กัมพูชา ส่งตัวผู้ต้องหา "คอลเซ็นเตอร์" 94 คน กลับมาดำเนินคดีที่ไทย
ตำรวจ PCT ประสานกัมพูชา ส่งตัวผู้ต้องหาขบวนการ "คอลเซ็นเตอร์" จำนวน 94 คน กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในไทย
จากสถานการณ์ในปัจจุบันแก๊ง “คอลเซ็นเตอร์” ได้ระบาดหนักอย่างมากในประเทศไทย และมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบในการใช้กลอุบายหลอกลวงประชาชน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญในการสืบสวนติดตามจับกุมมาโดยตลอด และได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ผอ.ศปอส.ตร.) PCT เป็นตัวแทนดำเนินการวางแนวทางการปฏิบัติกับกรมตำรวจประเทศกัมพูชา ในการวางแนวทางการปฏิบัติ และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยผู้อยู่เบื้องหลังการประสานงานความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งหมดคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทำเกิดความร่วมมือระหว่างประเทศโดยมีการทำ MOU กับทางประเทศกัมพูชา
ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. /ผอ.ศปอส.ตร (PCT) มอบหมาย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 /หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 1 , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 1 และ 5 ร่วมกับ สตม. บช.ภ.2 รับตัวคนไทยส่งกลับจากประเทศกัมพูชา จำนวน 94 ราย
หลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศกัมพูชา ฝังตัวเพื่อเฝ้าดูพฤติกรรมคนร้ายเป็นเวลาหลายเดือน ร่วมกันสืบสวนจนกระทั่งได้พยานหลักฐาน สามารถขออนุมัติหมายจับศาลและได้ทราบสถานที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 แห่ง ในประเทศกัมพูชา ซึ่งได้มีการวางแผนเพื่อปฏิบัติการร่วมกัน และสนธิกำลังตำรวจเปิดปฏิบัติการทลายแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดพระสีหนุ และจังหวัดปอยเปต ประเทศกัมพูชา
จุดที่ 1 โรงแรมจิงเฉิง ถ.สองธนู เมืองพระสีหนุ กัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 21 คน โดยมีแผนประทุษกรรมหลอกให้หลงและหลอกให้รักในแอปทินเดอร์ , ไลน์ โดยปลอมตัวตนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แล้วได้หาคู่แมทช์ แล้วพูดคุยให้หลงรัก จากนั้นจะเริ่มหลอกลวงให้ร่วมลงทุนใน MetaTrader 5 (ฟอเร็กซ์) โดยจะให้ทำการเทรด การวิเคราะห์ทางเทคนิค ตามคำแนะนำ และชักนำให้ลงทุนกับ โบรกเกอร์ 1.MKNDY.Ltd , 2.Big Uncle ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ ปลอม และหลอกเอาเงินผู้เสียหายไป
จุดที่ 2 อาคาร 5 ชั้น ทางเข้าเป็นประตูสีแดง ถนน 104 เมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 18 คน โดยมีแผนประทุษกรรม คือฝ่ายคุมระบบหรือฝ่าย IT ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “หลังบ้าน” จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติ (AI) เป็นเบอร์โทรต้นทางโทรผ่านระบบ VOIP ไปยังเหยื่อเป็นคนไทย หากมีการรับสายจะเป็นระบบอัตโนมัติ แจ้งข้อมูลมีพัสดุผิดกฎหมายให้ผู้เสียหายกด “9” เพื่อติดต่อพนักงาน จากนั้นจะมีการโอนสายโทรศัพท์ให้ผู้เสียหายคุยกับแก๊ง “คอลเซ็นเตอร์” สาย 1 โดยจะหลอกลวงเป็นพนักงานไปรษณีย์ และจะโอนสายให้ผู้เสียหายคุยกับ สาย 2 ซึ่งปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก “สภ.แหลมฉบัง” พูดจาข่มขู่ยัดคดีให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว โดยอ้างว่าจากการตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน โดยหลอกให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ โอนเงินที่มีเพื่อทำการตรวจสอบภายใน แต่หากผู้เสียหายยังไม่ทำการโอน จะโอนสายต่อไปยังสายที่ 3 ซึ่งเป็นลักษณะตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาข่มขู่ เพื่อยัดคดีและข้อหาต่างๆ หากผู้เสียหายรายใดเริ่มหลงกล ทีม “หลังบ้าน” จะคอยให้ข้อมูล ที่มากไปกว่านั้น ทีมหลังบ้านสามารถ “ดูดเงิน” ออกจากบัญชีของผู้เสียหายได้อีกด้วย
จุดที่ 3 อาคาร 8 ชั้น ถนน 702 เมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 10 คน โดยมีแผนประทุษกรรม โดยจะอ้างว่าเป็นการปล่อยสินเชื่อ ใช้ชื่อ “บริษัท บริหารสินทรัพย์ โฟร์ ซีส์ จำกัด” ในการปล่อยสินเชื่อ แต่หลอกลวง เอาค่าธรรมเนียมต่างๆ จากเหยื่อที่มากู้เงิน โดยกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้หาเหยื่อจากการลงโฆษณาให้กู้เงินหรือสินเชื่อ ออนไลน์โดยมีการอ้างบริษัทหนึ่งในประเทศไทยที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เหยื่อ ตามสื่อสังคม ออนไลน์ Facebook หรือ google ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลเท็จเหล่านี้ง่าย โดยการระบบการหลอก สาย 1 จะทำหน้าที่เป็น พนักงานพูดหลอกลวงเหยื่อชักชวนให้กู้เงินออนไลน์ สาย 2 หรือ “กลุ่มเชือด” ทำหน้าที่แจ้งเหยื่อว่าต้องชำระค่า ประกันเงินกู้ ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ จึงจะสามารถกู้ยืมเงินกับทางบริษัทฯ ได้และเมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอน เงินเข้ามาก็ไม่ได้มีการให้กู้ยืมเงินแต่อย่างใด
จุดที่ 4 ตึกสามชั้น ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ตำบลปอยเปต อำเภออูร์ชเรา จังหวัดบันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 25 คน โดยมีแผนประทุษกรรม คือพนักงานสาย 1 โทรศัพท์หาผู้เสียหายและหลอกลวงเป็นพนักงานจากบริษัทขนส่งพัสดุบริษัท DHL ได้ทำการตรวจสอบพัสดุพบสิ่งผิดกฎหมาย และมีอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช. ด้วย
หลังจากเสร็จสิ้นการขยายผล ได้มีพนักงานสอบสวนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีท้องที่ ที่ออกหมายจับผู้ต้องหา มาเพื่อรับตัวผู้ต้องหา ไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ได้แก่ สน.บางเขน 22 ราย สภ.เมืองอุดร 4 ราย สน.พหลโยธิน 18 ราย สภ.เมืองจันทบุรี 10 ราย และ สภ.ท่าใหม่ 25 ราย
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Line : https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
รอลุ้น ใครจะเป็น 6 Candidate กับ 8 สาขา Popular Vote คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565
1 สิงหาคม 65 นี้ รู้กัน
( https://awards.komchadluek.net/# )
#ลูกทุ่งอวอร์ด65 #ลูกทุ่งAwards65 #คมชัดลึกลูกทุ่งอวอร์ด65 #คมชัดลึกลูกทุ่งAwards65 #โหวตคมชัดลึกลูกทุ่งAwards #โหวตคมชัดลึกลูกทุ่งอวอร์ด65 #รางวัลคมชัดลึกลูกทุ่งอวอร์ด2565 #รางวัลคมชัดลึกลูกทุ่งawords65