แนะรัฐเก็บเงินจากการส่ง "LPG" เข้าเปโตรเคมี แก้ปัญหา "น้ำมันแพง"
เพื่อไทย แนะเก็บเงินจากการส่ง "LPG" เข้าอุตสาหกรรม เปโตรเคมี กิโลกรัมละ 1 บาท เข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อแก้ปัญหา "น้ำมันแพง"
พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยยังน่ากังวลอย่างมากใน 4 ปัญหาที่เคยเตือนไว้ตั้งแต่ต้นปีคือ ปัญหาราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมันแพง ก๊าซ และไฟฟ้า ปัญหาข้าวของแพงและอัตราเงินเฟ้อสูง ปัญหาหนี้ ทั้งหนี้ประเทศและหนี้ประชาชน และปัญหาดอกเบี้ยขาขึ้น โดยทั้ง 4 ปัญหานี้จะเป็นปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย 8 มาตรการ ช่วยเหลือประชาชน แต่ในความเป็นจริงส่งผลน้อยมาก หรือแทบไม่ช่วยเลย ไม่ว่าจะเป็น มาตรการช่วยแม่ค้าหาบเร่แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการของรัฐ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นค่าก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท ซึ่งเท่ากับช่วยวันละ 3.33 บาท ซึ่งน้อยมาก
มาตรการตรึงราคา NGV สำหรับแท็กซี่ ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน ซึ่งก็ดีแต่มีคนจำนวนไม่มากนักที่ได้ประโยชน์
วางกรอบขายปลีก LPG ที่ 408 บาท / ถัง 15 มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยให้เอกชนสามารถนำมาหักภาษีได้ 1.5 เท่า เมืองรอง 2 เท่า แต่รัฐบาลกลับมีแนวคิดจะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 300 บาท ซึ่งย้อนแย้งกัน
ส่วนการอุดหนุนราคาดีเซล 50% ในส่วนที่สูงเกิน ลิตรละ 35 บาท เท่ากับเป็นการประกาศว่าจะขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเกินกว่าลิตรละ 35 บาท และ ขอความร่วมมือจากโรงกลั่น ในการส่งกำไรจากส่วนต่างของน้ำมันเบนซินและดีเซล ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่เพราะโรงกลั่นต้องไปถามผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก่อน
ดังนั้นจะเห็นได้ชัดว่า มาตรการต่างๆ แทบไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนเลย แถมยังซ้ำเติมความยากลำบากอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม และขึ้นราคาน้ำมันดีเซล เป็นการเพิ่มภาระอย่างชัดเจน
เพื่อไทยจึงอยากขอแนะนำวิธีการหาเงินที่ถูกต้องและสามารถทำได้ทันที คือการสั่งให้เก็บเงินจากการส่งก๊าซ LPG เข้าอุตสาหกรรมเปโตรเคมีแล้ว ในอัตรา กก. ละ 1 บาทเข้ากองทุนน้ำมัน ทั้งนี้เพราะก๊าซ LPG ได้มาจากก๊าซในอ่าวไทยโดยผ่านจากโรงงานแยกก๊าซและ ก๊าซ LPG เป็นอัตรา กก. ละ 5-8 บาท เพราะราคา LPG ปัจจุบันสูงขึ้นกว่าเดิมมาก มีผลกระทบน้อยมาก แต่จะทำให้กองทุนน้ำมันได้เงินเป็นหมื่นล้านบาท และสามารถทำได้ทันทีและถูกกฎหมาย
เรื่องเก็บเงินก๊าซ LPG จากธุรกิจเปโตรเคมีนี้ พลเอกประยุทธ์ ต้องอย่าเห็นประโยชน์ของ ปตท. มากกว่าประโยชน์ของประชาชน ซึ่งถ้าพลเอกประยุทธ์ ไม่ทำ พรรคเพื่อไทยจะทำแน่เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันแพงถ้าชนะการเลือกตั้งเพราะเป็นความชอบธรรมและเป็นประโยชน์กับประชาชน
ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเพื่อนำประเทศให้หลุดพ้นจากปัญหาที่รุมเร้า โดยไม่อยากให้ประเทศไทยต้องล้มละลายเหมือนกับประเทศศรีลังกาที่ประชาชนกำลังลำบากกันอย่างมาก เพราะมีผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์และขาดความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน