ข่าว

ตรัง-นราธิวาส

ตรัง-นราธิวาส

08 พ.ค. 2553

ผมติดตามคณะมูลนิธิซิเมนต์ไทยลงไปที่เกาะมุกเมืองตรัง แล้วก็เลยถือโอกาสนี้เที่ยวภาคใต้ เรื่อยไปจนถึงเมืองนราธิวาส

เกาะมุกจังหวัดตรังเป็น 1 ใน 5 จังหวัดของทะเลฝั่งอันดามันที่มูลนิธิซิเมนต์ไทยได้เข้าไปให้ความ ช่วยเหลือหลังเกิดคลื่นสึนามิเมื่อห้าปีก่อน จนทุกวันนี้ชาวบ้านสามารถตั้งหลักและพึ่งพิงตนเองได้ นับเป็น ชุมชนที่เข้มแข็งอีกแห่งหนึ่งของประเทศ

ที่น่าสนใจก็คือโครงการสร้างอู่ต่อเรือ อันเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำรงชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านขึ้นบนเกาะมุกแห่งนี้ โดยการริเริ่มของกองทุนเครือซิเมนต์ไทย โดยมูลนิธิซิเมนต์ไทยที่ทำให้ชาวบ้านสามารถเรียนรู้และร่วมมือกันซ่อมและสร้างเรือขึ้นได้สำเร็จด้วยฝีมือช่างของชุมชน โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร

โครงการดังกล่าวนี้ทางมูลนิธิซิเมนต์ไทยได้สร้างขึ้นอีกหลายแห่งในจังหวัดที่ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ และยืนยันว่า ในแต่ละพื้นที่ล้วนสำเร็จผลเป็นที่น่าพอใจยิ่ง

เกาะมุกอยู่ห่างแผ่นดินแค่นั่งเรือหัวโทงฝ่าคลื่นไปไม่ถึงชั่วโมงดี เป็นเกาะที่มีภูมิทัศน์งดงาม ด้วย หาดและเวิ้งอ่าว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างรู้จักเกาะมุกดี ด้วยถ้ำมรกตหรือถ้ำน้ำอันลือชื่อ ซึ่งจะต้องลง ทะเลลอยคอลอดถ้ำช่วงเวลาน้ำลงออกไปดูจึงจะได้เห็นหาดอันมหัศจรรย์และงดงามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง

นอกจากนี้บนเกาะมุกทอดสายตาออกไปก็จะเห็นเกาะลิบง อันเป็นแหล่ง (ปลา) พะยูนใหญ่ อยู่ห่างจากเกาะไปไม่ไกลนัก
ทะเลและหมู่เกาะทั้งหลายในละแวกนี้เต็มไปด้วยดงหญ้าทะเลกว้างนับเป็นหมื่นๆ ไร่ จึงเป็นที่อยู่ อาศัยของฝูงพะยูน เต่าทะเล และฝูงนกนานาพันธุ์ ที่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว โดยเฉพาะพะยูนที่ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่าในบรรดาพะยูนที่มีอยู่ในทะเลไทยไม่เกินสามสี่ร้อยตัวนั้น ยังคงเหลืออยู่ในทะเลแถบนี้มากเกือบ สองร้อยตัว

เมื่อบ้านเมืองสงบดีผมก็อยากจะชวนนักท่องเที่ยวทั้งหลายกลับไปเที่ยวกันครับ ทะเลจะได้ไม่เหงาเท่าที่เห็นอยู่ทุกวันนี้

ผมกับพรรคพวกออกจากเกาะมุกและจังหวัดตรังข้ามเขาบรรทัดไปยังทะเลไทยอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อที่จะไปเที่ยวจังหวัดนราธิวาส เพราะในขณะนั้นต่างก็คิดกันว่าไม่น่าจะมีอะไรต่างจากที่กรุงเทพฯ มากนัก

ก็คิดไม่ผิดครับ ตลอดเส้นทางจากจังหวัดปัตตานีไป เต็มไปด้วยทหารถือปืนตั้งค่ายและด่านตรวจ เรียงรายอยู่เป็นระยะจนกระทั่งถึงนราธิวาส

เหตุร้ายเกิดต่อเนื่องหลายปีมาแล้ว ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากความตึงเครียดและรอยหม่นหมองที่จับเกาะอยู่บนใบหน้าของทั้งชาวบ้าน ทหารและตำรวจ ที่ดูเหมือนว่าทุกฝ่ายจะผะอืดผะอม ขื่นขมพอๆ กัน

แวบหนึ่งให้ใจหายคิดถึงกรุงเทพฯ จริงๆ ครับ