ข่าว

เจ้าของ "บริษัทรับจัดงานศพ" สารภาพขโมยร่าง-ชิ้นส่วนศพไปขาย 8 ปีโกยอื้อ

เจ้าของ "บริษัทรับจัดงานศพ" สารภาพขโมยร่าง-ชิ้นส่วนศพไปขาย 8 ปีโกยอื้อ

07 ก.ค. 2565

อดีตเจ้าของ "บริษัทรับจัดงานศพ" ในรัฐโคโลราโด ให้การสารภาพ ขโมยศพ-อวัยวะผู้ตายไปขายอย่างผิดกฎหมาย 8 ปี  โกหกญาติคนตายว่าเผาแล้ว   

 

เมแกน  เฮสส์  อดีตเจ้าของบริษัทรับจัดงานศพ ซันเซต เมซา ฟิวเนอรัล โฮม เมืองมอนต์โรส รัฐโคโลราโด ให้การรับสารภาพว่าขโมยศพและชิ้นส่วนร่างผู้ตายจำนวนหลายร้อยชิ้น นำไปขายต่อให้กับบุคคลและบริษัทวิจัย เพื่อนำไปใช้ทางวิทยาศาสตร์  การแพทย์ และการศึกษา

 

เฮสส์ถูกยื่นฟ้องเอาผิดพร้อมกับมารดา นางเชอร์รี โคช  ที่บริหารกิจการรับทำศพด้วยกัน ในข้อหา mail fraud หรือการใช้ระบบไปรษณีย์เพื่อฉ้อโกงเหยื่อ 6 กระทง และขนส่งวัตถุอันตราย 3 กระทงในเดือนมีนาคม 2563  แต่เธอตัดสินใจทำข้อตกลงรับสารภาพ แลกกับการถูกแจ้งข้อหาเบาลง ก่อนที่การพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์


 

 

 

เฮสส์กับแม่ เปิดบริษัทรับทำศพในปี  2552   เริ่มขายศพและส่วนต่าง ๆ ของร่างคนตายต่อเนื่อง 8 ปี  นับจากปี 2553-2561 สองแม่ลูกคิดค่าบริการทำศพราว 1 พันดอลลาร์  ซึ่งถือว่าต่ำกว่าคู่แข่ง เพื่อให้ได้ศพหรือชิ้นส่วนไปขายอย่างไม่ขาดตอน และทำรายได้มากกว่าทำศพสองเท่า 

 

เพื่อเพิ่มยอดขาย เฮสส์กับแม่พุ่งเป้าครอบครัวยากจน เพื่อเสนอให้บริการทำศพโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย  ครอบครัวที่เลือกฌาปนกิจ จะได้รับโกศบรรจุฝุ่นอย่างฝุ่นคอนกรีต แทนเถ้าอัฐิโดยไม่รู้ตัว  เพราะการเผาศพไม่เคยเกิดขึ้นจริง หากครอบครัวใดตกลงบริจาคอวัยวะ เพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์  เฮสส์กับโคช ก็นำศพไปขายในราคาแพงกว่าที่ครอบครัวให้ความยินยอม ซึ่งการบริจาคโดยมาก  จำกัดที่ตัวอย่างเนื้อเยื่อจำนวนเล็กน้อย เนื้องอกหรือผิวหนังบางส่วน   

 

 

 

 

เจ้าของ \"บริษัทรับจัดงานศพ\" สารภาพขโมยร่าง-ชิ้นส่วนศพไปขาย 8 ปีโกยอื้อ

 

สองแม่ลูกทำรายได้จำนวนมาก จากการขายศพโดยไม่ได้รับการยินยอมจากครอบครัวผู้ตาย  ขณะอดีตลูกจ้างให้การว่า มีอยู่ปีหนึ่ง  ทั้งสองทำเงินได้ 4 หมื่นดอลลาร์ (  ราว 1.4 ล้านบาท )  จากฟันทองคำขโมยจากศพ จนพากันไปเที่ยวดิสนีย์เวิล์ด ได้ทั้งครอบครัว

 

สำนักงานอัยการสหรัฐระบุว่า เฮสส์กับโคช ยังจัดส่งศพและชิ้นส่วนร่างกายของผู้เสียชีวิตจากโรคติดต่อ เช่น ตับอักเสบ บี  ตับอักเสบซี และเอชไอวี โดยไม่บอกผู้ซื้ออีกด้วย  

 

เฮสส์ วัย 45 ปี ยอมรับว่า เธอหลอกลวงครอบครัวอย่างน้อย 12 ครอบครัว ที่ขอให้ช่วยเผาญาติพี่น้อง แต่แทนที่จะนำไปเผา กลับตัดเอาศีรษะ  ไขกระดูกสันหลัง แขน ขา  นำไปขายต่อ ส่วนมากเพื่อไปใช้ในการศึกษาและฝึกผ่าตัด


หากถูกตัดสินความผิด เฮสส์จะถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี  แต่อัยการเสนอให้ศาลลงโทษ 12-15 ปี  ส่วนนางโคช มารดาของเธอ  มีกำหนดขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีในอนาคตอันใกล้ หากถูกตัดสินมีความผิดทุกข้อหา  อาจเจอโทษจำคุก  135 ปี 
 


รายงานระบุว่า การขายอวัยวะ อย่างหัวใจ ไต กระดูกและเส้นเอ็น เพื่อการผ่าตัดปลูกถ่าย เป็นเรื่องผิดกฎหมายในสหรัฐ แต่การขายศพ และอวัยวะของผู้ตายเพื่อใช้ในการวิจัยหรือศึกษาอย่างที่เฮสส์ทำ ยังไม่มีกฎหมายกลางบัญญัติ  มีไม่กี่รัฐที่เท่านั้นที่ออกกฎหมายกำกับไว้