"ถอดแมสก์" ได้แล้ว ศบค. ไฟเขียว เช็คเงื่อนไข พื้นที่แบบไหนถอดได้
ศบค. ไฟเขียว "ถอดแมสก์" ได้แล้ว เน้นที่ไม่แออัด-สถานที่เปิด ทั่วประเทศ มีผลนับตั้งแต่ประกาศใน "ราชกิจจานุเบกษา"
(17 มิ.ย.2565) ถก "ถอดแมสก์" การประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 9/2565 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน และนับเป็นครั้งแรกที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุม ศบค.เป็นครั้งแรก
โดยที่ประชุมพิจารณาการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมาตรการป้องกันควบคุมโรค มีการปรับพื้นเฝ้าระวัง หรือพื้นที่สีเขียว ทั่วราชอาณาจักร มีผลนับตั้งแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการป้องกันควบคุมโรคในประเทศ โดยเริ่มดำเนินการได้ทันที หรือหลังประกาศราชกิจจานุเบกษา มาตรการการใส่หน้ากากอนามัย ควรสวมหน้ากาก และให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่แออัด สถานที่ปิด หรือมีการอยู่ใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก
เงื่อนไขการ "สวมแมสก์"
- สถานที่ภายนอกอาคาร ให้สวมหน้ากาก เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น โดยไม่สามารถเว้นระยะห่าง มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หรือมีการระบายอากาศไม่ดี เช่น ขนส่งสาธารณะ ตลาด สนามกีฬาหรือสถานที่แสดงดนตรีที่มีผู้ชม ฯลฯ
- สถานที่ภายในอาคาร ให้สวมหน้ากาก
สำหรับเงื่อนไขการ "ถอดแมสก์"
- อยู่คนเดียว
- หากอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่พำนักเดียวกัน ต้องสามารถเว้นระยะห่างได้
- ไม่รวมกลุ่มและในพื้นที่แออัดและอยู่ในที่ระบายอากาศได้ดี
- มีกิจกรรมที่จำเป็นต้อง "ถอดแมสก์" เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย บริการบริเวณใบหน้า ศิลปะการแสดง ฯลฯ โดยให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เมื่อกิจกรรมนั้นเสร็จสิ้น ควรสวมหน้ากากทันที
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบปรับ "พื้นที่สีเขียว" (พื้นที่เฝ้าระวัง) 77 จังหวัดทั้งประเทศ (หลังประกาศราชกิจจานุเบกษา) รวมทั้ง เปิดสถานบันเทิง "ผับบาร์" ดี่มแอลกอฮอล์ ตามกฎหมายกำหนด ถึงเวลา 02.00 น.