
สารพันตำรวจ : รับเรื่อง-ปรับทุกข์...ภารกิจพิเศษฟื้นฟูกรุงเทพฯ
กลิ่นไหม้และซากปรักหักพังยังไม่จางหายไปจากย่านราชประสงค์-สยามสแควร์ แม้จะมีแผ่นเมทัลชีทสีขาวปิดล้อมพื้นที่ไฟไหม้จนเกือบจะมิดชิด แต่ก็ไม่อาจอำพรางความสนใจจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ยังมีประชาชนให้ความสนใจมาบันทึกภาพและ
ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้เซ็นทรัลเวิล์ดแวะเวียนมาดูภาพความเสียหาย พร้อมทั้งขอคำแนะนำช่วยเหลือจากกองอำนวยการร่วมระหว่างตำรวจท้องที่และสำนักงานเขตปทุมวัน ที่ตั้งเต็นท์รับเรื่องราวร้องทุกข์อยู่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม เป็นต้นมา
ที่นี่เป็น 1 ใน 6 จุด ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ร่วมกับสำนักงานเขต ตั้งเต็นท์รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้ได้รับผลกระทบ แม้จะล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ตำรวจหลายพื้นที่ถอนกำลังกลับโรงพักไปแล้ว แต่พื้นที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ยังมีตำรวจประจำการอยู่
ร.ต.ท.ณรงค์ชัย เสนาพรหม พงส.(สบ 1) สน.ปทุมวัน เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับกองอำนวยการร่วม เพื่ออำนวยความสะดวก คอยเฝ้าระวังเหตุ และรับเรื่องราวร้องทุกข์ กำลังให้คำแนะนำผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้เซ็นทรัลเวิลด์
"ส่วนใหญ่จะให้คำแนะนำว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง คอยแนะนำขั้นตอน การเตรียมเอกสาร เช่น ทำธุรกิจอะไรอยู่ ให้ห้างออกหนังสือรับรองแล้วไปแจ้งความที่ สน.และขอความช่วยเหลือที่สำนักงานเขต ทั้งนี้จะมีสมุดบันทึกประจำวันบันทึกไว้รวมๆ แล้วเฉลี่ยวันละหลายสิบราย" ร.ต.ท.ณรงค์ชัยแจงรายละเอียดที่เพิ่งอธิบายให้ผู้ได้รับผลกระทบฟัง
ร.ต.ท.ณรงค์ชัยมาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงสี่โมงเย็น จากนั้นตอนเที่ยงคืนก็ต้องกลับไปเข้าเวรที่ สน.ปทุมวัน ต่อ บอกว่า นอกจากจะคอยแนะนำขั้นตอนการยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือและคอยบอกเส้นทางแล้ว ยังคอยรับฟังประชาชนที่ยังสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาปรับทุกข์ด้วย
"มีหลายคนนะที่ไม่ได้มาร้องทุกข์ แต่มาพูดคุยปรับทุกข์ เช่น การชุมนุมน่าจะจบได้โดยไม่มีการเผาบ้าง น่าจะมีการพูดคุยกันได้ ไม่น่าทำแบบนี้บ้าง ชาวต่างชาติก็มีนะ ภาษาอังกฤษผมไม่แข็งแรง แต่จับใจความได้ว่าเขาชื่นชมเมืองไทยที่ทำความสะอาดพื้นที่ ฟื้นพื้นที่ได้รวดเร็ว รู้สึกว่าเขาสนใจเราและเข้าใจว่าสถานการณ์บ้านเราเป็นอย่างไร" ร.ต.ท.ณรงค์ชัย บอกด้วยรอยยิ้ม
นายตำรวจหนุ่มยังเล่าถึงวันที่สลายการชุมนุมด้วยว่า เป็นช่วงที่เข้าเวรสอบสวนที่โรงพักพอดี มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมได้หลายราย มีทั้งด่าทอและบ่นน้อยใจที่ถูกจับ แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ นอกจากเรื่องผลกระทบจากการชุมนุมแล้วคดีอาชญากรรมอื่นๆ ไม่ค่อยมี นอกจากการจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมแล้วกว่า 70-80 คน
ฝั่งเกษรพลาซ่าก็มีเต็นท์เจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยรักษาความปลอดภัย แต่ไม่ได้รับแจ้งเหตุและให้คำแนะนำอื่นๆ เพราะเป็นทีมตำรวจจาก สภ.ท่าไม้ลวก จ.เพชรบุรี ทว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องแวะถาม จึงต้องโยนลูกต่อมาให้ศูนย์ฝั่งตรงข้ามช่วยแทน (ฮา)
การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงทำให้ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สายด่วน 1194 และสายด่วน 1111 ตู้ ปณ.1234 ที่เคยทำงานมือระวิงลดน้อยลง
"ช่วงชุมนุมมีคนร้องเรียนมาที่ศูนย์น้อยลงเยอะ ตั้งแต่รัฐบาลสั่งกระชับพื้นที่และขอพื้นที่คืน ทำให้เดินทางมาลำบาก แม้แต่เจ้าหน้าที่เองก็ต้องหยุดงานตั้งหลายวัน จึงมีผู้มาร้องทุกข์น้อยลง แต่ยังมีช่องทางร้องเรียนทางเว็บไซต์ด้วย ตอนนี้เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว" นายตำรวจประจำศูนย์บอก
ทั้งนี้ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สตช.เคยรับเรื่องร้องทุกข์จากกลุ่มหลากสีครั้งหนึ่ง ซึ่งเดินทางมากันมากลุ่มใหญ่ เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะทำผิดกฎหมาย แต่แปลกที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมไม่เคยเดินมาร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เลย ?!!