'เกลียวปืน'..คลี่ปมฆ่าสวญ.มารวิชัย | คมชัดลึก

 นานกว่า 1 เดือนแล้วที่ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 สั่งการให้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 ควบคุมการสืบสวน พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี จัดชุดสืบสวน ได้แก่  พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกันสืบสวนคลี่คลายคดีฆ่า พ.ต.ท.ธงชัย เอี่ยมผาสุก สว.หน.สภ.มารวิชัย ขณะขับรถฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ทะเบียน ฌภ 2827 กรุงเทพมหานคร ออกจากสนามมวยราชดำเนินกลับบ้านพัก โดยพุ่งเป้าไปที่เรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ขับรถปาดกันไปมาจนเกิดบันดาลโทสะชักปืนออกมากระหน่ำยิง 5 นัด 

 เบาะแสสำคัญ คือพยานแวดล้อมอย่างน้อย 2 ปาก ให้การสอดคล้องกันว่าพบเห็นรถ พ.ต.ท.ธงชัย ขับปาดหน้าไปมากับรถกระบะหลังคาสูงอีกคัน ก่อนจะมาพบจุดจบ ประกอบกับข้อมูลจากกองพิสูจน์หลักฐานชี้ว่า กระสุนที่พบในที่เกิดเหตุและตามลำตัวของ สวญ.สภ.มารวิชัย เป็นกระสุนลักษณะ 6 เกลียวเวียนขวา น่าจะมาจากปืนออโตเมติกขนาด .38 ซูเปอร์ ที่นิยมใช้ในแวดวงคนในเครื่องแบบเมื่อหลายสิบปีก่อน  

 ปืนขนาดที่ว่ามีด้วยกันหลายรุ่น คือ โคลท์ ลาม่า สตาร์ และแอสตัน มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับปืนออโตเมติกขนาด 11 มม. ?!!

 ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งเดินทางไปประสานงานกับกองทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ขอตรวจสอบรายชื่อผู้ครอบครองอาวุธปืนขนาดดังกล่าว เนื่องจากเป็นอาวุธที่มีลักษณะใช้กันเฉพาะกลุ่ม ไม่เป็นที่แพร่หลาย

 ขณะเดียวกันก็พุ่งเป้าไปที่คนในพื้นที่คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื่องจากหลังก่อเหตุยิง พ.ต.ท.ธงชัย เสียชีวิตแล้ว คนร้ายได้ไปกลับรถใต้สะพานคลองสาม จึงน่าจะเป็นคนในพื้นที่เนื่องจากรู้จักถนนหนทางละแวกดังกล่าวเป็นอย่างดี

 ด้านชุดสืบสวนอีกทีมได้รับคำสั่งให้หาข่าวจากชาวบ้านทุกหลังในพื้นที่คลองสาม เพื่อตรวจสอบดูว่ามีใครใช้รถกระบะหลังคาสูง สีบรอนซ์ คล้ายกับคันที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในวันเกิดเหตุ ไม่นานก็ได้ข้อมูลมาระดับหนึ่ง ประจวบเหมาะกับสายลับของ พล.ต.ต.เมธี ได้แจ้งเข้ามาว่าลูกน้องกำนัน "ย" ชื่อ "สมชาย เอี่ยมเส็ง" หายตัวไปจากพื้นที่คลองสาม ประกอบกับได้ขายดาวน์รถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ภฉ 3840 กรุงเทพมหานคร ไปอย่างผิดสังเกต

 พล.ต.ต.เมธี จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนไปตรวจสอบประวัติของสมชายทันที แม้ว่าในเบื้องต้นจะยังไม่ปักใจเชื่อในข้อมูลนี้เท่าไรนักก็ตาม ต่อมาชุดสืบสวนรายงานกลับมาว่า สมชายเคยเป็นอดีตสารวัตรกำนันและอดีตตำรวจบ้าน ครอบครองอาวุธปืนออโตเมติกขนาด .38 ซูเปอร์ด้วย สิ่งนี้ทำให้ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้เพิ่มขึ้น

 สมชายยังมีข้อมูลพฤติกรรมที่ตำรวจเฝ้าระวังในการก่ออาชญากรรมในลักษณะมือปืน เคยถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายเมื่อปี 2550 ปัจจุบันมีอาชีพรับประมูลเก็บขยะตามหมู่บ้านจัดสรร ?!!

 ชุดสืบสวนเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นว่า อดีตสารวัตรกำนันคนนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี จนสายลับรายงานเข้ามาอีกครั้งว่า รถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ของสมชายถูกนำไปขายที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมทั้งนำข้อมูลทั้งหมดของสมชายที่ได้จากการสืบสวนมาประมวลเข้าด้วยกัน จนมั่นใจว่าสมชายน่าจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จึงออกติดตามตัวและจับกุมได้ในที่สุด

 สมชาย เอี่ยมเส็ง ปัจจุบันอายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 9 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีหมายจับของศาลธัญบุรี เลขที่ จ.653/2553 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2553 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น  

 สมชายให้การรับสารภาพว่า เขากับ สวญ.สภ.มารวิชัย ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางและไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ก่อนเกิดเหตุตัวเขากับภรรยานั่งกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางแถวคลองสอง ต่อมา พ.ต.ท.ธงชัย ขับรถมาขวางทางไว้แล้วลงไปซื้อก๋วยเตี๋ยว จึงกะพริบไฟสูงขอทาง แต่กลับถูก พ.ต.ท.ธงชัย เดินมาต่อว่า และระหว่างทางกลับบ้านมาตามถนนคลองหลวง-หนองเสือ ก็ถูก พ.ต.ท.ธงชัย ขับรถตามมาเปิดกระจกซ้ายต่อว่า จึงรู้สึกโกรธจนควบคุมสติไม่อยู่ หยิบอาวุธปืนลงจากรถไปยิงจนเสียชีวิต โดยไม่รู้มาก่อนว่าผู้ตายเป็นตำรวจ

 "ครั้งแรกนายสมชายยังให้การปฏิเสธอ้างไม่รู้ไม่เห็น แต่ชุดสืบสวนมั่นใจในพยานหลักฐาน รวมถึงพยานแวดล้อม แนวทางการสืบสวนเชื่อมโยงไปถึงนายสมชาย อีกทั้งชุดสืบสวนสามารถบอกความเคลื่อนไหวของนายสมชาย ทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุได้ทั้งหมด ที่สำคัญภรรยาของนายสมชายที่ถูกเชิญมาสอบสวนด้วย ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก จนนายสมชายยอมรับสารภาพในที่สุด สาเหตุเกิดจากบันดาลโทสะ" พล.ต.ต.เมธีระบุ