
เสื้อแดงเชื่อศอฉ.สลายม็อบเรื่องใหญ่แน่
ณัฐวุฒิ เชื่อศอฉ.สลายม็อบเสื้อแดงเรื่องใหญ่แน่ ยัน รับเงื่อนไขรัฐทุกอย่างเหลือเรื่อง"สุเทพ"เรื่องเดียว "ขวัญชัย" เผย อยากกลับเต็มแก่ ลั่น 23 พ.ค.ไม่มีชมรมคนรักอุดรที่ราชประสงค์แน่ อ้างเห็นใจชาวบ้านอยากให้กลับไปทำมาหากิน ระบุ พร้อมมอบตัว ไม่หวั่นนอนคุก
(13พ.ค.) นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กล่าวถึงกรณีที่ศอฉ.เตรียมล้อมคนเสื้อแดงเย็นวันนี้ ว่า ยืนยันว่าสำหรับเสื้อแดง นี่คือสถานการณ์แห่งสันติภาพ ถ้ารัฐบาลเห็นว่าเป็นสถานการณ์แห่งสงครามก็ว่าไป เพราะการเอากำลังมาปิดล้อม วางพลแม่นปืน และใช้กระสุนจริงไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ขอเรียกร้องของเรามีข้อเดียวคือเรียกร้องให้นายสุเทพเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นทางออกที่ง่าย และไม่เกิดความสูญเสียใดๆเลย ตนยื่นยันว่าจะพยายามรักษาสถานภาพไว้ให้ได้ แต่ถ้ารัฐบาลเริ่มสงครามเราก็จะต่อสู้ด้วยสันติวิธี โดยจะต่อต้านผลักดันด้วยสันติวิธี แต่เวลานี้ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการนั้นเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่
เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องการให้ยุติภายในวันนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลต้องเข้าใจว่า พวกตนมาในฐานะผู้เดือดร้อนไม่ใช่ลูกไล่ ดังนั้นถ้าจะมีการเจรจาก็ต้องทำด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ข่มขู่ วันนี้รัฐบาลนอกจากปล้นอำนาจแล้วยังจะปล้นเสรีภาพการตัดสินใจด้วยหรืออย่างไร ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่าต้องการเปิดพื้นที่เพื่อให้เด็กให้ได้เรียนได้ตามปกตินั้น เราไม่ได้ขัดขวางสิทธิ์นั้น แต่หากมีการเปิดเรียนเราก็จะประสานกับโรงเรียนเพื่อพูดคุยถึงมาตรการความปลอดภัย และจะอำนวยความสะดวกให้ แต่ทำไมรัฐบาลไม่เร่งเจรจาให้จบก่อนวันนั้น วันนี้เราไม่ได้อยู่เรียกร้องให้มีวันเลือกตั้ง แต่ 21 ชีวิตที่ตายไปก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ระหว่างรัฐบาลเริ่มกระบวนการยุติธรรม กับการเอาสไนเปอร์ เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ที่ริมถนนนั้นซึ่งจะเป็นการเพิ่มคนเจ็บคนตาย ขอให้คิดว่าอันไหนควรที่จะทำกว่า หรือนายอภิสิทธิวันนี้แยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนควรไม่ควร อย่างไรก็ตามในเวลาช่วง 18.00 น. จะมีการซักซ้อมมาตรการรับมือกับการสลายการชุมนุม
ก่อนหน้านั้นบรรยากาศการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ที่ราชประสงค์ ค่อนข้างผ่อนคลายขึ้นกว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากที่ศอฉ. เลื่อนการตัดน้ำประปา ไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพื่อกดดันผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จึงกระจายกันพักผ่อนตามเต็นท์ และร่มเงาอาคารต่างๆ รอบบริเวณ เพื่อเก็บแรงไว้รับสถานการณ์คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยตลอดคืนที่ผ่านมาทั้งหมดเตรียมพร้อมรับมือการสลายการชุมนุมจากรัฐบาล และการสร้างสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ชุมนุมจากผู้ไม่หวังดีที่ไม่ต้องการให้คนเสื้อแดงยุติชุมนุม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. สั่งให้นายอารี ไกรนรา หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยนปช.เพิ่มการ์ดรัก ษาการณ์จุดเสี่ยงต่างๆ รอบพื้นที่การชุมนุม พร้อมลาดตระเวนตรวจเข้มพื้นที่ทุกตารางนิ้ว โดยเฉพาะการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ที่จะวิ่งเข้ามาให้พื้นที่ชุมนุมเนื่องจากหวั่นว่า จะให้การปฏิบัติการจักรยานยนต์บอมส์ในพื้นที่ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำนปช. ได้ปราศรัยอยู่บนเวทีระหว่างนั้นก็ได้มีเสียงดังคล้ายปะทัด ดังขึ้น 1 ครั้งทำให้แกนนำทั้งบนเวที และด้านหลักเวที ต่างก็ต้องตกใจ ถึงขนาดที่นายณัฐวุฒิ ซึ่งกำลังดื่มกาแฟอยู่ได้ทำให้กาแฟหกใส่เสื้อ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นเสียงของการจุดตะไลเพื่อรบกวนการบินของเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่บินผ่านมา ทิ้งช่วงไประมาณ 5 นาที ก็มีเสียงดังของการจุดตะไลมาเป็นระยะๆ ทำให้คนเสื้อแดงที่พักอยู่ตามเต้นท์ต่างต้องลุกขึ้นดู
ต่อมาเวลา 10.50 น. แกนนำ นปช. แถลงข่าวบริเวณด้านหลังเวทีราชประสงค์ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถึงข้อเรียกร้องของนปช. ต่อรัฐบาล ขณะนี้ได้ข้อเรียกร้องมติเดิมไม่เปลี่ยน เพียงยังไม่บรรลุเรื่องการทวงความยุติธรรมของชีวิตประชาชนที่สูญเสียไป จากคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายยกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง จึงต้องย้ำข้อเรียกร้องเดิมอีกครั้ง พร้อมขอตั้งคำถามถึงกรณีที่นายสุเทพไปยังดีเอสไอ ในคดีที่จ้างวานสั่งฆ่าประชาชน ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้วหรือไม่ หากยังดีเอสไอยังไม่มีอำนาจในการดำเนินการ แต่เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายธาริต เพ็งดิส อธิบีดีเอสไอ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมโน อ้างงข้อกฎหมายต่างๆ ว่าคดีดังกล่าวได้บรรจุเป็นคดีพิเศษตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. หากเป็นเช่นนั้นย่อมมีผลตามกฎหมาย ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า นายสุเทพเป็นผู้ต้องหาตามคดีแล้วหรือไม่ เพราะการไปปรากฏตัวของนายสุเทพ เป็นการไปฐานะรองนายกฯ ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา หรือปฏิบัติต่อนายสุเทพเป็นผู้ต้องหาแต่อย่างใด เพราะหากเป็นคดีแล้ว ดีเอสไอต้องออกหมายเรียก นายสุเทพต้องไปรับทราบข้อกล่าวหา และนายสุเทพ ไม่ได้ติดคุกภายในวันสองวันนี้ แต่นายสุเทพจะปฏิเสธการเป็นผู้ต้องหาไม่ได้ และนายสุเทพเป็นผู้ยอมรับเองในการประชุมรัฐสภาว่าเป็นผู้สั่งการให้เข่นฆ่าประชาชนจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า นายสุเทพ ยังไม่ได้นับหนึ่งในฐานะผู้ต้องหา เรียกร้องตรงนี้ หลังจากนั้นคดีความเป็นอย่างไร ต้องไปต่อสู้กันในศาล ไม่เข้าใจทำไมรัฐบาลไม่คิดทำเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ และง่ายกว่าสิ่งที่รัฐบาลคิดทำในปัจจุบันที่จะสร้างความเสียหายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า ตัดโทรศัพท์ ยกกำลังทหาร รถหุ้มเกราะ ออกมาจัดการประชาชน ทำไมอภิสิทธิ์คิดเรื่องเล่านี้ได้ แต่ไม่ยอมเดินในเส้นทางยุติธรรม หรือคิดได้แต่เพียงฆ่าประชาชน เพิ่มศพบนท้องถนนเท่านั้น ข้อเรียกร้องดังกล่าวไม่ใช่เป็นการตั้งเงื่อนไข นำเรื่องเล็กมาเป็นเรื่องใหญ่ เพราะไม่มีอะไรใหญ่กว่า 20 ชีวิตที่สูญเสีย หากไม่เกิดความยุติธรรมต่อผู้เสียชีวิตเป็นเรื่องใหญ่กว่า หากสิ่งที่จะทำเป็นการปราบปรามประชาชน ขอร้องให้หยุด แล้วมาทุ่มเทหาทางออกให้ประเทศด้วยสันติวิธี
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า เริ่มมีกระแสข่าวว่านายอภิสิทธิ์ กำลังตัดสินใจยกเลิกวันเลือกตั้ง แต่ยังคงเรื่องการปรองดองไว้ ขอเตือนว่าอย่าทำตัวเป็นนักฉวยโอกาส อย่าใช้สิ่งนี้มาเป็นข้ออ้างในการยกเลิกเรื่องที่เคยประกาศไว้ เพราะจะเป็นสิ่งที่สะท้อนความในใจของนายอภิสิทธิ์ ว่าประกาศอะไรออกมาเพื่อรอวันยกเลิก หากนายอภิสิทธิ์คิดว่ายังจะเป็นนายกได้ไปตลอดรอดฝั่ง สิ่งที่ทำมา 2 เดือนจะเป็นนายกได้อีก 1 ปี 9 เดือน อย่าคิดและอย่าทำ เพราะสังคมไทยรับไม่ได้
นายณัฐวุฒิ ระบุว่า ขณะนี้พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. สรุปสำนวนคดีพันธมิตรฯ ส่งพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท. ผบ.ตร. เพื่อลงนามอนุมัติเสนอออกหมายจับ ขอเรียกร้องพล.ต.อ.ปทีป ให้ตรงไปตรงมา หากจะอนุมัติให้รีบลงนาม หากไม่อนุมัติก็ให้ลงนามไปเพื่อเป็นหลักฐาน และจะเป็นอีกเรื่องที่จะสะท้อนว่าสองมาตรฐานจะอยู่อีกต่อไปหรือไม่ ในเมื่อทันทีที่มีข่าวจะออกหมายจับกลุ่มพันธมิตร มีข่าวนายสนธิเตรียมออกทีวีอีกครั้ง เตรียมแบล็กเมล์ ว่านายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ เคยร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างไร จะได้รู้ว่าเมื่อบิดาของรัฐบาลคือนายสนธิเตรียมแฉ แล้วรัฐบาลจะอยู่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวนายณัฐวุฒิได้นำนายบัญญัติ นิชากร ชาวอุดรธานี เข้าร่วมแถลงข่าวด้วย โดยมีร่างกายที่บอบช้ำ ใบหน้าบวมปูดตาเกือบปิดทั้งสองข้าง โดยระบุว่าถูกทหารตรวจค้นร่างกาย เมื่อพบสัญลักษณ์ของคนเสื้อแดงจึงรุมทำร้ายร่างกายที่บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาแห่งชาติ โดยนายณัฐวุฒิระบุว่า หากนายอภิสิทธิ์ต้องการที่จะด้านหนึ่งพูดถึงเรื่องการปรองดอง ขณะเดียวกันให้ทหารมาทำร้ายประชาชน ขณะที่ประชาชนเรียกร้องความยุติธรรม กลับถูกสร้างความอยุติธรรมแบบนี้ อยากถามว่าการนำทหารมากระทืบประชาชนจะทำให้เก้าอี้นายกฯ มั่นคงขึ้น คนเสื้อแดงไม่กลัวจะนำผู้ถูกทำร้ายมาแถลงข่าวทุกวัน หากกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหลายหยดจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เรียกร้องศอฉ. ให้นำทหารที่ทำร้ายประชาชนมาลงโทษ เนื่องจากคนเสื้อแดงมีคลิปวีดีโอเห็นหน้าทหารที่ก่อเหตุอย่างชัดเจน หากต้องการมาขอได้ จะได้ทราบว่าเป็นใครอยู่หน่วยไหน แต่อยู่ที่ ศอฉ. จะทำหรือไม่
ด้านนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดร เปิดเผยว่า ชมรมคนรักอุดรฯยุติการเข้าร่วมชุมนุมภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเห็นใจพี่น้องที่มาชุมนุมที่นี่เป็นเวลากว่า 1 เดือน ก็เห็นใจ และช่วงนี้เข้าสู่ฤดูทำนา จึงอยากให้พี่น้องกลับบ้านไปประกอบอาชีพ ทั้งนี้ตนพร้อมเข้ามอบตัว หากวันนี้นายสุเทพเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในข้อหาสั่งฆ่าประชาชน เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ตนไม่กลัวว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เพราะตนก็ไม่เชื่อรัฐบาลอยู่แล้วว่าจะให้พวกตนได้ประกันตัว เพราะฉะนั้นก็พร้อมนอนคุก
"เราเป็นแกนนำ ถ้าไม่ให้ประกันตัวก็นอนคุกได้ ไม่มีปัญหา แต่ผมเห็นใจชาวบ้านมากกว่าที่ต้องมาลำบากเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็เป็นห่วงว่า นายสุเทพ ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นผู้ต้องหาตามที่แกนนำเรียกร้อง ก็หนักใจ เพราะเราก็อยากลงเต็มที่แล้ว และก็ได้หารือกับแกนนำแล้วแกนนำก็เข้าใจ ” นายขวัญชัยกล่าว