ข่าว

พศ.ยังไม่อนุญาตตั้งวัดสวนสันติธรรม

พศ.ยังไม่อนุญาตตั้งวัดสวนสันติธรรม

16 ก.ย. 2553

พระปราโมทย์ส่งทนายแถลงโต้ปัดถ่ายเททรัพย์ให้คนใกล้ชิด ยันใช้ชื่ออดีตภรรยาซื้อที่ตั้งแต่ต้น เพราะไว้ใจมากกว่า"ฐิตินาถ" แถมเป็นพระธรรมยุต จับเงินไม่ได้ ลั่นบัญชีบริจาคโปรงใส่ถ่ายเทไม่ได้ เหตุมีคกก.-ผู้ตรวจบัญชีดูแล มีหลักฐานทุกขั้นตอน เจ้าตัวเทศน์สอนญาติโยมต

หลังกลุ่มชาวพุทธรักศาสนา เข้าร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ให้ตรวจสอบพระปราโมทย์ ปาโมชฺโช  เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งสงสัยว่าจะมีพฤติการณ์ยักย้ายถ่ายเทเงินบริจาคซื้อที่ดินสำนักสงฆ์ 100 ล้านบาท เข้าบัญชีนางอรนุช สันตยากร อดีตภรรยา ที่บวชชีอยู่สำนักสวนสันติธรรมนั้น ล่าสุดทนายความของพระปราโมทย์ได้แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว

 เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่16 กันยายน นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความของพระปราโมทย์ แถลงว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้กระทำโดยตัวแทนของผู้มาปฏิบัติธรรมในสวนสันติธรรม มิใช่เกิดจากเจตนารมย์โดยตรงของพระปราโมทย์ ด้วยเหตุว่าปัจจุบันมีกลุ่มของผู้ไม่หวังดีที่ได้กระทำการโดยมีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงอันดีงามของพระปราโมทย์ และสวนสันติธรรม จึงมอบหมายให้แถลงข้อเท็จจริงขึ้น

 นายธนเดช กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสวนสันติธรรมนั้น ได้จัดตั้งขึ้นมาตามความประสงค์ของผู้มีจิตศรัทธาต่อพระปราโมทย์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และศึกษาธรรมของผู้ที่มีจิตศรัทธา และความประสงค์จะเข้ามาศึกษาธรรมตามแนวทางของพระปราโมทย์
  ในช่วงแรกได้จัดตั้งขึ้นเป็นศูนย์ศึกษาปฏิบัติธรรมซึ่งไม่ใช่นิติบุคคล ในการดำเนินการจัดสร้างนั้นเริ่มต้นด้วยการจัดซื้อที่ดิน ในช่วงของการซื้อที่ดินนส.ฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินบางส่วน ได้ร้องขอเป็นผู้ซื้อที่ดิน แต่ทางพระปราโมทย์ขอให้ใช้ชื่อของแม่ชีอรนุช เนื่องจากไว้วางใจมากกว่า จึงทำให้มีชื่อของแม่ชีอรนุช เป็นเจ้าของที่ดินมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2548 มิใช่การโอนถ่ายให้ในภายหลังแต่อย่างใด

 " พระปราโมทย์จำพรรษาอยู่ที่สวนโพธิญาณอรัญวาสี อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ต่อมาในปี 2548 คุณฐิตินาถ ได้พยายามขอสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมใหม่ถวาย โดยตกลงกันว่าคุณฐิตินาถและครอบครัวจะรับภาระค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากพระปราโมทย์ไม่ชอบการเรี่ยไร  ต่อมาคุณฐิตินาถได้แจ้งให้ทราบว่า จำเป็นต้องขอเรี่ยไรเงินค่าซื้อที่ดินประมาณ 6 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ คุณฐิตินาถและครอบครัวจะรับผิดชอบเอง พระปราโมทย์จึงยินยอม และในขั้นตอนการซื้อที่ดินนั้น เกิดปัญหาว่าจะใช้ชื่อผู้ใดเป็นผู้ซื้อที่ดิน เพราะเป็นพระจะไปซื้อที่ดินด้วยตนเองไม่ได้ ชั้นแรกคุณฐิตินาถขอให้ใช้ชื่อตัวเอง  แต่พระปราโมทย์ขอให้ใช้ชื่อแม่ชีอรนุชแทน เพราะไว้วางใจมากกว่า " ทนายระบุ

 ทนายความ ระบุว่า ในการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการก่อสร้าง ตลอดจนการดำเนินงานของสวนสันติธรรมได้กระทำอย่างโปร่งใส มีบุคคลต่างๆ ที่มีชื่อเสียง ได้เข้ามารับรู้และทราบเรื่องเป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนสันติธรรมก็ไม่เคยมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมากตามข่าว  หรือไม่เคยมีเรื่องการยักย้ายทรัพย์สินตามที่เป็นข่าว และในการบริหารเงินที่ได้รับบริจาคมาของสวนสันติธรรม แม่ชีอรนุชไม่ใช่ผู้ดูแลบัญชีเงินรับบริจาคแต่เพียงผู้เดียว ยกเว้นในช่วงแรกที่คุณฐิตินาถวางมือก่อนสร้างสวนสันติธรรมเสร็จ โดยบัญชีเงินรับบริจาคของสวนสันติธรรม มีพัฒนาการเป็น 3 ระยะคือ

 1. ระยะก่อสร้างสวนสันติธรรม เบื้องต้นมีการเปิดบัญชีเพื่อสร้างสวนสันติธรรมในนามของแม่ชีอรนุชร่วมกับนส. ฐิตินาถ  ซึ่งการลงนามเบิกเงินจะต้องลงนามร่วมกัน โดยนส.ฐิตินาถจะเป็นผู้ขอเบิกจ่าย เนื่องจากเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง และนายธนา รุจิพัฒนกุล เป็นผู้ถือสมุดบัญชีเงินฝากและตรวจสอบรายรับรายจ่าย  ในช่วงที่สวนสันติธรรมเปิดการแสดงธรรมแล้ว มีการเปิดบัญชีอีกบัญชีหนึ่งในนามของแม่ชีอรนุชและนส.ฐิตินาถร่วมกัน เพื่อดูแลเงินที่สาธุชนถวายสงฆ์เพื่อบำรุงสวนสันติธรรม

 2. ระยะหลังการก่อสร้าง ในช่วงท้ายของการก่อสร้างนส. ฐิตินาถวางมือเนื่องจากมีภาระส่วนตัว แม่ชีอรนุชจึงต้องรับภาระดูแลบัญชีตามลำพัง ในช่วงธันวาคม 2549 เป็นต้นมา โดยปิดบัญชีสร้างสวนสันติธรรมเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ และปิดบัญชีบำรุงสวนสันติธรรมเดิมโดยถ่ายโอนเงินไปเปิดบัญชีใหม่ในนามของแม่ชีอรนุชตามลำพัง เนื่องจากนส.ฐิตินาถไม่ได้อยู่ในสวนสันติธรรมแล้ว แต่การใช้จ่ายทุกอย่างมีหลักฐานการเบิกจ่ายทั้งสิ้น และต่อมาเมื่อมีเงินในบัญชีมากขึ้น สวนสันติธรรมจึงได้เปิดบัญชีธนาคารใหม่เมื่อ 22 สิงหาคม 2551 ในนามของแม่ชีอรนุช นายอภิชาติ อัศวเรืองชัย และนายชยาทร เตชะไพบูลย์ และทุกสิ้นเดือน แม่ชีอรนุชจะทำบัญชีส่งให้คุณอภิชาติเป็นหลักฐานด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่นายอภิชาติลาออกจากการเป็นประธานกรรมการสวนสันติธรรมเมื่อ 15 มกราคม 2553 ก็ไม่มีการเบิกเงินจากบัญชีนี้แต่อย่างใด

 ขณะเดียวกัน เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 มีการเปิดบัญชีใหม่ ในนามของนายสุรพล สายพานิช นายธนา รุจิพัฒนกุล และคุณกนิษฐวิริยา ต.สุวรรณ ทั้งนี้แม่ชีอรนุชทำหน้าที่เพียงการควบคุมการเบิกจ่ายเงินสดย่อย และสรุปยอดบัญชีรายเดือนส่งให้นายสุรพล ซึ่งได้จ้างนักบัญชีตรวจสอบบัญชีอีกชั้นหนึ่งด้วย

 สำหรับเงินบริจาคของสวนสันติธรรมจะมาจาก 2 ทาง คือ ส่วนที่มีผู้บริจาคเข้าบัญชีโดยตรง และจากญาติโยมที่เข้ามาฟังธรรมและได้บริจาคแด่สงฆ์ที่อยู่ในสวนสันติธรรมเพื่อบำรุงสวนสันติธรรม ซึ่งเงินในส่วนที่สองนี้จะมีอาสาสมัครคอยดูแล และตรวจนับมีการลงรายการรับไว้ครบถ้วน และทางสวนสันติธรรมจะมีการใช้เงินอย่างมีระบบเอกสารการเบิกจ่ายครบถ้วนตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น

 ทนายความยังชี้แจงด้วยว่า การที่พระปราโมทย์ได้มอบหมายให้แม่ชี อรนุช รับมอบอำนาจดำเนินการควบคุมการเบิกจ่ายเงินของสวนสันติธรรมแทน และดูแลบัญชีเป็นบางคราว  เนื่องจากพระปราโมทย์เป็นพระในสายของธรรมยุตินิกาย ซึ่งจะไม่มีสามารถจับต้องหรือเก็บเงินทอง หรือซื้อทรัพย์สินใดๆ เองได้ ทั้งสิ้น และในสวนสันติธรรมไม่มีอุบาสกอยู่ประจำ จึงจำเป็นที่จะต้องให้แม่ชีอรนุชดูแลแทน และที่ผ่านมาแม่ชีก็ได้ร้องขอต่อพระปราโมทย์บ่อยครั้ง ที่จะให้หาคนมาทำงานแทน เพื่อแม่ชีจะได้บำเพ็ญภาวนาได้เต็มที่ต่อไป

 " เหตุที่ต้องให้ฆราวาสดูแลการเบิกจ่ายเงินนั้น ก็เนื่องจากสวนสันติธรรมเป็นที่พักสงฆ์ของพระธรรมยุติ พระดูแลเงินเองไม่ได้เพราะผิดพระวินัย และในสวนสันติธรรมมีผู้ที่ไม่ใช่พระซึ่งอยู่ประจำเพียง 2 คน คือแม่ชีอรนุชกับนายชยาทร เตชะไพบูลย์เท่านั้น ซึ่งทั้งสองคนจำเป็นต้องแบ่งงานกันทำ เมื่อสวนสันติธรรมได้ขอตั้งเป็นวัดแล้ว จะต้องหาไวยาวัจกรใหม่ซึ่งจะเป็นผู้ชาย ขณะนี้ได้ทาบทามผู้ที่สงฆ์ไว้วางใจได้ไว้แล้ว"

 นายธนเดช ยังชี้แจงว่า สำหรับเงินบริจาคใส่ตู้ถวายสงฆ์เพื่อบำรุงสวนสันติธรรมนั้น จะมีขั้นตอนการทำงานดังนี้คือ (1) มีการตรวจนับหน้าตู้ทุกวันที่เปิดสวนสันติธรรม โดยทีมงานอาสาสมัครซึ่งก็คือผู้ที่มาฟังธรรมนั่นเอง เมื่อตรวจนับแล้วจะลงยอดรายรับในแต่ละวันแล้วส่งยอดพร้อมตัวเงินให้แม่ชีอรนุช (2) แม่ชีอรนุชจะรวมยอดรายรับแต่ละวันไว้ (3) เมื่อมีผู้เบิกค่าใช้จ่ายภายในสวนสันติธรรม จะต้องนำหลักฐานการเบิกจ่ายไปแสดงต่อแม่ชีอรนุชเพื่อขอรับเงิน (4) เมื่อมีเงินสดคงเหลือจำนวนหนึ่ง แม่ชีอรนุชจะนำเข้าฝากในบัญชีของสวนสันติธรรมเป็นระยะๆ (เงินในบัญชีแทบไม่เคยเบิกจ่ายเลย) (5) เมื่อถึงสิ้นเดือน แม่ชีอรนุชจะต้องส่งรายการรายรับรายจ่ายทั้งเดือนให้คุณสุรพล สายพานิช เพื่อลงบัญชีและมีผู้ตรวจสอบบัญชีอย่างเป็นระบบ

 นอกจากนี้  เกี่ยวกับที่ดินของสวนสันติธรรมตามที่เป็นข่าว ภายหลังจากที่จัดสร้างสวนสันติธรรมแล้วเสร็จ ในช่วงแรกมีผู้เห็นว่าการตั้งเป็นวัดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยาก และในตอนนั้นยังไม่เหมาะสมจึงยังไม่ดำเนินการ และต่อมาในเดือนมกราคม 2553 เมื่อเห็นว่าทุกอย่างลงตัวและพร้อมแล้ว พระปราโมทย์ก็ได้ให้แม่ชีอรนุช ยื่นเรื่องขอยกที่ดินแปลงที่เป็นที่ตั้งของสวนสันติธรรมให้มีการจัดตั้งเป็นวัดแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 โดยทำสัญญากับนายอำเภอศรีราชา และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอนุญาตต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สวนสันติธรรมมีฐานะเป็นวัดต่อไป

 ผู้สือข่าวรายงานบรรยากาศที่สวนสันติธรรมตั้งแต่ช่วงเช้า พบว่า มีญาติโยมจำนวนมากเข้าไปรับฟังการบรรยายธรรมของพระปราโมทย์ตามปกติ แต่เมื่อเสร็จสิ้นการบรรยายธรรม ญาติโยมต่างจับกลุ่มพูดคุยถึงข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่แสดงท่าทีเป็นห่วงเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมาก แม้ว่าระหว่างบรรยายธรรมพระปราโมทย์จะบอกกับญาติโยมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอีกสักพักเรื่องทุกอย่างจะคลี่คลาย

 ส่วนการแถลงข่าวของทนายความปรากฎว่า  มีกองทัพนักข่าวกว่า 50 คนเดินทางมาที่สวนสันติธรรม โดยเจ้าหน้าที่ของสวนสันติธรรมได้ตั้งโต๊ะลงทะเบียนสื่อมวลชน พร้อมทั้งขอตรวจสอบบัตรสื่อมวลชนอย่างละเอียด เพราะเกรงว่าจะมีกลุ่มที่ต่อต้านแฝงตัวเข้ามาด้วย และภายในบริเวณสวนสันติธรรมทางวัดได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ.ดูแลบริเวณพื้นที่อย่างเคร่งครัด ไม่ให้ผู้ใดเข้าออกตามเวลาที่ปิดประกาศไว้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มกำลังตำรวจอีก 20 นาย มาดูแลการแถลงข่าวด้วย  ซึ่งหลังนายธนเดชแถลงเสร็จ ก็ได้เดินออกจากห้องแถลงข่าวโดยไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามแม้แต่คำถามเดียว

 มีรายงานว่า ในเวลา14.00 น.วันเดียวกัน กลุ่มคนรักศาสนา ได้มีการแถลงข่าวตอบโต้การแถลงข่าวของพระปราโมทย์ ที่อาคารอัมรินทร์ชั้น 22 สำนักงานดีเอ็มซี โดยมุ่งเน้นประเด็นการโอนที่ดินไปเป็นชื่อเม่ชีอรนุช ซึ่งมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสและไม่เป็นตามที่แถลงข่าว พร้อมจะประกาศล่ารายชื่อเพิ่มเติมผู้ที่ถูกต้องการให้ตรวจสอบกรณีสงสัยดังกล่าวด้วย
 
พศ.แจงยังไม่อนุญาตตั้งวัดสวนสันติธรรม

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการยื่นหนังสือร้องเรียนให้ พศ.ดำเนินการเอาผิดพระปราโมทย์ว่า เบื้องต้นได้เข้าตรวจสอบการก่อตั้งวัดของสวนสันติธรรมแล้วพบว่า มีการยื่นเอกสารขออนุญาตการตั้งวัดเมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ขั้นตอนขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการขอใบอนุญาตจัดตั้ง ดังนั้น ในส่วนการขอตั้งวัดจึงยังไม่มีการดำเนินการอนุญาตให้ตั้งได้ ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีบุคคลใน พศ. ให้ความช่วยเหลือและแนะนำพระปราโมทย์ให้ดำเนินการตั้งวัดเพื่อแก้ปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินนั้น ตนไม่ทราบและคิดว่าไม่น่าจะเป็นดังที่มีการตั้งข้อสังเกต

 สำหรับขั้นตอนการตั้งวัด อันดับแรกต้องมีการยื่นเอกสารการขอจัดตั้งมายัง พศ. เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจพิจารณาเอกสารหลักฐานเบื้องต้น เมื่อผ่านการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นแล้ว ผู้ก่อตั้งวัดจึงจะสามารถดำเนินการสร้างวัด จากนั้นเมื่อสร้างวัดเสร็จแล้วจึงค่อยมาขอใบอนุญาตตั้งวัด โดยพศ.จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบและออกใบอนุญาตให้จัดตั้ง โดยปกติทั่วไปจะใช้เวลาในการดำเนินการทั้งสิ้นราว 4 เดือน และภายหลังได้ใบอนุญาตจัดตั้งแล้วจึงจะมีการโอนที่ดินหรือทรัพย์สิน ซึ่งในขั้นตอนนี้จะมีการตรวจสอบว่า มีความขัดแย้งในเรื่องที่ดินหรือไม่ หรือผู้บริจาคมีความยินยอมมอบที่ดินให้แก่ทางวัดหรือไม่

 "หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พศ. ในกรณีดังกล่าวนั้น จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะปกครอง คือเจ้าคณะจังหวัด และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่มีการร้องเรียน อาทิ กรณีการโอนที่ดินและเงินบริจาคให้แก่อดีตภรรยาของพระปราโมทย์ รวมทั้งการเทศน์และการสอนที่ระบุว่า บิดเบือนและไม่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ดีหากระหว่างนี้มีบุคคลใดนำเรื่องไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดี พศ.ก็จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องและจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ก็พร้อมปฏิบัติตามหากในที่สุดมีการพิจารณาความตัดสินโดยคำสั่งของศาล” นายนพรัตน์ กล่าว

 ด้านพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการตรวจสอบพระปราโมทย์ว่า ได้สั่งการให้ดีเอสไอส่วนภูมิภาคประจำการอยู่ในจ.ชลบุรี เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว  หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายเทิดศักดิ์ เตชะกิตขจร อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนพุทธศาสนิกชน ในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าที่ชัดเจน จึงไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพราะเกรงจะกระทบต่อความเชื่อถือศรัทธาในพุทธศาสนา

 พ.ต.อ. ณรัชต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอไม่เคยเข้าไปสืบสวนกรณีความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับการรับบริจาคของสวนสันติธรรม รวมทั้งไม่มีข้อมูลระบุถึงความขัดแย้งหรือขัดผลประโยชน์ภายในของกลุ่มลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดกับพระปราโมทย์ แต่ยืนยันว่า ดีเอสไอจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพระดีก็ต้องให้การปกป้อง