"ชัชชาติ" หารือ บก.จร. แก้ปัญหา "รถติด" อย่างเร่งด่วน
"รถติด" ปัญหาใหญ่คนกรุงเทพฯ "ชัชชาติ" ตั้งเป้าแก้ "ปัญหาจราจร" อันดับแรกที่พระราม4 ระดม 3 หน่วยงาน ร่วมกันวางแผน
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. หารือร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.02 เรื่องการจัดการปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ โดยมีพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้างานจราจรและ พล.ต.ต สุวิชชา จินดาคำ ผบก.จร ชี้แจงข้อมูล กระบวนการทำงานของตำรวจจราจร
ชัชชาติ บอกภายหลังการหารือว่า จะต้องเริ่มจากจุดที่เกิดปัญหาซ้ำซากก่อน เช่น พระราม4 ส่วนหนึ่งที่รถติดคือรถขึ้นทางด่วน และรถจอดส่งของ ทั้งนี้หากมีการนำเทศกิจไปเป็นผู้ช่วยตำรวจ ในการบังคับห้ามจอดรถ ก็น่าจะช่วยทำให้รถคล่องตัวขึ้นได้ และสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ ไปดูจุดที่เป็นปัญหา จุดที่ดูรถติดซ้ำซาก เพื่อดูว่าปัญหาคืออะไร และจะแก้อย่างไร ปัญหาการจราจรเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะช่วงโรงรียนเปิดและช่วงฝนตก และจากการหารือได้ข้อสรุป 5ข้อ คือ
1.จะต้องมีความร่วมมือกันอย่างเข้มข้น ของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า30หน่วยงาน ทั้ง กทม. ตำรวจจราจร กระทรวงคมนาคม ขสมก.รถไฟฟ้า ทางด่วน จึงต้องมีความร่วมมือกัน
2.จะมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการร่วมแก้ปัญหาจราจร แม้เดิมจะมีอยู่แล้วแต่การปฏิบัติไม่ได้เข้มแข็งมาก โดยควรจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตัวแทนกทม. มานั่งประจำ รวมถึง ขสมก.มาร่วมด้วย เพื่อจะได้ลงไปแก้ปัญหาแต่ละจุดอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ กทม.จะรับผิดชอบทำแผนที่ในการทำจุดรถติดซ้ำซาก เพื่อนำมาวิเคราะห์ ปัญหา ว่าจะแก้ไขอย่างไร โดยจะเริ่มทำทันที และเชื่อว่าหลายจุดจะสามารถบรรเทาได้ เช่นจุดที่มีรถจอดส่งของต่างๆ และจะมีการประชุมทุกเดือนเพื่อติดตามความก้าวหน้า
3.เรื่องเทคโนโลยี เพราะกล้องวงจรปิดที่ดูจราจรมีกว่า100กล้องเท่านั้น จากกว่า50,000กล้อง และการบริหารไฟจราจรก็ใช้จราจรที่แยก ทำให้ไม่เห็นภาพรวม ดังนั้น ควรมีระบบที่เห็นภาพรวมการจราจรทั้งกรุงเทพ และบริหารจัดการไฟแบบกึ่งอัตโนมัติ แต่บางจุดก็ต้องมีคนดูแล จะทำให้ใช้ถนนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาระบบเพื่อติดตั้ง บริหารจัดการไฟทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพ โดยต้องศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน1ปี จากนั้นก็จะดำเนินการติดตั้งระบบ
4.เรื่องความปลอดภัย ซึ่งทางกายภาพ กทม.ดำเนินการ แต่สิ่งสำคัญคือ การจำกัดวามเร็วในกทม. โดย
กทม.จะนำข้อมูลความเสี่ยงจุดเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาวิเคราะห์ว่าเส้นไหนควรจะมีความเร็วต่ำกว่า80กิโลเมตร/ชม. มาหารือกับ บช.น. เพื่อกำหนดควบคุมความเร็วในเมือง และในชุมชน ที่เป็นความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดปัญหาจราจร
และ5.เรื่องจักรยานยนต์ ต้องหารือว่าจะมีแนวทางอย่างไรจัดการให้เกิดความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เช่น บางถนนมีการทำเลนสำหรับมอไซค์ จุดจอดมอไซค์ ก่อนถึงสี่แยก ให้แยกกับรถยนต์ จึงต้องดูแลประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์กลุ่มนี้ให้มากขึ้น โดยจะต้องมีการร่วมมือกันกับ บช.น. ซึ่ง เชื่อว่า หลังจากวันนี้จะเห็นการแก้ปัญหารถติดได้รับการปรับปรุงที่ดีขึ้น