ตำรวจเร่งไล่ล่าคนร้ายฆ่าปาดคอชิงทรัพย์ แม่ค้าร้านขายของชำที่บึงกาฬ
ตำรวจเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายที่ลงมือฆ่าปาดคอโหด แม่ค้าร้านขายของชำใน จ.บึงกาฬ ส่วนสาเหตุคาดว่าชิงทรัพย์ และเข้ามาหลบภายในบ้านพอได้จังหวะจึงลงมือก่อเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำ ชื้อร้านจอยแอนด์โอเว่น ลักษณะบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ม.1 บ้านป่งไฮ ต.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย บก 3012 ก่อนถึงสถานีอนามัยป่งไฮ ประมาณ 100 เมตร ในบ้านชั้นล่าง พบศพนางอนัญญา บุญปากดี หรือ เจ๊แดง อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านและเจ้าของร้านนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพสวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีดำมีแถบสีขา ที่บริเวณลำคอถูกของมีคมปาดเข้าไปลึกประมาณ 2-3 นิ้ว ยาวเกือบครึ่งลำคอ เลือดเต็มที่นอนโซฟาไหลนองลงพื้นจนแห้ง หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บร่องรอยคราบเลือด ลายนิ้วมือแฝง กู้ภัยจึงได้นำศพส่งไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.เซกา
ด้าน นายหวัน บุญปากดี อายุ 74 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า ตนตื่นนอนออกมาจากบ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้กันประมาณตี 4 กว่าๆ ยังพบรถยนต์ของลูกสาวจอดอยู่ เอะใจทำไมลูกไม่ไปตลาด เพราะทุกวันลูกสาวจะไปตลาดเวลาตี 4 ประจำ จึงเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไป ดูเห็นนอนอยู่บนโซฟา จึงตะโกนเรียก สักพักเดินไปปลุกโดยจับที่ขา พบว่าตัวแข็งไม่กระดิก มีผ้าปิดไว้ที่คอ จึงเดินไปใกล้ๆ ดึงผ้าออกถึงกลับต้องผงะ พบลูกสาวถูกปาดคอ จึงแจ้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้มาช่วยดู โดยตนไม่ทราบว่าลูกสาวมีเรื่องกับใครหรือเปล่า แต่ก็เคยโวยวายกับลูกค้าที่มายืมเงินไปบ้าง บอกให้เอาเงินมาคืนเพราะไม่มีเงินไปตลาด บางทีก็มีชาวบ้านมาขออาศัยช่วยให้โอนเงินเข้าบัญชี 100-200 บาท ก็ช่วยเหลือตลอด ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
ส่วน นายธนวัฒน์ พอพาน อายุ 20 ปี ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า ตนเรียนอยู่จังหวัดสกลนคร พอทราบเรื่องก็รีบเดินทางกลับมา โดยเมื่อวันศุกร์ยังโทรมาหาแม่อยู่เลย แม่ถามว่าไม่กลับหรือลูก ตนก็บอกว่าไม่ได้กลับเพราะค่าน้ำมันมันแพง และหนูเหลือเงินอยู่แค่ร้อยเดียว แต่อาทิตย์หน้าหนูอาจจะกลับ ซึ่งก็บอกไปแค่นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งเช็กกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหาตัวคนร้ายใจเหี้ยมรายนี้มาดำเนินคดี
พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่า ได้รีบนำทีมตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่เกิดเหตุทันที จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า คืนที่ผ่านมาประมาณ 4 ทุ่มร้านยังเปิดปกติ มีลูกค้ามาซื้อของอยู่ น่าจะปิดร้านประมาณ 5 ทุ่ม แล้วมาเจอศพในช่วงเช้า เมื่อพ่อของผู้ตายไปปลุกพบว่าถูกฆ่าแล้ว และผู้ตายอยู่ในบ้านร้านค้าเพียงคนเดียว หย่าสามีไปเมื่อหลายปี อาศัยอยู่ที่ร้านกับหลาน แต่วันเกิดเหตุหลานไม่ได้มาอยู่ด้วย ซึ่งได้ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บดีเอ็นมา รอยเลือด ลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ ส่วนบริเวณรอบนอกตอนนี้ให้ชุดสืบสวนไล่ดูตามกล้องวงจรปิดในมุมต่างๆ โดยตั้งประเด็นไว้ที่การชิงทรัพย์ กำลังตรวจสอบว่ามีอะไรหายไปบ้าง ซึ่งคดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ และสั่งการให้เร่งคลี่คลาย เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ คิดว่าไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ