ไหวมั๊ย "กลุ่ม 16" รับเสียงแตก หวั่นเทคะแนนให้ฝ่ายค้าน | คมชัดลึก

ที่รัฐสภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายพิเชษฐ สถิรชวาล และ ส.ส.พรรคเล็ก ในฐานะสมาชิก กลุ่ม 16 ร่วมหารือถึงแนวทางการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในวาระรับหลักการ เพราะขณะนี้หลายคนมีความเห็นต่าง จึงอยากให้ฟังการอภิปราย งบฯ66 ทั้งจากฝ่ายค้านและการชี้แจงของรัฐบาลให้จบก่อนตัดสินใจ ไม่ใช่จะตัดสินใจสนับสนุนรัฐบาลหรือฝ่ายค้านโดยยังไม่ฟังให้จบ

 

นายพิเชษฐ ยังกล่าวว่าการพิจารณางบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในสมัยรัฐบาลนี้ จึงอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ ส.ส.อยากสมบูรณ์ เพื่อประชาชน เพราะอยากได้รับโอกาสจากประชาชนกลับมาเป็น ส.ส.อีกครั้ง แต่ยอมรับว่าได้ไปขอโควต้ากรรมาธิการงบประมาณจากนายกรัฐมนตรีให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ในสัดส่วนของพรรคเล็กจริง

ด้าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ก็ยอมรับว่า กลุ่ม 16 เสียงแตกและถ้าเสียงส่วนใหญ่เทไปทางฝ่ายค้าน ทุกอย่างจะพัง จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ จึงเป็นห่วงสถานการณ์ เพราะจะเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้าย ซึ่งเสียงของ กลุ่ม 16 ถือว่ามีความสำคัญกับรัฐบาลจึงขอให้ทุกคนฟังการอภิปรายให้จบก่อนตัดสินใจ เพราะถ้างบประมาณไม่ผ่านนายกฯต้องลาออก และจะมีผลกระทบต่อประชาชน

 

จากนั้นตัวแทนพรรคเล็กได้ไปพูดคุยกับ ส.ส.พะเยา และรักษาการเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากพรรคเล็กเสียงแตก จึงให้แนวทางว่า ขอให้รอฟังอภิปรายฯให้จบก่อนแล้วค่อยหารือแนวทางกันอีกครั้งเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

พร้อมย้ำว่าขณะนี้เสียงของ กลุ่ม 16 และพรรคเศรษฐกิจไทยเสียงแตก เพราะมีคนให้ข่าวว่าจะรับหลักการไปล่วงหน้า ตนจึงให้แนวทางไปว่าจะทำอะไรต้องหารือกันก่อน เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าจะรับหลักการหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูสาระสำคัญในการอภิปรายก่อน ถ้าหากเจอว่ามีประเด็นที่ทำให้ประเทศเสียหาย ก็ต้องหารือกัน แต่เท่าที่ฟังมา 2 วันนี้ยังไม่มีประเด็นใดที่ทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย ซึ่งทางพรรคเศรษฐกิจไทยและกลุ่ม 16 ได้มีการพูดคุยมากันมาโดยตลอด ว่าจะเดินไปด้วยกัน โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในกลุ่ม 16 บางคนก็จะย้ายมาอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า

 

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (2 มิ.ย. 2565) สมาชิกของพรรคเศรษฐกิจไทยจะมีการอภิปราย จำนวน 7 คน ส่วนตนเองจะอภิปรายด้วยหรือไม่นั้น ต้องขอดูระยะเวลาอีกครั้งหนึ่งเพราะไม่อยากไปแย่งเวลาของสมาชิก ซึ่งตนเองก็อยากจะอภิปรายถึงความเดือดร้อนของประชาชน

 

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่ากลุ่ม 16 เข้าพบนายกรัฐมนตรีและวันนี้ก็เข้าพบ ร้อยเอกธรรมนัส เป็นเรื่องผลประโยชน์หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ยืนยันว่า เป็นการหารือเพื่อยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่วิ่งเต้นเพื่อเรียกรับผลประโยชน์

 

ส่วนโควต้าของพรรคเศรษฐกิจไทยในชั้นคณะกรรมการงบประมาณ นั้น เมื่อปีที่แล้วพรรคพลังประชารัฐได้โควต้าทั้งหมด 13 ที่นั่ง แต่ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐเหลือ 10 ที่นั่ง ดังนั้นพรรคเศรษฐกิจไทยจึงจะต้องได้ 3 ที่นั่ง

 

พร้อมกันนี้ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะเปิดขึ้นใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างที่จังหวัดลำปางว่าพรรคเศรษฐกิจไทยจะส่งคนเดิม คือ นายวัฒนา สิทธิวัง

 

ส่วนความสัมพันธ์ระว่างตนเองและรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้น ตนไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ยังรักและเคารพเหมือนเดิม ส่วนเรื่องการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง