"ถอดแมสก์" ขยายเวลา เปิดสถานบริการ กทม.รอหน่อยนะ ศบค.ขอประเมิน week หน้า | คมชัดลึก

(9 มิ.ย.2565) พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ศปก.ศบค.ว่า กทม.ได้เสนอเรื่องให้พิจารณา "ถอดแมสก์" หรือ หน้ากากอนามัย และขยายเวลา เปิดสถานบริการ ในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับหลายหน่วยงานที่พิจารณา 

ทั้งนี้ หลายหน่วยงานให้ความเห็นและประเมินสถานการณ์ติดเชื้อโควิดในปัจจุบัน และหารือถึงรายละเอียดต่าง ๆ และหากจะ ถอดแมสก์ หรือ หน้ากากอนามัย จะให้ถอดได้ทั้งหมดหรือไม่ หรือจะถอดภายใต้เงื่อนไขที่ประชาชนจะปฏิบัติได้ง่าย และปลอดภัย เพื่อเตรียมรับกับการนำไปสู่โรคประจำถิ่นในระยะต่อไป โดยมอบหมายให้กรมอนามัยพิจารณา และรวบรวมรายละเอียด ก่อนนำเสนอที่ประชุม ศปก.ศบค.ในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง

นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้พิจารณาการขยายเวลาเปิดสถานบริการ ถึงตี 2 ซึ่งในเรื่องนี้ อยากให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติมากที่สุด และเบื้องต้นเท่าที่ประเมินสถานการณ์ หลังเปิดให้บริการสถานบันเทิง ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ส่วนการขยายเวลา ทางกรมควบคุมโรค จะพิจารณาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ ที่กำหนดเรื่องโซนนิ่ง เวลาเปิดปิด หรือเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยยึดกฎหมายเดิมที่เคยบังคับใช้ ก่อนช่วงการระบาดของโควิด-19 เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และให้นำกลับมาพิจารณาในที่ประชุมศปก.ศบค.สัปดาห์หน้าเช่นเดียวกัน

พล.อ.สุพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องปรับพื้นที่สี ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงการพิจารณาเปิดด่านชายแดน การเข้าออกประเทศ ระบบ Thailand Pass ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ของประชาชนที่ยังน้อย จึงขอให้ประชาชนรับวัคซีน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น จะช่วยลดอาการป่วยรุนแรงและอัตราการครองเตียงได้

ทั้งนี้ ผลการประชุม สอดรับกับการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2565 ซึ่งที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการถอดแมสก์ หรือ หน้ากากอนามัย ด้วยความสมัครใจ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ คือ พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่โล่งแจ้งที่คนไม่หนาแน่น มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น จึงได้พิจารณาถึงเรื่องดังกล่าว แต่มีการยกเว้นในบางพื้นที่ ที่ยังต้องสวมหน้ากากอนามัย เช่น ตลาดนัด สนามม้า สนามกีฬาที่มีคนดู รวมถึงกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ที่ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ ได้แก่ กลุ่ม 608 กลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน หรือผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์

โดยจะมีการนำเข้าที่ประชุม ศบค.ในวันที่ 17 มิ.ย.65 อีกครั้ง ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ จะดำเนินการภายใต้มาตรการของ ศบค. ไม่ได้หมายความว่าจะดำเนินการทันที ต้องดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมายกำหนด