"ชัชชาติ" เร่งทำงบปี66 เผย วงเงิน 7.9 หมื่นล้าน
ชัชชาติ เผย งบประมาณปี66 จำนวน 7.9หมื่นล้านบาท เตรียมส่งสภาให้ทัน20 มิ.ย.นี้ เร่งรัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะเป็นรายได้หลักกทม.
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.65 ที่ศาลากลางกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จะต้องนำส่งให้สภากรุงเทพมหานครพิจารณาภายในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ก่อนจะเริ่มงบประมาณปี2566 วันที่ 1 ต.ค.นี้ วงเงินทั้งหมด 79,000ล้านบาท หลายส่วนเป็นโครงการที่ตั้งมาแล้ว แต่โครงการที่อยู่ในนโยบายยังไม่สามารถนำเข้างบประมาณได้ ซึ่งคาดว่าจะต้องนำไปใส่ในวาระ2-3 ที่จะปรับงบประมาณอีกครั้ง
ทั้งนี้เป็นข้อสังเกตว่า กทม.มีงบผูกพันธ์ อยู่จำนวนมาก 126โครงการ วงเงินรวม 98,710 ล้านบาท โดยปี2566มีงบผูกพัน 14,722ล้าน และปี 2567วงเงิน 24,854 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว ทั้งนี้คงต้องให้เป็นไปตามระเบียบงบประมาณ แต่งบลงทุนใหม่ปี 2566มีทั้งหมด 1,695 ล้านบาท ประมาณ 2.15%
นายชัชชาติ กล่าวว่า จะพยายามผลักดันนโยบายให้มากที่สุด โดยมี2รูปแบบ คือ 1.นโยบายบางส่วนมีบรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติราชการอยู่แล้วก็จะผลักดันต่อ 2.ที่ไม่มีก็ต้องบรรจุเข้าแผนปฏิบัติราชการ จะนำมาหารือในวาระที่ 2 คาดว่า ขั้นตอนในวาระ 2 น่าจะเสนอแผนเข้าไปได้ เพราะนโยบายบางส่วนก็ไม่ต้องใช้เงิน
สำหรับงบประมาณที่คาดว่าจะใช้จำนวนมาก คือ ระบบติดตั้งสัญญาณไฟจราจร แต่ได้หารือร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลไว้แล้ว จะต้องดูว่ามีงบส่วนไหนเข้ามาดำเนินการได้หรือไม่ ส่วนเรื่องการปรับปรุงซ่อมแซม ทางเท้า ท่อระบายน้ำ ถนนต่างๆ ก็ยังมีเงินของปี 2565 ที่ยังใช้ไม่หมด ก็นำมาใช้ได้
นายชัชชาติ ยอมรับว่า ยังกังวลเรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งช่วง2ปีที่ผ่านมารัฐบาลให้เก็บภาษีร้อยละ 10 ขยายเวลาและให้ผ่อนจ่ายได้ แต่ปัจจุบันเก็บได้ 22,000 ล้านบาทเท่านั้น ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่เก็บเต็มที่ในภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากภาษีโรงเรือน จึงต้องเร่งรัด เพราะเป็นรายได้หลักของ กทม.
ส่วนกรณีเรื่องการก่อสร้างที่ทำให้ล่าช้า และเวลาบานปลาย จะมีผลทำให้งบประมาณบานปลายด้วยหรือไม่นั้น มองว่า การก่อสร้างล่าช้าไม่ได้ทำให้งบบานปลาย แต่ก็ต้องเสนอไปยังรัฐบาล ถึงการดูเรื่องมาตรการผ่อนผันช่วงโควิด เพราะจะทำให้เร่งรัดงานการก่อสร้างลำบาก ซึ่งหลังจากนี้ กทม.ก็จะต้องไปดูสัญญาก่อสร้างอย่างเอาจริงเอาจังหากช้าก็ต้องปรับ แต่หากได้เงื่อนไขในการผ่อนผันจากรัฐบาลมาก็หลีกเลี่ยงไม่ได้