แห่ขอโชคลาภ "ตะเคียน" อาถรรพ์ เก็บไว้บ้านไม่ได้ ต้องนำมาถวายวัด
แม่นางตะเคียนก็มาเข้าร่างตนทั้งสองคน ก็รู้สึกกลัว ประกอบกับไม่มีเวลาดูแล ก็นำมาถวายให้ทางสำนักสงฆ์หนองหมาก
วันที่ 14 มิ.ย. 65 ที่สำนักสงฆ์หนองหมาก ม.11 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีชาวบ้านเดินทางมาเพื่อขอโชคลาภกับต้นตะเคียนอายุหลายร้อยปี หลังจากที่หญิงสาวเจออาถรรพ์ แทบจะหนีออกจากบ้าน เพราะกลัวนางตะเคียน จะเอาชีวิตเหมือนกับพ่อและแม่ ที่เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ก่อนมารู้ว่า มีตะเคียนที่พ่อนำขึ้นมาจากคลองน้ำ เก็บไว้ในบ้าน ตอตะเคียนอายุหลายร้อยปี ลำต้นประมาณ 2 คนโอบ และเป็นแผ่นที่แปรรูปแล้ว จากการสังเกตจะเห็นเป็นรูปหน้าคล้ายคน จึงนำมาไว้ที่สำนักสงฆ์
โดยมีอาจารย์เริง ยมทูต หมอไสยศาสตร์ ชื่อดังของหมู่บ้านมาทำพิธี เชิญแม่ตะเคียน รุกขเทวี ที่สิงสถิตอยู่ต้นตะเคียน และให้ขอปลดปล่อยชีวิตหญิงสาวคนดังกล่าว ประกอบพิธี ขอขมาลาโทษ ถวายบายศรี 1 คู่ น้ำเขียว น้ำแดง สุราขาว พวงมาลัย และของเล่นกุมารทอง
พร้อมขอให้แม่นางตะเคียน "รุกขเทวี" ให้โชคลาภกับชาวบ้านที่มาร่วมพิธี ขอเลขหยดน้ำตาเทียนสีแดงลงในขันน้ำ มีตัวเลข 5 ตัว เช่น เลข 0,5,8,1 และ 6 หรือเลข 9 ซึ่งตัวเลขที่ทุกคนเห็น ต่างมาประกบคู่กัน คือเลข 158 /05/08 และ 56 รวมทั้งเลขหางประทัด ก็เป็นเลขในกลุ่มเดียวกันอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
น.ส.อำพร อายุ 34 ปี พร้อมด้วย นางบุญยืน อายุ 55 ปี บอกว่า พ่อเป็นช่างเลื่อยไม้นำมาจากคลอง ตนไม่รู้ว่าเอามาอย่างไร หลังจากนั้นพ่อและแม่ก็เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ลูกๆก็กลัว แต่นางตะเคียนก็อยากจะอยู่หมู่บ้านซำแถลง แต่ตัวลูกสาวทำงานโรงงาน ต้องนำแดงมาถวายทุกวันพระ เดือนหนึ่งก็ 4 ครั้ง บางครั้งก็ไม่มีเวลาดูแล ก็นำมาให้ทางสำนักสงฆ์หนองหมากดูแล
หลังจากที่พ่อและแม่เสียชีวิต แม่นางตะเคียนก็มาเข้าร่างตนทั้งสองคน ก็รู้สึกกลัวจะปฏิบัติไม่ได้ เพราะต้องทำงานโรงงาน จึงต้องนำมาไว้ที่สำนักสงฆ์หนองหมาก เพื่อให้แม่นางตะเคียนปฏิบัติธรรมสวดมนต์เช้าเย็น
ส่วนไม้ตะเคียนจมอยู่ใต้คลองนับพันปี แต่พ่อเขารู้ว่าเป็นไม้ตะเคียน หลังจากมีการขุดลอกคลองก็นำเอามาไว้ที่บ้าน และมาเลื่อยแบ่งครึ่งกันกับชาวบ้านอีกหลายคนๆ ชาวบ้านที่เอาไม้ตะเคียนไปก็ทยอยตาย แม้แต่คนเอาไปลองนั่งอาบน้ำยังไม่รอด จนกระทั่งมาถึงพ่อและแม่ ของตนเป็นรายล่าสุด และแม่นางตะเคียนจะให้ตนปฏิบัติดูแลท่าน แต่ทำไม่ได้และกลัว จึงนำมาถวายสำนักสงฆ์ดังกล่าว
สายชล หนูแดง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ปราจีนบุรี