ข่าว

พล.อ.ทรงกิตติยันกองทัพวันนี้ยังเป็นหนึ่งเดียว

พล.อ.ทรงกิตติยันกองทัพวันนี้ยังเป็นหนึ่งเดียว

30 ส.ค. 2553

"กองทัพวันนี้ยังเป็นหนึ่งเดียวกันหมดไม่มีการแตกแยก มีแต่คนพยายามทำให้แตกแยก แต่กองทัพไม่แตกแยก"

 ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา “กองทัพ” มีบทบาทสำคัญในการเข้ามาแก้ไขสถานการณ์บ้านเมือง จนทำให้เกิดครหาต่างๆ นานา ว่า “เลือกข้าง” แต่วันนี้ได้มีโอกาสสนทนากับ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถึงมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงที่ผ่านมาว่า ตอนนี้ไม่เห็นมีอะไรน่าเป็นห่วง ถ้าส่วนราชการทุกหน่วยงานทำหน้าที่ หรือบทบาทของตัวเอง ร่วมประสานงานกันเป็นอย่างดี และคนไทยรู้หน้าที่ ทุกคนจะต้องมีงานที่จะต้องทำให้ส่วนรวมไม่ใช่ส่วนตัว ถ้าทุกคนนำบทบาทของแต่ละฝ่ายเข้ามาผสมผสานกัน และมุ่งที่จะทำงานเพื่อสังคมไทยเป็นส่วนร่วมสถานการณ์ก็ไม่น่าจะมีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น

@กองทัพมีส่วนจะเข้าไปแก้ไขปัญหาความแตกแยกของคนไทยได้แค่ไหน

 องค์กรของทหารมีหน้าที่อยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญ ที่จะมีส่วนร่วมมีบทบาทสำคัญในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงและการช่วยเหลือรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ ก็มีส่วนร่วมในการทำให้ประชาชนเข้าใจ เมื่อประเทศชาติเดินไปด้วยดีแล้วทุกคนก็ได้ประโยชน์ ดังนั้นประชาชนจะต้องเข้าใจ และมุ่งมั่นที่จะทำให้ส่วนรวมไปในทางที่ดี

@จากวันนั้นถึงวันนี้ เรายังจับกลุ่มตัวการก่อการร้ายที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายไม่ได้เลย

 สิ่งแรกเราอย่าทำให้กลุ่มก่อการร้ายขยายตัว และขณะนี้หน่วยงานแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ทำกันอยู่ดูแลเรื่องนี้ ทั้งนี้กองทัพก็มีการติดตาม และตรวจสอบข่าวสาร และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วย แต่คงจะไม่สามารถบอกรายละเอียดลึกลงไปว่าหน่วยงานทำอะไรอยู่บ้าง ถึงสถานการณ์บ้านเมืองไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอะไร กองทัพก็จะต้องติดตามปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในลักษณะภัยความมั่นคงของประเทศอยู่แล้ว

@ รัฐบาล-กองทัพ ถูกโจมตีว่ามีการเกื้อหนุนอุ้มชูเพื่อรักษาผลประโยชน์ร่วมกัน

 กองทัพเป็นหน่วยราชการในกระทรวงกลาโหม และกระทรวงกลาโหมก็ถูกอำนวยการโดยกำหนดจากรัฐบาล และทำงานตามนโยบายของรัฐบาล และนโยบายด้านความมั่นคงในภาพรวมไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล นโยบายความมั่นคงของประเทศไม่เปลี่ยน ใครจะมาเป็นรัฐบาลจะมาบอกว่าไม่รักษาอธิปไตยของประเทศเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ และทำงานอย่างต่อเนื่อง

@กองทัพถูกข้อครหาว่าดื้อดึงอุ้มชูรัฐบาล ทั้งๆ ที่รัฐบาลฆ่าประชาชนกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา

 ไม่มีหรอก ผมก็ทำหน้าที่ของผมไป มันไม่มีใครที่จะไปทำอะไรได้ กรอบของทหารเล็ก-แคบกว่ากรอบของรัฐบาล ที่ดูแลเป็นสิบๆ กระทรวง และหน่วยงานขึ้นตรงมากมาย ทหารเป็นเพียงหน่วยงานเล็กๆ หน่วยหนึ่ง ถ้าเปรียบเทียบกับข้าราชการของประเทศไทยถือว่าไม่มากเลย

 กองทัพวันนี้ยังเป็นหนึ่งเดียวกันหมดไม่มีการแตกแยก มีแต่คนพยายามทำให้แตกแยก แต่กองทัพไม่แตกแยก

@การแต่งตั้งโยกย้ายทหาร มีการเอาพวกพ้อง หรือเด็กเส้น-เด็กฝาก เข้ามาอยู่ในตำแหน่งหลัก ทั้งๆ ที่ฝีมือไม่ถึง

 ไม่มีหรอก เราทำงานด้วยระบบ มาตรฐานใครจะมาอยู่ตำแหน่งใดเขาก็ทำตามหน้าที่สายการบังคับบัญชา และทำตามนโยบายของรัฐบาลอยู่ ทั้งนี้มั่นใจว่าคนที่ผิดหวังกับตำแหน่งคงไม่สร้างปัญหาอะไร เพราะทุกคนทราบดี โดยยึดหลักการทำงานความรู้ ความสามารถ อาวุโส และความพร้อมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มีคณะกรรมการจะต้องพิจารณาคนที่ดีที่สุดที่จะมาดำรงตำแหน่ง และทุกคนก็เป็นที่ยอมรับ ส่วนคนที่คิดว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ก็คิดกันไปเอง

@ ความสัมพันธ์ทางด้านการทหารระหว่างไทย-กัมพูชา ตอนนี้เป็นอย่างไร หลังเกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา

 ทางด้านการทหารก็ยังเป็นไปปกติ กองทัพไทยมีหน้าที่เตรียมกำลังป้องกันประเทศ กองทัพกัมพูชาก็จะต้องเตรียมกำลังป้องกันประเทศ แต่ความเข้าใจในการอยู่ร่วมกัน รัฐบาลไทยก็มีนโยบายของชายแดนไทยต่อประเทศเพื่อนบ้านที่จะประสานสัมพันธ์อยู่ร่วมกันโดยสันติ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประเพณี มีการค้าขาย และมีการพัฒนาร่วมกันก็เป็นปกติ และเป็นสิ่งที่ดี

@ การที่สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถอด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ จะทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดคลี่คลายลงหรือไม่

 ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่การถอด พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่งเป็นเรื่องของกัมพูชา ทางกัมพูชาจะจ้างใครเป็นที่ปรึกษา หรือจะจ้างใครมันจะไปเกี่ยวอะไรกับประเทศไทย

@ แต่หลังจากการถอด พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่ง รัฐบาลไทย-กัมพูชา ก็ฟื้นเรื่องการทูตทันที

 ความสัมพันธ์อันดีเกิดขึ้นจากความเข้าใจ และการเจรจา การหารือในบางช่วงบางตอนอาจจะเกิดความไม่เข้าใจ หรืออะไรก็ได้ทำให้เกิดการชะลอความสัมพันธ์ทางการทูต แต่ข้อเท็จจริงแล้วความสัมพันธ์ในท้องถิ่น การไปมาหาสู่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง คนไทยก็ยังไปค้าขายในกัมพูชา คนกัมพูชาก็มาค้าขายในประเทศไทย แรงงานก็อยู่ในเมืองไทยเยอะแยะ

 ส่วนปัญหาเรื่องการปักปันเขตแดนก็เป็นสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ อาจจะต้องใช้เวลา จะต้องใช้หลักภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หลักฐานเชิงแผนที่ หรือข้อตกลงตามสนธิสัญญาต่างๆ แต่หากที่จะร่วมมือกันถือเป็นเรื่องที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นมีปัญหาอะไร


ปัญญา ทิ้วสังวาลย์