ขายราคาเท่านี้ก็พอได้กำไรบ้าง อาศัยขายมานาน หากเนื้อหมูมีราคาแพงกว่านี้ก็จะส่งผลกระทบมากขึ้น แต่ยังยืนยันว่า จะขายราคาเดิม
วันที่ 8 มิ.ย.65 ท่ามกลางราคาสินค้าปรับตัว ราคาหมูสามชั้นกิโลกรัมละกว่า 230 บาท แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงขายราคาเดิม ตรึงราคานี้มานานกว่า 2 ปี ทั้งก๋วยเตี๋ยว น้ำตก น้ำใส ต้มยำ และเย็นตาโฟ ชามละ 40 บาท
ประกอบกับช่วงนี้ การท่องเที่ยวอำเภอเบตง หลังเปิดด่าน กำลังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ก็จะขายในราคาที่เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป ลูกค้า นักท่องเที่ยวจะได้มาอุดหนุนและกลับมาท่องเที่ยวในพื้นที่เบตงอีกครั้ง
นางลำไพ เอี้ยงประโคน หรือเจ๊นุช เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว นุชก๋วยเตี๋ยวต้มยำ บอกว่า ขายก๋วยเตี๋ยวราคา 40 บาท มานานกว่า 2 ปี แม้เนื้อหมูและวัตถุดิบอื่นๆ จะขึ้นราคามาตลอด แต่ก็ยังขายราคาเดิม เพราะสงสารลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นพนักงานประจำ ชาวบ้านทั่วไป และเด็กนักเรียน ขายราคาเท่านี้ก็พอได้กำไรบ้าง อาศัยขายมานาน หากเนื้อหมูมีราคาแพงกว่านี้ ก็จะส่งผลกระทบมากขึ้น กำไรยิ่งน้อยลง แต่ยืนยันจะขาย 40 บาทราคาเดิม
เจ้าของร้าน บอกด้วยว่า ตอนนี้วัตถุดิบหลักที่ใช้มีทั้ง แป้ง นม เนย หมู พริก ผัก วัตถุดิบเหล่านี้ราคาขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมแล้ว แต่ทางร้านยังไม่ปรับราคา และไม่ลดปริมาณ เพราะเป็นสูตรตายตัว ไม่สามารถที่จะลดปริมาณลงได้ สูตรก๋วยเตี๋ยวจะเพี้ยน ลูกค้าจะหายไปอีก เข้าใจดีว่าทุกคนต้องประสบปัญหาในด้านต่างๆ ทุกคนก็ต่างปัญหา
ส่วนราคาอาหารสด หลายอย่างราคาปรับตัวสูงขึ้น เช่น หมูสามชั้นกิโลกรัมละกว่า 230 บาท ถั่วลิสงจากราคา กิโลกรัมละ 25 บาทปรับขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 30 บาท พริกสดแดงที่นำมาทำพริกน้ำส้ม จากราคาเดิมกิโลกรัมละ 120 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 170 บาท ผักชี เดิมกิโลกรัมละ 100 บาท ปรับขึ้นเป็น 170 บาท
ทั้งนี้เชื่อว่า หลาย ๆ พื้นที่ แม่ค้าแม่ขาย ต่างตรึงราคา ขายในราคาเดิม เพราะเห็นใจลูกค้า เป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ ร้านค้า
เจษฎา สิริโยทัย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค อ.เบตง จ.ยะลา