สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวชม "วาฬบลูด้า" ปากอ่าวแม่กลอง สมุทรสงคราม
ปีนี้ปากอ่าวแม่กลอง มีความอุดมสมบูรณ์ บลูด้าจึงเข้ามาหากินแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชาวประมงในพื้นที่ก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วย เนื่องจากฝูงวาฬบลูด้า จะต้อนฝูงปลาทู เข้ามาติดอวนได้มากกว่าปกติ
อีกหนึ่งการท่องเที่ยวที่หลายคนบอกสักครั้งหนึ่ง ต้องได้ไปเห็นกับตาตัวเอง คือการได้เข้าไปชมวาฬบลูด้าแบบใกล้ ๆ ในท้องทะเลไทย
เมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.65) อบจ.สมุทรสงคราม สำรวจเปิดเส้นทางท่องเที่ยวชมวาฬบลูด้าที่แม่กลอง พบมีครอบครัววาฬบลูด้า เข้ามาหากินที่ปากอ่าวแม่กลอง สมุทรสงคราม ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทั้งนี้ผลพวงจากการปิดอ่าว ทำให้ท้องทะเลอุดมสมบูรณ์มากขึ้น เตรียมอบรมให้ความรู้ชาวประมงนำเที่ยวชมวาฬบลูด้าที่แม่กลอง สร้างงานสร้างอาชีพกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
นางสาวสุกานดา ปานะสุทธะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องลงเรือนำเที่ยว สำรวจวาฬบลูด้าในทะเลบริเวณปากอ่าวแม่กลอง ห่างจากดอนหอยหลอดไป 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ช.ม. ด้วยความเร็วเรือ 7-8 น๊อต หรือ 12-14 ก.ม./ช.ม.
พบฝูงวาฬบลูด้า ที่ตั้งตัวตรงอ้าปากรับอาหาร ซึ่งเป็นปลาที่รวมกันเป็นฝูง แต่ว่ายน้ำไม่เร็วนัก เช่น ปลากะตัก และปลาทูขนาดเล็ก เป็นต้น โดยให้นกทำความสะอาดให้ และยังพบบลูด้าหลายตัวทั้งขนาดกลาง และขนาดเล็ก โผล่ขึ้น ผิวน้ำ ทั่วท้องทะเล ซึ่งปกติทุกปีจะหากินในทะเลเฉพาะเขตจังหวัดเพชรบุรี และ สมุทรสาครเท่านั้น
แต่ปีนี้เนื่องจากปากอ่าวแม่กลอง มีความอุดมสมบูรณ์ บลูด้าจึงเข้ามาหากินแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งชาวประมงในพื้นที่ก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วย เนื่องจากฝูงวาฬบลูด้าจะต้อนฝูงปลาทู เข้ามาติดอวนได้มากกว่าปกติ
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ลักษณะการหากินของวาฬบลูด้าที่ตั้งตัวตรงอ้าปาก มีเพียงแห่งเดียวในเมืองไทยเท่านั้น ในขณะที่ต่างประเทศบลูด้าจะหากินผิวน้ำไม่โผล่ให้เห็นอย่างชัดเจนแบบนี้ ซึ่งในสถานการณ์โควิด- 19 ที่ผ่านมา ประชาชนหยุดการเดินทาง ส่งผลให้ท้องทะเลฟื้นตัว ประกอบกับมาตราการปิดอ่าวของกรมประมง ทำให้ปลาชุกชุมมากขึ้น เป็นอาหารชั้นดีของวาฬบลูด้า
ปีนี้จึงพบวาฬบลูด้าเข้ามาในปากอ่าวแม่กลองน่านน้ำของจังหวัดสมุทรสงคราม ดังนั้น อบจ.สมุทรสงคราม จึงลงพื้นที่สำรวจเพื่อเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวทางทะเล เนื่องจากบลูด้าเป็นวาฬที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก แต่เป็นยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล เพราะมนุษย์สามารถเข้าใกล้โดยไม่ทำร้าย เตรียมส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
เช่น เตรียมโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือวัดศรัทธาธรรมเพื่อสะดวกต่อการขึ้นลงเรือ, จัดอบรมให้ความรู้เรือประมงมาดัดแปลงเป็นเรือนำเที่ยว, วิธีการพาชมวาฬ รวมทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจะส่งเสริมการต่อยอดท่องเที่ยวแบบครบวงจร เช่น จัดทริปดูวาฬ, หยอดหอยหลอด, ถีบกระดานเลน ชิมอาหารทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ยังจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยนักท่องเที่ยวด้วย
ด้าน นายปริญญา ผดุงถิ่น ช่างภาพชื่อดัง และหัวหน้าทัวร์ดูวาฬบรูด้าแม่กลอง กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการปิดอ่าวห้ามเรือลากอวนในฝั่งตะวันตกของอ่าวตัว กอ สร้างความสมบูรณ์ให้กับท้องทะเลอย่างมาก เราจึงพบปลาเล็ก ซึ่งเป็นเหยื่อของวาฬจำนวนมหาศาล ทำให้วาฬตามปลาเหล่านี้เข้ามาในเขตจังหวัดสมุทรสงคราม จึงพบวาฬบลูด้าในบริเวณนี้
ส่วนช่วงไฮซีซั่นของการดูวาฬบลูด้าต้องดูหน้าฝน เนื่องจากน้ำหลากจะพัดสารอาหารเข้ามาที่ปากอ่าว ทำให้ปลาเล็กมาหากินสารอาหารใกล้ฝั่ง วาฬจึงตามเข้ามาเช่นกัน และแม้ว่าฝนจะตกบนฝั่ง แต่ทะเลในช่วงกลางวันจะมีลมสงบและอากาศร้อน จะพบฝนตกในช่วงค่ำที่เรือเข้าฝั่งแล้ว
ทั้งนี้ก่อนออกเรือจะตรวจสภาพอากาศทุกครั้ง ให้มั่นใจว่าปลอดภัย โดยเรือจะออก 8 โมงเช้า กลับ 4 โมงเย็น แต่จุดที่ดูวาฬไม่แน่ไม่นอน แล้วแต่สถานการณ์ในแต่ละวัน ส่วนค่าบริการ รวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการลงเรือเพื่อไปชมวาฬบรูด้าแม่กลอง ผู้สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่หมายเลข 090-197-7521
นพพร บุญทนาวงศ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สมุทรสงคราม