จับมือ 3 ฝ่าย "ตำรวจ-เทศกิจ-โรงเรียน" อุดช่องว่าง เหตุร้ายกับนักเรียน
ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ 3 คนร้าย ทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) ระบุบูรณาการทำงาน 3 หน่วยงาน "ตำรวจ-เทศกิจ-โรงเรียน" อุดช่องว่าง ป้องกันเหตุร้ายเกี่ยวกับนักเรียน
จากกรณีกลุ่มเยาวชน 3 คน ทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน โรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) เพื่อหวังปล้น"เข็มพระเกี้ยว" เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 15.40 น.ของวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา ล่าสุด พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษา ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง ดร.สมพร สังวาระ ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผกก.สน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุ
พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายตนในฐานะที่ดูแลในเรื่องของความปลอดภัยและด้านอาชญากรรม ให้มาดูสถานที่เกิดเหตุ และดำเนินการในการแก้ไข จากการพูดคุยจะใช้การประสานงานใน 3 ส่วนที่สำคัญ เพื่อให้เกิดแนวทางการปฏิบัติในระยะแรกก่อน และจะแก้ไขให้ยั่งยืนในอนาคต ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่ายได้แก่ สถานีตำรวจพื้นที่ โรงเรียน และสำนักงานเขตพื้นที่ เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกันในเรื่องของปัญหาการชิงทรัพย์นักเรียน ซึ่งในกรณีของโรงเรียนหอวังเมื่อวานนี้ ได้แก้ไขปัญหาทางด้านกายภาพไปหมดแล้ว โดยการตัดกิ่งไม้ที่บดบังทัศนวิสัยของกล้องวงจรปิด เพื่อให้คนร้ายรู้สึกว่ามีกล้องวงจรปิด และเกรงกลัวต่อการก่อเหตุ
สำหรับกรณีการก่อเหตุครั้งนี้ เป็นกรณีที่มีคนพลุกพล่าน ไม่ใช่สถานที่มืดและเปลี่ยว ซึ่งมีผู้ปกครองจอดรถอยู่จึงสามารถบันทึกภาพไว้ได้ รวมถึงผู้ปกครองได้มีการแสดงตนทำให้คนร้ายหนีไป โดยเป็นเหตุจากเยาวชนวัยรุ่นต้องการแสดงตน ด้วยการแสดงออกในทางที่ผิด ซึ่งเราในฐานะผู้ใหญ่ต้องมีการป้องกันและอุดช่องว่าง ไม่ให้มีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นกับนักเรียนและเยาวชน โดยในส่วนของสำนักงานเขตจะส่งกำลังเทศกิจมาดูแลนักเรียนในช่วงเช้าและช่วงเลิกเรียน รวมถึงช่วงเวลาที่เป็นจุดอ่อนตามความเหมาะสม ในส่วนของตำรวจที่มาดูแลในเรื่องของการจราจรอยู่แล้ว ก็จะขอให้เป็นวิทยากรเพื่อมอบความรู้ในการป้องกันเหตุร้ายให้กับเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียนด้วย เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยเฉพาะว่าต้องทำอย่างไรบ้าง รวมถึงระบบต่าง ๆ ที่จะใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งในเบื้องต้นทางตำรวจแจ้งว่า ได้มีการอบรมเจ้าหน้าที่ทั้งเทศกิจและเจ้าหน้าที่โรงเรียนร่วมกันมานานแล้ว แต่ในช่วงที่เกิดเหตุอาจเป็นช่วงรอยต่อที่เป็นช่องว่างพอดี
ต่อไปนี้อาจจะต้องเพิ่มความเข้มข้น ของมาตรการในการป้องกันเหตุ ในการอบรมการสังเกตผู้ต้องสงสัยเพื่อให้สามารถสกัดคนร้ายก่อนก่อเหตุได้ รวมถึงการเฝ้าระวังในจุดเกิดเหตุที่ล่อแหลมที่สามารถก่อเหตุได้เพื่อให้เกิดพื้นที่ปลอดภัยกับนักเรียน และจะรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครทราบต่อไป