สถานฑูต สถานกงศุล หลายประเทศ ประกาศห้ามนำกัญชงกัญชาเข้าประเทศ
สถานเอกอัคราชทูต สถานกงศุลประเทศต่างๆ ในไทย หลายแห่งเผยแพร่ประกาศคำเตือนเกี่ยวกับ การนำเข้า การใช้ กัญชา กัญชง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง หากฝ่าฝืนปรับหนัก เนรเทศ จำคุกตลอดชีวิต ไม่เว้นกัญชาทางการแพทย์
ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีการปลดล็อกกัาไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้การขาย กัญชา กัญชง นั้นถูกกฎหมายและสามารถทำได้ทั่วราชอาณาจักรไทย แต่วันนี้ก็พบว่ามีหลายประเทศออกมาประกาศเตือนพลเมืองของประเทศนั้นๆ และคนไทยที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศดังกล่าว ระมัดระวังการนำผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชา กัญชง เข้าประเทศ ต้องอ่านข้อกำหนด ฝ่าฝืนปรับหนัก เนรเทศ จำคุกตลอดชีวิต ไม่เว้นกัญชาทางการแพทย์ ไปดูกันว่ามีประเทศอะไรบ้าง
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เตือนคนไทย ห้ามนำกัญชา กัญชง เข้าประเทศญี่ปุ่น หากฝ่าฝืน มีโทษตามกฎหมายญี่ปุ่น
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ขอแจ้งเตือนคนไทย ห้ามนำเข้ากัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าว เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น
หากฝ่าฝืน มีโทษตามกฎหมายญี่ปุ่น
มีไว้ในครอบครองเพื่อนำเข้าและส่งออก
-มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
สถานเอกอัคราชฑูต ณ กรุงโซล
ประกาศ เตือนคนไทยที่จะเดินทางมาหรือพำนักอยู่ในเกาหลีใต้ ห้ามนำเข้า กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเข้ามาในประเทศเกาหลีใต้
หากฝ่าฝืน จะมีโทษตามกฎหมายเกาหลีใต้
ลักลอบนำเข้า - จำคุก 5 ปีขึ้นไป หรือตลอดชีวิต
ปลูกหรือจำหน่าย - จำคุกอย่างน้อย 1 ปี
มีไว้ครอบครองหรือเสพ - จำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ถูกเนรเทศห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก
สถานฑูตจีนประจำประเทศไทย
สถานทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการใช้กัญชาของชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อป้องกันการใช้ในทางที่ผิดกฎหมายทั้งของไทยและของจีน และเพื่อให้ชาวจีนทราบแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้กัญชา
โดยข้อความที่สถานทูตจีนแจ้งไว้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน
ส่วนที่หนึ่ง เกี่ยวข้องกับการนำกัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาไปใช้ในประเทศจีนหรือบทลงโทษจากประเทศจีนเกี่ยวกับการใช้กัญชา ซึ่งในส่วนนี้สถานทูตจีน ระบุว่า การสูบกัญชา หรือบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมของคนจีนขณะที่อยู่ในประเทศไทย แต่ถูกตรวจพบเมื่อกลับมาถึงประเทศจีน จะเท่ากับเป็นการใช้กัญชาในประเทศจีน มีผลต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย โดยการสูบหรือบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชา จะทำให้มีสารตกค้างในร่างกาย จึงสามารถตรวจหาสารเสพติดได้ นอกจากนี้กฎหมายอาญา มาตรา 357 ของประเทศจีน ระบุไว้ชัดว่า กัญชาเป็นยาเสพติด การปลูก แปรรูป บริโภค และขายกัญชาในจีนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนสาร THC ก็จัดเป็นยาเสพติดเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีสาร THC หรือการนำกัญชาเข้ามาประเทศจีน ล้วนเป็นความผิดอาญาทั้งหมด
ส่วนที่สอง เป็นส่วนที่เกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งสถานทูตจีน ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีกฎชัดเจนว่าชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทยสามารถปลูกกัญชาได้หรือไม่ แต่ที่ชัดเจน คือ รัฐบาลไทยยังควบคุมอุตสาหกรรมกัญชาอย่างเข้มงวด โดยการใช้ต้องเป็นไปเพื่อเหตุผลทางการแพทย์และสุขภาพ ส่วนการนำเข้า เพาะปลูก ผลิตและขายกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการผลิตและขายผลิตภัณฑ์กัญชาที่มีสาร THC เกิน 0.2% ทั้งหมดถือเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกหรือปรับอย่างหนึ่งอย่างใดหรือทั้งสองอย่าง
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ขอแจ้งเตือนคนไทย
- ห้ามนำเข้า กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเข้ามาในประเทศออสเตรเลีย
- กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้กฎหมาย NSW และจัดเป็นสารเสพติด
ฉะนั้น การนำเข้ามาในประเทศโดยมิชอบด้วยกฎหมายของ NSW ถือเป็นความผิด มีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม การนำยารักษาโรคที่มีส่วนประกอบของกัญชาเข้ามานั้นจะขึ้นกับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ขอให้ท่านพกใบสั่งยา หรือจดหมายจากแพทย์ติดตัวมาด้วย
สถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงลอนดอน
ข้อมูลสำคัญสำหรับผู้เดินทางชาวไทย กฎหมายของสหราชอาณาจักร ห้ามการนำเข้ากัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดของพืชดังกล่าว
หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5 - 14 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำและปรับ
(อ้างอิง UK Home Office)
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา
21 มิถุนายน 2565 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอแจ้งเตือนคนไทยมิให้นำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเข้ามาในประเทศอินโดนีเซีย
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ขอแจ้งเตือนคนไทย ห้ามนำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าว เข้ามาในประเทศสิงคโปร์ หากฝ่าฝืน มีโทษตามกฎหมายสิงคโปร์
- มีไว้ในครอบครองหรือเสพ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ลักลอบนำเข้า ส่งออก ผู้กระทำผิดอาจได้รับโทษ ประหารชีวิต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ขอเรียนว่า กัญชาและสารสกัดจากกัญชายังเป็นยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายยาเสพติดของประเทศเวียดนาม ห้ามใช้ทางการแพทย์และใช้ในชีวิตประจำวันในเวียดนาม
การนำกัญชาและสารสกัดที่ส่วนผสมของกัญชาทุกชนิดเข้ามาในเวียดนาม มีความผิดตามกฎหมาย ผู้ที่มีไว้ในครอบครอง (ทั้งเพื่อเสพหรือเพื่อจำหน่าย) มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000,000 - 500,000,000 ดอง และจำคุกตั้งแต่ 2 ปี จนถึงโทษประหารชีวิต
อนึ่ง ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการรับฝากสิ่งของจากผู้อื่นเข้ามายังประเทศเวียดนาม
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี
ยูเออีประกาศแก้ไขกฎหมายยาเสพติดของยูเออีมีผลใช้บังคับในเดือน ม.ค. 2565 เพื่อดำเนินคดีทางอาญาต่อผู้ครอบครองผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชา (สารประกอบ THC หรือผลิตภัณฑ์ กัญชาทางการแพทย์ และอาหารบางชนิด เช่น ผลิตภัณฑ์จากกัญชง) จะถูกยึดและทำลายแทนโดยไม่มีการลงโทษสำหรับการครอบครองครั้งแรก และจะถูกดำเนินคดีหากทำความผิดซ้ำ แต่ผู้ที่ครอบครองบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ที่มีสารสกัดจากกัญชา เช่น น้ำมัน CBD จะยังคงถูกดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน
ประกาศเตือนการนำสมุนไพร อาหารเสริม เวชภัณฑ์ หรือสารสกัดที่ไม่มีฉลากประกอบชัดเจนตามที่มีรายงานข่าวนักศึกษาไทยถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้เข้าประเทศและส่งกลับประเทศไทย พร้อมทั้งถูกห้ามเข้าประเทศสหรัฐฯ เป็นเวลา 5 ปีเนื่องจากนำสิ่งของ ต้องห้ามเข้าประเทศสหรัฐฯ นั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ขอแจ้งเตือนชาวไทยที่พกยา สมุนไพร อาหารเสริม สารสกัด หรือเวชภัณฑ์ใดๆ เดินทางมายังสหรัฐฯ ขอให้มีฉลากภาษาอังกฤษที่ระบุส่วนประกอบอย่างชัดเจนโดยไม่ควรนำยาหรือเวชภัณฑ์ใดๆ ที่มีส่วนประกอบของกัญชาและสารต้องห้ามติดตัวมาด้วย
ทั้งนี้ ท่านสามารถตรวจสอบและศึกษาข้อมูลรายการสิ่งของต้องห้ามนำเข้าสหรัฐฯ ได้ที่
https://www.cbp.gov/travel/us-citizens/know-before-you-go/prohibited-and-restricted-items