ข่าว

หอบเงิน 1,290 ล้าน "ออกนอกประเทศ" แล้ว ผู้ต้องสงสัยหลอกลงทุนธุรกิจฟาร์มเห็ด

หอบเงิน 1,290 ล้าน "ออกนอกประเทศ" แล้ว ผู้ต้องสงสัยหลอกลงทุนธุรกิจฟาร์มเห็ด

01 ส.ค. 2565

หอบเงินกว่า 1,290 ล้านบาท "ออกนอกประเทศ" แล้ว ผู้ต้องสงสัยในคดีหลอกลงทุนธุรกิจฟาร์มเห็ด ผู้เสียหายกว่า 1,900 ราย

กรณีมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ บริษัท ธุรกิจฟาร์มเห็ด แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสกลนคร หลอกชักชวนคนนำเงินมาลงทุนทำฟาร์มเห็ด ในรูปแบบฝากเลี้ยงเห็ด คล้ายกับผู้ลงทุนเป็นเจ้าของโรงเพาะเห็ด ฟาร์มจะเป็นผู้ดูแลให้ โดยผู้ลงทุนแค่ออกเงิน ให้ผลตอบแทนสูง 18-30% ต่อเดือน มีการนำดาราผู้มีชื่อเสียงมาโฆษณาทำให้น่าเชื่อถือ ช่วงแรกมีการปันผลจริง แต่ต่อมาผิดนัดสัญญา เมื่อสอบถามทางบริษัทอ้างว่าธนาคารอายัดบัญชีจึงไม่สามารถจ่ายให้กับผู้ลงทุนได้

 

ล่าสุดวันนี้ (1 ส.ค.65) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เรียกประชุมด่วนคลี่คลายคดี หลอกลงทุนธุรกิจเกษตรฟาร์มเห็ด

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้เดินทาง "ออกนอกประเทศ" ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย.64 แล้ว จะได้เร่งออกหมายจับ และประสานตำรวจ interpol นำตัวกลับมาดำเนินคดีโดยเร็ว สำหรับพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา จะเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน" , "กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน" และ "นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ" ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี

 

ส่วนผู้เสียหายพบเข้าแจ้งความแล้ว 1,867 ราย ซึ่งทยอยเข้าแจ้งความ ที่ สภ.เมืองสกลนคร ,สอท., บก.ปอศ., และตำรวจพื้นที่ทั่วประเทศ โดยความเสียหายกว่า 1,290 ล้าน 

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องติดตามเงินคืนให้ผู้เสียหาย ขณะนี้ได้แจ้งอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว แม้ผู้ต้องสงสัยจะ "ออกนอกประเทศ" และมีการทำงานร่วมกับ ปปง. อย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบและติดตามยึดและอายัดทรัพย์สินคืนกลับมาให้กับผู้เสียหายโดยเร็ว และหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้กับผู้เสียหายทราบโดยเร็วที่สุด

 

หอบเงิน 1,290 ล้าน \"ออกนอกประเทศ\" แล้ว ผู้ต้องสงสัยหลอกลงทุนธุรกิจฟาร์มเห็ด

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้อำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหาย เนื่องจากมีจำนวนมากและกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงเรียกประชุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บช.สอท., บช.ก. และ บช.น., ภ.1-9 เร่งรัดการสืบสวน ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และกำหนดแนวทางในการสอบสวน มอบหมายให้ บก.สอท.1 เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบคดีทั้งหมด หากผู้เสียหายไม่สะดวกเดินทางมาให้การที่ บก.สอท.1 ก็จะอำนวยความสะดวกโดยการส่งประเด็นการสอบสวนไปให้ตำรวจพื้นที่ที่ผู้เสียหายสะดวก ช่วยสอบปากคำแทน สำหรับผู้เสียหายที่ยังไม่ได้มาแจ้งความ สามารถเดินทางไปแจ้งความที่ บก.สอท.1 (ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ)​หรือ ตำรวจท้องที่ใดก็ได้ที่ท่านสะดวก หรือ ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ thaipoliceonline.com  ซึ่งจะมีการรวมเรื่องมาที่ บก.สอท.1 เช่นกัน

ผอ.PCT กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างมาก จึงอยากฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินความเป็นจริงหรือการันตีรายได้ขั้นต่ำ ในความเป็นจริงไม่มีธุรกิจใดที่สามารถการันตีได้จริง หากสงสัยจะตกเป็นเหยื่อสามารถโทรปรึกษา สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่ thaipoliceonline.com และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ pctpr.police.go.th

 

 

ติดตามเพิ่มเติม ที่นี่ Line: คมชัดลึก    YouTube: ยูทูป คมชักลึก

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate 

กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่   คมชัดลึกลูกทุ่งAwards2565