ข่าว

DSI เตือนภัยเว็บไซต์ปลอมระบาด หลอกติดตั้งโปรแกรม ดักรับข้อมูลส่วนตัว

DSI เตือนภัยเว็บไซต์ปลอมระบาด หลอกติดตั้งโปรแกรม ดักรับข้อมูลส่วนตัว

27 มิ.ย. 2565

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เตือนภัยเว็บไซต์ปลอมระบาด หลอกติดตั้งโปรแกรม ดักรับข้อมูลส่วนตัว ก่อนทำธุรกรรมการเงินทางโทรศัพท์มือถือ สร้างความเสียหายจำนวนมาก

DSI เตือนภัยเว็บไซต์ปลอมระบาด หลอกติดตั้งโปรแกรม ดักรับข้อมูลส่วนตัว

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.65 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน กรณีมีคนร้ายจัดทำเว็บไซต์เลียนแบบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยระบุที่อยู่ของเว็บไซต์คือ "dsi-th.com" จึงเข้าตรวจสอบ พบว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีการคัดลอกโครงสร้างของเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ "www.dsi.go.th" เพื่อความสมจริงและแฝง Link หรือข้อความหน้าจอแนะนำให้ดาวห์โหลดโปรแกรม "DSI ระบบรักษาความปลอดภัย" โดยอ้างว่าเพื่อดูแลรักษาข้อมูลของท่านให้ปลอดภัยตอดลเวลา ซึ่งเป็นโปรแกรมไม่ประสงค์ดี ที่สามารถติดตั้งได้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และระบบ IOS หรือโทรศัพท์ไอโฟน

เมื่อติดตั้งแล้ว โปรแกรมดังกล่าวจะให้ท่านกรอกข้อมูลส่วนตัว หลังจากนั้นเมื่อมีการทำธุรกรรมใด ๆ และมีการส่งรหัส OTP มายังโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าว โปรแกรมจะดักรับข้อมูลและส่งต่อไปยังคนร้าย ทำให้คนร้ายสามารถเข้าทำธุรกรรมแทนเจ้าของโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ อันเป็นเรื่องที่อันตรายและก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่ง 

DSI เตือนภัยเว็บไซต์ปลอมระบาด หลอกติดตั้งโปรแกรม ดักรับข้อมูลส่วนตัว DSI เตือนภัยเว็บไซต์ปลอมระบาด หลอกติดตั้งโปรแกรม ดักรับข้อมูลส่วนตัว

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แก้ไขเพื่อไม่ให้สามารถเข้าสู่ "dsi-th.com" แล้ว เพื่อป้องกันความเสียหาย และขอประชาสัมพันธ์พฤติการณ์คนร้ายมามาเพื่อทราบและมีข้อแนะนำในการปฏิบัติ ดังนี้  

 

1. กรมสอบสวนคดีพิเศษมีเว็บไซต์ "www.dsi.go.th" เพียงเว็บไซต์เดียวเท่านั้น หากท่านพบว่า เว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีที่อยู่ไม่ใช่ "www.dsi.go.th" จะเป็นเว็บไซต์ปลอม เช่น "dsi-th.com" เป็นต้น


   
2. กรณีที่เป็นเว็บไซต์ปลอมขออย่าได้  กด Link กรอกข้อมูล หรือดาวน์โหลดโปรแกรมใด ๆ มาติดตั้งในโทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่านอย่างเด็ดขาด  

 
   
3. ขอให้ท่านติดตั้งโปรแกรมที่ปลอดภัยที่ผ่านการตรวจสอบของ Google Play หรือ Apps Store เท่านั้น 


      
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้ กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยละเอียดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป