ฉีด วัคซีนโควิด พร้อม "ไข้หวัดใหญ่" ได้ ช่วยลดความเสี่ยงทั้ง 2 โรคช่วง ฤดูฝน
กระทรวงสาธารณสุข ย้ำ ช่วงฤดูฝนมีโอกาสป่วย "โรคไข้หวัดใหญ่" เพิ่มขึ้น แนะเข้มตามมาตรการป้องกันโรค "โควิด19" จะช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ ส่วนกลุ่มเสี่ยงขอให้มารับวัคซีนป้องกันทั้ง 2 โรค ซึ่งสามารถฉีดพร้อมกันได้
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝน นอกจากโรค โควิด19 ที่มีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีโอกาสติดเชื้อไวรัส "โรคไข้หวัดใหญ่" เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งทั้ง 2 โรคเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเหมือนกัน มีอาการคล้ายกัน การใช้มาตรการป้องกันตนเองจากโรค โควิด19 ได้แก่ การเว้นระยะห่าง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ ได้เช่นกัน รวมทั้งสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อได้ด้วยการฉีดวัคซีน ทั้ง วัคซีนโควิด และ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาล
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า วัคซีนโควิด สามารถเข้ารับบริการได้ฟรีในสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขหรือจุดบริการฉีดวัคซีนใกล้บ้าน โดยขอให้มารับเข็มกระตุ้นตามกำหนดทุก 3-4 เดือน ส่วน วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาลในปี 2565 กรมควบคุมโรค ได้จัดสรรวัคซีนไว้สำหรับบุคลากรกลุ่มเสี่ยง 4 แสนโดส และประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง รวม 4.2 ล้านโดส ได้แก่
1. หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์มากกว่า 4 เดือนขึ้นไป
2. เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี
3. ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด
4. ผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ
7. โรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือมีค่าดัชนีมวลกาย BMI มากกว่า 35
เริ่มฉีดฟรีตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา
"ขณะนี้ทั้ง วัคซีนโควิด และ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ กระจายไปยังหน่วยบริการในพื้นที่ทั่วประเทศแล้ว ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนทั้งสองชนิดพร้อมกันได้โดยไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างจะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากทั้ง 2 โรคได้" นพ.เกียรติภูมิกล่าว
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w