จับซีอีโอหนุ่มใหญ่ คดีฆาตกรรมวิศวกรหญิง 30 ปีก่อน ปมหึงหวง-แอบชอบแฟนเหยื่อ
คดีดังในสหรัฐอเมริกา ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีต้องสงสัยฆาตกรรมหญิงสาว เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ปมแอบรักแฟนของเหยื่อ หลักฐานดีเอ็นเอใหม่มัดตัว เตรียมเข้ารับพิจารณาคดีเป็นครั้งที่สาม
จอห์น เควิน วูดเวิร์ด ซีอีโอ Readytech บริษัทซอฟต์อบรมออนไลน์ ถูกจับกุมทันทีที่ถึงสนามบินเจเอฟเค ในนิวยอร์ก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ( 11 ก.ค.) หลังเดินทางมาจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเขาจะถูกส่งตัวไปที่เมือง เมาท์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อเข้ารับการพิจารณาคดีเป็นครั้งที่สาม ในคดีฆาตกรรม ลอรี ฮูตส์ วิศวกรคอมพิวเตอร์ อดีตพนักงาน Adobe System วัย 25 ปี
ย้อนกลับไป 30 ปีที่แล้ว ที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะนั้น วูดเวิร์ดเป็นเพื่อนร่วมห้องของแฟนผู้ตาย ฮูตส์ถูกพบเป็นศพอยู่ในรถ จอดอยู่ใกล้ถังขยะ ห่างจากที่ทำงานของเธอราว 1.6 กม. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2535 สภาพศพมีเชือกพันรอบคอ ด้านในของกระจกหน้ารถ มีรอยนิ้วเท้าของเธอ บ่งว่ามีการดิ้นรนขัดขืน
ทีมสอบสวนตัดประเด็นปล้นชิงทรัพย์ เพราะกระเป๋าเงินของเธอตกอยู่ข้างตัว ไม่มีการแตะต้อง ในเวลาไม่นาน วูดเวิร์ด ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ โดยตำรวจระบุว่า มูลเหตุจูงใจการลงมือปลิดชีวิต คือรักสามเส้า “วูดเวิร์ดหึงหวงอย่างเปิดเผย เพราะเกิดความผูกพันแบบชู้สาวแต่ไม่สมหวังกับเพื่อนร่วมห้อง ซึ่งเป็นเพื่อนชายของเธอ”
ตำรวจให้แฟนของผู้ตายติดเครื่องดักฟังและเก็บข้อมูล ขณะที่เขาถามกับวูดเวิร์ดว่า ฆ่าฮูตส์หรือไม่ แต่ผู้ต้องสงสัยก็ดูเหมือนจะระแคะระคายว่ากำลังถูกจับตาอยู่ ถามกลับอีกฝ่ายว่าแล้วพนักงานสอบสวนรู้อะไรบ้าง ในเวลาต่อมา สำนักงานอัยการซานตาคลาราส่งฟ้องวูดเวิร์ด และศาลเปิดการพิจารณาคดีถึงสองครั้งช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1990 โดยใช้หลักฐานเท่าที่มีในเวลานั้น แต่คณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ (hung jury) ได้ ผู้พิพากษาระบุว่าหากต้องการเปิดพิจารณาคดีนี้อีกครั้ง อัยการจะต้องนำเสนอหลักฐานใหม่
หลังการพิจารณาคดีครั้งที่สอง วูดเวิร์ดย้ายไปเนเธอร์แลนด์ แต่ยังบริหาร Readytech ต่อไป ขณะที่ทีมสอบสวนเริ่มเปิดสอบสวนใหม่อปลายปี 2563
แม้พบรอยนิ้วมือของวูดเวิร์ดด้านนอกรถของผู้ตาย แต่ 30 ปีแล้ว เทคโนโลยีด้านนิติเวชยังไม่ก้าวหน้าพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า เขาอยู่ภายในรถ มาครั้งนี้ ศูนย์แลบอาชญากรรมที่เมืองซานตา คลารา ใช้เทคโนโลยีดีเอ็นเอแบบใหม่ ตรวจสอบหลักฐานที่เก็บจากจุดเกิดเหตุ ประกอบกับศูนย์พิสูจนอัตลักษณ์ซานตา คลาลา ตรวจสอบลายพิมพิ์นิ้วมือแฝง (ลายนิ้วมือทั้งหมดในที่เกิดเหตุฆาตกรรม ) อีกกว่า 80 รอยที่เก็บในที่เกิดเหตุ ผลคือสอดคล้องกับลายนิ้วมือของวูดเวิร์ด หลักฐานใหม่ประกอบข้อมูลสอบสวนที่มีอยู่เดิม จึงนำไปสู่การออกหมายจับอีกครั้งหนึ่ง
หลังซีอีโอถูกจับกุม ครอบครัวของฮูตส์ ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ลอรี แอนน์ ฮูตส์ เป็นที่รักของครอบครัวและเพื่อน แต่ชีวิตสดใสของเธอถูกพรากไปจากพวกเราในวัยเพียง 25 หวังว่าลอรีจะได้รับความยุติธรรมในท้ายที่สุด ขณะเดียวกันขอแสดงความชื่นชมหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ที่ไม่ยอมถอดใจในคดีนี้
ยังไม่ชัดเจนว่า วูดเวิร์ดจะถูกส่งตัวข้ามรัฐ หรือการพิจารณาคดีใหม่จะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ แต่หากถูกตัดสินมีความผิด เขาอาจถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต