เจ้าของ "บริษัทรับจัดงานศพ" สารภาพขโมยร่าง-ชิ้นส่วนศพไปขาย 8 ปีโกยอื้อ
อดีตเจ้าของ "บริษัทรับจัดงานศพ" ในรัฐโคโลราโด ให้การสารภาพ ขโมยศพ-อวัยวะผู้ตายไปขายอย่างผิดกฎหมาย 8 ปี โกหกญาติคนตายว่าเผาแล้ว
เมแกน เฮสส์ อดีตเจ้าของบริษัทรับจัดงานศพ ซันเซต เมซา ฟิวเนอรัล โฮม เมืองมอนต์โรส รัฐโคโลราโด ให้การรับสารภาพว่าขโมยศพและชิ้นส่วนร่างผู้ตายจำนวนหลายร้อยชิ้น นำไปขายต่อให้กับบุคคลและบริษัทวิจัย เพื่อนำไปใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และการศึกษา
เฮสส์ถูกยื่นฟ้องเอาผิดพร้อมกับมารดา นางเชอร์รี โคช ที่บริหารกิจการรับทำศพด้วยกัน ในข้อหา mail fraud หรือการใช้ระบบไปรษณีย์เพื่อฉ้อโกงเหยื่อ 6 กระทง และขนส่งวัตถุอันตราย 3 กระทงในเดือนมีนาคม 2563 แต่เธอตัดสินใจทำข้อตกลงรับสารภาพ แลกกับการถูกแจ้งข้อหาเบาลง ก่อนที่การพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์
เฮสส์กับแม่ เปิดบริษัทรับทำศพในปี 2552 เริ่มขายศพและส่วนต่าง ๆ ของร่างคนตายต่อเนื่อง 8 ปี นับจากปี 2553-2561 สองแม่ลูกคิดค่าบริการทำศพราว 1 พันดอลลาร์ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าคู่แข่ง เพื่อให้ได้ศพหรือชิ้นส่วนไปขายอย่างไม่ขาดตอน และทำรายได้มากกว่าทำศพสองเท่า
เพื่อเพิ่มยอดขาย เฮสส์กับแม่พุ่งเป้าครอบครัวยากจน เพื่อเสนอให้บริการทำศพโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ครอบครัวที่เลือกฌาปนกิจ จะได้รับโกศบรรจุฝุ่นอย่างฝุ่นคอนกรีต แทนเถ้าอัฐิโดยไม่รู้ตัว เพราะการเผาศพไม่เคยเกิดขึ้นจริง หากครอบครัวใดตกลงบริจาคอวัยวะ เพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ เฮสส์กับโคช ก็นำศพไปขายในราคาแพงกว่าที่ครอบครัวให้ความยินยอม ซึ่งการบริจาคโดยมาก จำกัดที่ตัวอย่างเนื้อเยื่อจำนวนเล็กน้อย เนื้องอกหรือผิวหนังบางส่วน
สองแม่ลูกทำรายได้จำนวนมาก จากการขายศพโดยไม่ได้รับการยินยอมจากครอบครัวผู้ตาย ขณะอดีตลูกจ้างให้การว่า มีอยู่ปีหนึ่ง ทั้งสองทำเงินได้ 4 หมื่นดอลลาร์ ( ราว 1.4 ล้านบาท ) จากฟันทองคำขโมยจากศพ จนพากันไปเที่ยวดิสนีย์เวิล์ด ได้ทั้งครอบครัว
สำนักงานอัยการสหรัฐระบุว่า เฮสส์กับโคช ยังจัดส่งศพและชิ้นส่วนร่างกายของผู้เสียชีวิตจากโรคติดต่อ เช่น ตับอักเสบ บี ตับอักเสบซี และเอชไอวี โดยไม่บอกผู้ซื้ออีกด้วย
เฮสส์ วัย 45 ปี ยอมรับว่า เธอหลอกลวงครอบครัวอย่างน้อย 12 ครอบครัว ที่ขอให้ช่วยเผาญาติพี่น้อง แต่แทนที่จะนำไปเผา กลับตัดเอาศีรษะ ไขกระดูกสันหลัง แขน ขา นำไปขายต่อ ส่วนมากเพื่อไปใช้ในการศึกษาและฝึกผ่าตัด
หากถูกตัดสินความผิด เฮสส์จะถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี แต่อัยการเสนอให้ศาลลงโทษ 12-15 ปี ส่วนนางโคช มารดาของเธอ มีกำหนดขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีในอนาคตอันใกล้ หากถูกตัดสินมีความผิดทุกข้อหา อาจเจอโทษจำคุก 135 ปี
รายงานระบุว่า การขายอวัยวะ อย่างหัวใจ ไต กระดูกและเส้นเอ็น เพื่อการผ่าตัดปลูกถ่าย เป็นเรื่องผิดกฎหมายในสหรัฐ แต่การขายศพ และอวัยวะของผู้ตายเพื่อใช้ในการวิจัยหรือศึกษาอย่างที่เฮสส์ทำ ยังไม่มีกฎหมายกลางบัญญัติ มีไม่กี่รัฐที่เท่านั้นที่ออกกฎหมายกำกับไว้