรเกษตร" ในสังกัดของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 ขอนแก่น กรมวิชาการเกษตร และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร เครือข่าย 8 แห่ง รวมทั้งหมด 11 จังหวัด ว่า ให้เน้นบทบาทของการเป็นพี่เลี้ยง เป็น "เพื่อนคู่คิด" ของเกษตรกรไทยในการให้ความรู้เพื่อเป็นเครื่องมือในการเลือกซื้อปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพและถูกกฏหมาย รวมถึงติดตามการจำหน่ายปัจจัยการผลิตของร้านค้าเพื่อให้เป็นไปตามที่กฏหมายกรมวิชาการเกษตรกำหนด จึงให้นโยบายกับกรมในการขยายเครือข่ายสารวัตรเกษตรอาสา ให้เพิ่มมากขึ้น

 

ขอฝาก "สารวัตรเกษตร" ทุกคนว่าเราพลิกโฉมปรับบทบาทกันใหม่ จากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนคู่คิดให้เกษตรกร ที่เกษตรกรอยากเข้ามาปรึกษาและสารวัตรเกษตรและอาสาสมัครก็จะช่วยอธิบายว่าสิ่งใดห้าม สิ่งใดใช้ได้ ต่างจากเดิมที่บทบาทเหมือนตำรวจออกตรวจจับผู้ร้าย

 

มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรสามารถทำได้ เพราะทำสำเร็จมาแล้ว คือ ผลงานของ ศวพ.3 ที่มีการปรับบทบาทจากปราบปราม มาเป็นเพื่อนคู่คิดสามารถสร้างสารวัตรเกษตรอาสาจากตัวแทนของเกษตรกรมาเป็นเครือข่ายได้มากถึงจำนวน 1,813 คนในช่วง 2-3 ปี และได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ  นางสาวมนัญญา กล่าว

     มนัญญา พลิกโฉม \"สารวัตรเกษตร\" จากบทบาทตรวจจับ เป็นเพื่อนคู่คิด เกษตรกรไทย

 

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  เตรียมขยายผลโครงการสารวัตรเกษตรอาสา เพื่อให้เป็นเครือข่ายงานควบคุมตามพระราชบัญญัติ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ "สารวัตรเกษตร" ของกรมวิชาการเกษตร ต้องดำเนินการรับผิดชอบกำกับดูแลงานตาม พ.ร.บ.ต่าง ๆ ถึง 6 ฉบับ ในพื้นที่จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 11 จังหวัด

มนัญญา พลิกโฉม \"สารวัตรเกษตร\" จากบทบาทตรวจจับ เป็นเพื่อนคู่คิด เกษตรกรไทย

 

มีร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรกว่า 6,000 ร้านค้า มีพนักงานเจ้าหน้าที่ "สารวัตรเกษตร" ในเขตพื้นที่นี้เพียง 43 คน กลุ่มควบคุมตาม พ.ร.บ.
สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 โดยนายบุญช่วย สงฆนาม ผู้อำนวยการ ศวพ.กาฬสินธุ์ ได้ริเริ่มโครงการสารวัตรเกษตรอาสา    จนประสบความสำเร็จ ร้านค้าหรือรถเร่ขายปุ๋ยด้อยคุณภาพ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

นายบุญช่วย สงฆนาม ผอ.ศวพ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เริ่มโครงเมื่อปี 2560 เหตุจากข้อจำกัดเรื่องจำนวนคน จึงคิดว่าน่าจะเชิญผู้นำชุมชน ผู้นำ เกษตรกร กำนัน ผู้ใหญ่มาอบรมให้ความรู้ในเรื่องของ 1. กฏหมายของกรมเกี่ยวกับปุ๋ย ยา สารเคมีเกษตร 2.หลักวิธีการเลือกซื้อ 3.การเลือกซื้อจากร้านคุณภาพ 4.การตรวจสอบสินค้าด้วยตนเองผ่านระบบแอปพลิเคชันของกรมฯ ว่าสินค้าดังกล่าวปลอมหรือไม่ และ5.อย่าซื้อปุ๋ย  ยา จากรถเร่ขายที่อวดสรรพคุณเกินจริง

 

ในช่วง 3 ปี อบรมได้สมาชิก 1,813 คน และทั้งหมดช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับกรมฯจนปัจจุบันมีผลสัมฤทธิ์ คือ รถเร่ในพื้นที่สีแดง คือ จุดที่มีรถเร่มากมีการร้องเรียนเยอะ ปัจจุบันไม่เกิดขึ้นอีก ดังนั้นเห็นว่าน่าจะเดินมาถูกทาง

สำหรับ 11 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่  กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร สกลนคร นครพนม หนองคาย หนองบัวลำภู บึงกาฬ เลย และอุดรธานี  

 

ในช่วงปี 2564 กรมวิชาการเกษตรมีการตรวจตามเบาะแส ข้อร้องเรียน สำหรับผู้ประกอบการที่ขออนุญาตและไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย วัตถุอันตรายและพันธุ์พืช

 

จับกุมดำเนินคดีข้อมูล ณ 28 ก.ย.64 รวม 4 จังหวัด 4 คดี รวมมูลค่า 5.7 ล้านบาทและในปี 2563 จำนวน 6 จังหวัด 15 คดี มูลค่า 51 ล้านบาท