ข่าว

"ผบช.ก" เตือน เจ้าของแฟรนไชส์ "ร้านดารุมะ" ไม่กลับมา เจอดีแน่

"ผบช.ก" เตือน เจ้าของแฟรนไชส์ "ร้านดารุมะ" ไม่กลับมา เจอดีแน่

20 มิ.ย. 2565

ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เตือน เจ้าของแฟรนไชส์ "ร้านดารุมะ" หากกลับประเทศ จะประสานส่งผู้ร้ายข้ามแดน เผยอายัดทรัพย์หลักแสน แต่เสียหลายหลักร้อยล้าน

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.65 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมสอบปากคำผู้เสียหายในคดีคูปองบุฟเฟ่ต์แซลมอนทิพย์  ที่มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก

 

ภายหลังสอบปากคำ พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่า ตัวเจ้าของแฟรนไชส์ได้เดินทางออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.00 น.  โดยปลายทางคือเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพียงคนเดียว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเดินทางไปที่ใดต่อ จากนั้นเจ้าของแฟรนไชส์ได้ทำการปิดร้านวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งน่าเชื่อว่ามีเจตนาหลอกลวงประชาชน ขณะนี้สามารถอายัดเงินได้เพียงไม่กี่แสนบาทแต่ความเสียหายนั้นหลักร้อยล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า พฤติการณ์มีแนวโน้มสูงที่จะตั้งใจฉ้อโกง ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีการรวมคดีมาที่ บก.ปคบ. ภายในวันพรุ่งนี้ จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับให้เร็วที่สุด เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาและบุคคลที่เกี่ยวข้อง หากยังไม่กลับมาประเทศไทยจะพิจารณาเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยืนยันว่าจะทำสุดความสามารถ ขณะนี้พบเพียงแค่เจ้าของแฟรนไชส์คนเดียว จะต้องตรวจสอบทุกอย่าง เช่น เส้นทางการเงิน การกระทำความผิดว่ามีใครเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยเบื้องต้นเข้าข่ายฐานความความผิดฐาน​​​​​​ฉ้อโกงประชาชน หากมีการโอนเงินไปยังบุคคลใดก็อาจเข้าข่ายฟอกเงินด้วย แต่เบื้องต้นขณะนี้ทราบว่าทางร้านมีบัญชีหลักเพียงบัญชีเดียว

สำหรับผู้เสียหายเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ผู้เสียหายที่ซื้อคูปองไปบริโภค, ผู้เสียหายที่ซื้อคูปองไปขายต่อ และผู้เสียหายเสียหายที่ซื้อแฟรนไชส์ โดยผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์นั้นต้องดูเจตนาว่ามีเจตนาหลอกลวงประชาชนหรือไม่ หากไม่มีเจตนาหลอกลวงประชาชนก็ถือว่าไม่มีความผิด 

 

ทั้งนี้ร้านดังกล่าวได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2559 และเริ่มขายคูปองในปี 2563 โดยมีการลดราคาลงมาเรื่อยๆกระทั่ง 2-3 เดือนที่ผ่านมาลดราคาลงถึง 199 บาท  ทำให้มีผู้ซื้อจำนวนมาก  เนื่องจากสามารถใช้ได้ตลอดเวลา และสามารถใช้ได้จริงมาตลอด ส่วนร้านค้าที่ขายปลาแซลมอนให้ทางแฟรนไชส์นั้น ก็สามารถมาแจ้งความดำเนินคดีไว้ได้เช่นกัน