ข่าว

"ฝีดาษลิง" ดร.อนันต์ เผยข้อมูล ช่องทางแพร่เชื้อ เข้าห้องน้ำยังติด

"ฝีดาษลิง" ดร.อนันต์ เผยข้อมูล ช่องทางแพร่เชื้อ เข้าห้องน้ำยังติด

31 พ.ค. 2565

"ฝีดาษลิง" ดร.อนันต์ เผยข้อมูลชวนอึ้ง พบช่องทางแพร่เชื้อ มากกว่าที่คิด ปล่อยได้แทบทุกทาง หน้ากากอนามัย ยังจำเป็น

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ไบโอออนเทค โพสต์เฟซบุ๊ค Anan Jongkaewwattana อัปเดตสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ "โรคฝีดาษลิง" ระบุข้อมูลล่าสุดว่า รายงานผลจากการตรวจหาเชื้อในตัวอย่างที่เก็บจากผู้ป่วย "ฝีดาษลิง" ที่เคยพบในอังกฤษ (ตั้งแต่ปี 2018-2021) แต่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่ระบาดในปัจจุบัน พบว่า 

"ฝีดาษลิง" ไวรัสสามารถพบได้ในหลายตัวอย่าง มากน้อยแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ปริมาณไวรัสที่พบได้มากที่สุดคือ ของเหลวจากตุ่มหนอง หรือ แผลบนผิวหนัง ข้อมูลที่น่าสนใจคือ ผู้ป่วยแทบทุกคนสามารถตรวจไวรัสพบในตัวอย่างที่เก็บมาจากทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งประกอบด้วยน้ำมูก น้ำลาย โดยปริมาณไวรัสมีมากกว่าที่ตรวจพบในกระแสเลือด และ ในผู้ป่วยบางรายสามารถตรวจเชื้อไวรัสพบได้ในตัวอย่างปัสสาวะด้วยเช่นกัน

 

 

ข้อมูลนี้บอกว่า ไวรัสฝีดาษลิงสามารถปลดปล่อยออกมาจากผู้ป่วยได้หลายช่องทาง การสัมผัสโดยตรงกับแผลหรือตุ่มหนองมีความเสี่ยงสูงสุด แต่ การรับเชื้อจากน้ำมูกน้ำลาย ทางเลือด หรือ ทางปัสสาวะในห้องน้ำ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เป็นข้อมูลให้เราระวังตั้งรับกับไวรัสตัวใหม่นี้นะครับ หน้ากากอนามัยที่กำลังจะถอดกัน อาจจะจำเป็นหากฝีดาษลิงเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นนะครับ
ฝีดาษลิง ฝีดาษลิง

อาการ ฝีดาษลิง

 

อาการที่สังเกตได้ คือ หลังจากที่สัมผัสเชื้อไปแล้วประมาณ 12  วัน ผู้ป่วยอาจมีอาการแสดง ได้แก่

ระยะก่อนออกผื่น (Invasion Phase)  

  • เริ่มด้วยมีไข้ ปวดหัว ปวดตัว ปวดหลัง อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลืองโต
  • โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการต่อมน้ำเหลืองโต เป็นอาการที่สังเกตได้ของโรคฝีดาษลิง ซึ่งแตกต่างจากโรคอื่นๆ ที่มีตุ่มน้ำตามมา เช่น โรคอีสุกอีใส (Chickenpox) , โรคหัด (Measles) , โรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ (Smallpox)
  • อาจมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ท้องเสีย อาเจียน และอาการทางระบบหายใจ เช่น เจ็บคอ ไอ เหนื่อย ได้อีกด้วย

 

ระยะออกผื่น (Skin Eruption Phase)

 

  • หลังจากมีไข้ประมาณ 1-3 วัน จะเริ่มมีอาการแสดงทางผิวหนัง มีลักษณะตุ่มผื่นขึ้น โดยเป็นตุ่มที่มีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงตามลำดับ โดยเริ่มจากรอยแดงจุดๆ เป็นตุ่มนูนแดง ตุ่มน้ำใส ตุ่มน้ำหนอง และจากนั้นจะแห้งออกหรือแตกออกแล้วหลุด เรียงไปตามลำดับ
  • โดยตุ่มมักจะหนาแน่นที่บริเวณใบหน้า และแขนขา มากกว่าที่ร่างกาย
  • ในระยะออกผื่น ผื่นจะกลายเป็นสะเก็ดคลุม แห้งและหลุดออกมา โดยใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์

 

โดยทั่วไปแล้ว อาการป่วยจะกินเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ส่วนใหญ่สามารถหายจากโรคเองได้ แต่ในกรณีผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ มีโรคประจำตัว อาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หรือเสียชีวิตได้

 

ติดต่อจากคนสู่คนได้ไหม?

 

โรคฝีดาษลิงสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้จากการสัมผัสใกล้ชิด โดยผ่านการสัมผัสทางผิวหนังกับผู้ติดเชื้อโดยตรง หรือสัมผัสวัตถุที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสชนิดนี้ แม้ว่าโรคฝีดาษลิงจะมีโอกาสติดจากคนสู่คนได้น้อย แต่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้สามารถเสียชีวิตได้ โดยมีอัตราการเสียชีวิต 1-10% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กเล็ก

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล Anan Jongkaewwattana ,ศิครินทร์