"สุวัจน์"ชู เกษตร-อาหาร-ท่องเที่ยว- ซอฟท์พาวเวอร์ ฟื้นเศรษฐกิจไทย
"สุวัจน์” ชี้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจควรใช้จุดแข็งของประเทศ คือ เกษตร อาหาร ท่องเที่ยว และ ศิลปะ ดนตรี ที่เรียกว่า ซอฟท์พาวเวอร์ ของประเทศนำมาต่อยอดสร้างเศรษฐกิจใหม่ฟื้นเศรษฐกิจไทย
วันที่ 29 มิถุนายน 2565 เวลา 16.00 น. ณ บลูพอร์ต หัวหิน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานในพิธี “Durian Buffet Festival 2022 ” กล่าวว่า จากสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครน ทั้งปัญหาน้ำมัน ภาวะเงินเฟ้อ ดังนั้นแนวการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ควรใช้จุดแข็งของประเทศ คือ เรื่องสินค้าเกษตร อาหาร ท่องเที่ยว และ ศิลปะ เรียกว่า ซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศ หากนำมาต่อยอดสร้างความเชื่อมโยงให้เป็นโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป และฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
“วันนี้ เราต้องสู้กับวิกฤต เราต้องชนะวิกฤตให้ได้และอะไรที่จะเป็นจุดแข็งในระบบเศรษฐกิจของประเทศที่จะสร้างความยั่งยืนและสร้างความเป็นอยู่ให้พี่น้องประชาชน ถ้ามองประเทศไทย เรามีจุดแข็ง 4 เรื่อง 1.เป็นประเทศเกษตร 2.เป็นประเทศอาหาร 3.เป็นประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งเราเรียกว่าซอฟท์พาวเวอร์ และ 4.เป็นเมืองท่องเที่ยวของโลก เป็นสิ่งที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นจุดแข็งของเรา เป็นธรรมชาติและบรรพบุรุษสร้างไว้ให้ ไม่มีใครแย่งเราไปได้ เหมือนที่เค้าเรียกว่า GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์”
นายสุวัจน์ ย้ำว่าเมืองไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ข้าว อ้อย ยาง มันสำปะหลัง ข้าวโพด สิ่งต่างๆ เป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศ และวิธีดีที่สุดที่จะสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืน คือ หยิบสิ่งเหล่านี้ เพื่อมาสร้าง มาทำกันอย่างจริงๆ ในการที่จะใช้เทคโนโลยี และสร้างมูลค่าเพิ่ม การสร้างความหลากต่างๆ
อย่างวันนี้ เราหยิบเพื่อส่งเสริมทุเรียน เพราะจีดีพีเรา 16 ล้านล้านบาท ปีที่แล้วปีเดียวเราส่งออกสินค้าผลไม้ เงาะ ทุเรียน ลำไย มะม่วง มังคุด 2 แสนล้าน เราส่งออกข้าว 6 ล้านตัน 1 แสนล้าน ซึ่งปีนี้เราส่งทุเรียนไปจีนไม่ต่ำกว่าแสนล้าน ผลไม้เราเป็นที่รู้จัก และเป็นรายได้ส่งออกที่ดีต่อจีดีพี ถ้าเราสามารถหยิบสิ่งเราเหล่านี้แล้วมาต่อยอดมาสร้างแพลตฟอร์มใหม่ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ อะไรที่เป็นจุดแข็งต้องเหยียบคันเร่งเลย จุดแข็งของประเทศคือ ความเป็นเมืองเกษตร เป็นเมืองอาหาร ความเป็นเมืองซอฟท์พาวเวอร์ เป็นเมืองท่องเที่ยว ถ้าทั้งสี่ข้อนี้เชื่อมโยงกันหมดให้เป็นโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ จะทำให้เราฝ่าวิกฤตไปได้ เมืองไทยจะยิ่งใหญ่และยั่งยืน
“เรามีอนาคตขอให้เรา มีความคิดเห็นตรงกัน ช่วยกันรักษาสิ่งต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ เหมือนกิจกรรมวันนี้ เป็นการต่อยอดจุดแข็งที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจใหม่ของประเทศที่เกิดขึ้นที่เมืองหัวหิน ทุกอำเภอ ทุกจังหวัดของเมืองไทยมีจุดแข็งเพียงแต่เราต้องช่วยกันพัฒนาหยิบยกขึ้นมาให่เห็นทุกภาคส่วนช่วยกันทำอันนี้ก็คือการกอบกู้วิกฤตของประเทศ”
นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้เราเดินมาถูกทางในการโปรโมทเมืองหัวหินให้มีจุดขายทางด้านการท่องเที่ยวโดยหยิบเอาอาหารดีๆ วัฒนธรรมดีๆ ศิลปะดีๆ ดนตรีดีๆ ถือว่าเป็นซอฟท์พาวเวอร์ให้มีจุดขายด้วยการส่งเสริมเรื่องทุเรียนตะนาวศรีคีรีขันธ์ ที่มีเอกลักษณ์จากความอุดมสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติ ทำให้เนื้อดีละเอียด หนา ไม่เละ หวาน อร่อยกลิ่นไม่แรง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่เกษตรจังหวัดได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ซึ่งถ้าทั่วโลกต้องการกินทุเรียนตะนาวศรีคีรีขันธ์ต้องมาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกร มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับการจัดกิจกรรม “Durian Buffet Festival 2022 ”ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยกันสร้างเมืองหัวหินให้เป็นที่รู้จัก ภายใต้แนวคิด สร้างความแข็งแรงให้แก่ทุเรียนสายพันธุ์ตะนาวศรีคีรีขันธ์ โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทอง สายพันธุ์ป่าละอู ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ มีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ใน ป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้ทุเรียนเป็นจุดขาย มีเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวหัวหินมากขึ้น
ภายในการจัดงาน“Durian Buffet Festival 2022 ”ได้จัดประกวดคุณภาพของทุเรียนพันธุ์หมอนทองป่าละอู ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 20,000 บาท พร้อมประกาศเกียรติบัตรจาก เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และยังมีกิจกรรมไฮไลต์ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ บุฟเฟ่ต์ทุเรียนและผลไม้ไทยพร้อมชมลีลาที่สนุกสนานของผู้เข้าแข่งขันกิจกรรมการแข่งกินทุเรียนสำหรับผู้ใหญ่ และเด็ก ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 10,000 บาท, การออกร้านจำหน่ายผลไม้และทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ คัดสรรจากแหล่งเพาะปลูกและสวนที่มีคุณภาพ อาทิ ทุเรียนพันธุ์ป่าละอู ก้านยาว พวงมณี
สำหรับงาน“Durian Buffet Festival 2022 ” ณ ลานเดอะสแควร์ ด้านหน้าบลูพอร์ต หัวหิน ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน ถึง วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 งานนี้คนรักทุเรียนต้องห้ามพลาด มาร่วมส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าเกษตรกรไทย