ข่าว

อาลัยรักครั้งสุดท้าย"สหัส บุญญาวิวัฒน์"

อาลัยรักครั้งสุดท้าย"สหัส บุญญาวิวัฒน์"

03 ก.ย. 2553

น้ำตาแห่งความอาลัยรักถูกรินหลั่งอาบแก้มของสองครอบครัวข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อประเทศชาติจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต สำหรับ สหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง และ โกวิท ปัญญาตรง

ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนับเป็นการส่งความอาลัยรักครั้งสุดท้ายให้แก่ทั้งสอง ผ่านดอกไม้จันทน์สีขาวนวลที่ถูกเปลวไฟเผาไหม้ไปทีละน้อย

 ด้วยการทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปพระราชทานเพลิงศพแก่ทั้งสอง เมื่อวันที่ 1 กันยายน ณ เมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ท่ามกลางครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนพ้องผู้ร่วมงานนับหมื่นคน ที่พร้อมใจกันเดินทางมาร่วมส่งทั้งสองสู่สรวงสวรรค์ และโอกาสนี้ อดิวัฒน์ บุญญาวิวัฒน์ ลูกชายของที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง ยังบวชหน้าไฟให้แด่ผู้เป็นพ่อด้วย

 เมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหารถูกตกแต่งไปด้วยดอกกุหลาบ และดอกกล้วยไม้ในโทนสีชมพูม่วงอย่างสวยงาม สมกับที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชกระแสรับสั่งเอาไว้ว่า "ทำให้ดีที่สุด" ภายในงานมีแขกคนสำคัญมากมาย อาทิ ม.ร.ว.ดิศนัดดา-ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล พิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา ม.ร.ว.เทพกมล เทวกุล คุณหญิงขวัญตา เทวกุล ณ อยุธยา ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ พลากร-ท่านผู้หญิงทัศนียา สุวรรณรัฐ ท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา อาสา-ท่านผู้หญิงสุจิตคุณ สารสิน คุณหญิงจามรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา คุณหญิงกรรณิการ์ คัมภีร์พันธุ์ คุณหญิงอัจฉรา-พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ เป็นต้น

 หลังทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับ พญ.อรสุรีย์ ลูกสาวของ สหัส บุญญาวิวัฒน์ กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำรัสว่า คุณพ่อเป็นคนดี เสียดายคนดีๆ คิดว่าคงจะหาคนทำงานเพื่อแผ่นดินแบบนี้ได้ยาก ถึงเวลาคนต้องไปเสียชีวิตแล้วมีคนนับถือ เป็นคนทำงานเพื่อแผ่นดิน ไม่ว่าจะเช้า สาย กลางวัน หรือกลางคืน ไม่เคยใส่ใจ ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเดียว คนเราทุกคนต้องมีวันนี้ ถ้าเสียชีวิตแล้วมีคนยกย่องนับถือก็มีคุณค่าแล้ว

 "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อครอบครัวของเราอย่างหาที่สุดมิได้ เราภาคภูมิใจมากแม้พ่อจะไม่มีเวลาให้ครอบครัว ภูมิใจที่พ่อทำเพื่อประเทศชาติ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าที่พ่อไม่อยู่พ่อไปไหน ทำอะไร มีพระรูปหนึ่งท่านพูดไว้ว่าวีรบุรุษเขาไม่ก้มลงผูกเชือกรองเท้าแล้วเสียชีวิตหรอก วีรบุรุษจะต้องเสียชีวิตแบบนี้ หมายถึงตายเพื่อชาติ ดีใจที่พ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน รวมทั้งตัวเองด้วยพ่อทำให้รู้ว่าคนดีมีอยู่จริง ถึงจะไม่เห็นวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องเห็น ช่วงเวลาที่ผ่านมา 40 ปีพ่อพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความดีนั้นมีอยู่จริง" ลูกสาวกล่าวส่งท้ายถึงคุณพ่อสุดที่รักด้วยน้ำตา