
บุกจี้ชิงรถขนเงินบ.โพรเกรสกันภัย
ขอออกหมายจับนเงินคนร้ายบุกเดียวจี้ชิงรถขนเงินของบิษัทโพรเกรส กันภัย จำกัด ซึ่งเป็นรถขนเงินของธนาคารกสิกรไทย
(11พ.ย.) เวลา 10.30 น. พ.ต.ท.มานิตย์ จันทร์ประเสริฐ พนักงานสอบสวน(สบ2) สน.พหลโยธิน รับแจ้งคนร้ายจี้ชิงรถขนเงินบริษัท โพรเกรส กันภัย จำกัด ซึ่งเป็นรถขนเงินของธนาคารกสิกรไทย ที่หน้าวิลล่ามาร์เก็ต ด้านหลังห้างเมเจอร์รัชโยธิน ถ.รัชดา แขวงลาดยาว เขต จตุจักร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประพัฒน์ ผบก.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.พีระพงษ์ วงศ์สมาน ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ ผกก.สน.พหลโยธิน และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและชุดจู่โจม ของบก.น.2 รวมทั้งระดมเจ้าหน้าที่สายสืบปิดล้อมพื้นที่เพื่อสกัดจับคนร้าย
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ขนเงินของบริษัทดังกล่าว เป็นรถกระบะ อีซุซุ ดีแม็ก ทะเบียน ตย - 469 กทม.จอดอยู่บริเวณปากทางเข้า อเวนิวรัชโยธิน ซึ่งห่างจุดบริเวณตู้ เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย ตั้งอยู่ที่วิลล่ามาร์เก็ต ประมาณ 300 เมตร โดยพบจยย.คนร้าย ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ-น้ำตาล สวมทะเบียนปลอมหมายเลข ษวง-337 กทม.สภาพพังงยับติดอยู่ใต้ท้องรถขนเงินดังกล่าว และบนพื้นถนนมีรอยขูดลากเป็นทางยาว จากการตรวจสอบภายในเบาะรถ จยย.พบป้ายทะเบียนจริง หมายเลข คน-99 ประจวบคีรีขันธ์ ซุกซ่อนไว้
จากการสอบถามนายนิรันดร์ แสงสวัสดิ์ อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่หัวหน้าชุดควบคุมรถขนเงิน ของบริษัท โพรเกรส กันภัย จำกัด ที่เติมเงินตามตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ช่วงเวลา 09.00 น.วันนี้ ตนพร้อมทีมงานซึ่งมีนายศุภชัย โกศิริ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่คุ้มกันรถขนเงิน และนายไชยะ บุศย์เลิศ อายุ 25 ปี เป็นคนขับรถขนเงิน ได้นำเงินออกจากธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ เพื่อเติมเงินตู่ ATM ในเขตรับผิดชอบตามจุดต่างๆ ซึ่งจุดที่เกิดเหตุเป็นจุดที่ 4 ขณะที่ตนนำถุงบรรจุเงินเพื่อไปใส่ตู้ ATM ที่วิลล่ามาเก็ต โดยมีนายศุภชัย คุ้มกันไปด้วย โดยมีนายไชยะรอที่รถขนเงิน ระหว่างจะนำเงินบรรนจุใส่ตู้ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน รูปร่างท้วม ผิวดำแดง สูงประมาณ 165 ซม.สวมเสื้อแจ็คเก็ต สี เทาดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขาวยาว สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีดำเข้ามาใช้ปืนลูกโม่ ขนาด.38 รมควันสีดำ จี้ทางด้านหลัง พูดสำเนียงภาคกลางข่มขู่และบอกให้หมอบลงกับพื้น ก่อนจะเอาถุงบรรจุเงิน 1 ใบ ซึ่งภายในมีเงินอยู่ 2.7 ล้านบาท วิ่งหนีไปขึ้นรถ จยย.ที่จอดเตรียมไว้ห่างจากจุดที่ก่อเหตุไม่ถึง 10 เมตร
นายรนิรันดี์ กล่าวว่า ระหว่างที่คนร้ายก่อเหตุแม้ว่านายศุภชัย ที่เป็นคนคุ้มกันมีอาวุธประจำกาย แต่คนร้ายมาจี้ด้านหลัง ทำให้เกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงยอมไปก่อน และขณะที่คนร้ายกำลังจะขับจยย.หลบหนี ตนได้โทรศัพท์ ให้นายไชยะที่รออยู่รถให้ขับรถพุ่งชนคนร้ายที่กำลังหลบหนี จากนั้นนายไชยะจึงพุ่งชนทำให้คนร้ายกระเด็นออกจากกรถส่วนถุงบรรจุเงินก็ตกอยู่กลางถนน และนายไชยะได้ขับรถลากรถ จยย.ที่ติดอยู่ใต้ทองออกไปจนถึงจุดที่พบในที่เกิดเหตุ เพื่อให้ไปถึงจุดที่คิดว่าปลอดภัย เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธ เกรงว่าถูกไล่ยิงเมื่อคนร้าย กระเด็นออกได้วิ่งหนีเข้าไปในห้างเมเจอร์ฯโดยไม่หยิบถุงบรรจุเงินไปด้วย ตนจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่รปภ.ห้างเมเจอร์ฯพร้อมโทรแจ้งไปยังบริษัทต้นสังกัดและแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบพร้อมกับสกัดจับคนร้าย
พล.ต.ต.ดำรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลและจากการเช็คชื่อผู้ครอบครองรถจากทะเบียนตัวจริงทราบชื่อผู้ครอบรถของคนร้าย ชื่อนายวีระสิน อัศววิภาส อายุ 47 ปี เป็นคนจ.ประจวบคีขันธ์ ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 347/90 ซ.ลาดพร้าว 23 ขณะนี้ชุดสืบสวนได้จัดกำลังเข้าปิดล้อมแล้ว แต่ยังไม่พบตัวนายวีระสิน และเจ้าหน้าที่รปภ.ที่เห็นเหตุการณ์ บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคนร้ายวิ่งเข้าห้างก่อนจะถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกเหลือเพียงเสื้อกีฬาสีขาวแดง จากนั้นวิ่งออกไปขึ้นรถแท็กซี่ สีชมพู ที่หน้าห้าง หลบหนีไปตามถนนพหลโยธิน แต่เจอปัญหารถติดจึงลงจากรถแท็กซี่ แล้วไปขึ้นจยย.รับจ้างหลบหนีไปทางซอย อาภาภิรมย์ ใกล้กับซอยเสือใหญ่อุทิศ
พล.ต.ต.ดำรงค์ บอกว่า จากการตรวจสอบผู้ครอบครองรถของคนร้ายและได้ชื่อมานั้น ตอนนี้ถือเป็นผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีส่วนสอดคล้องกับผู้เสียหายที่ถูกจี้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายที่จี้รถขนเงินครั้งนี้ ไม่ได้ทรัพย์สินไปแต่อย่างใด เนื่องจากถูกคนขับรถพุ่งชนได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนน่าจะติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ในไม่ช้า ซึ่งถือว่าคนร้ายก่อเหตุอุกอาจมาก ทั้งที่เป็นสถานที่ที่อยู่กลางที่สาธารณชน
ต่อมาเวลา 13.45 น.วันเดียวกันพ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น. 2และ พ.ต.อ.พีระพงษ์ วงศ์สมาน ผกก.สส.บก.น.2 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน ที่ สน.พหลโยธิน ก่อนที่พ.ต.อ.เจริญ จะเปิดเผยว่า ขณะนี้ในทางการข่าวคืบหน้าไปมาก สามารถรู้ผู้ต้องสงสัยแล้ว และดำเนินการให้เจ้าหน้าที่สายสืบนำตัวญาติพื่น้องมาสอบถาม รวมทั้งทราบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ประสบปัญหาการเงิน โดยประกอบกิจการเกี่ยวน้ำมันที่ จ.สระแก้ว ซึ่งขณะนี้มีเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีกันอยู่ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบไม่พบผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องหรือเคยเป็นพนักงานเก่าของบริษัทรถขนเงินดักล่าว และเชื่อว่าการก่อเหตุหครั้งนี้ คนร้ายลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยมีการเตรียมการดูลาดเลาวางแผนก่อเหตุก่อนลงมือมาก่อน เริ่มตั้งแต่การสวมทะเบียนปลอม แต่ทะเบียนปลอมดังกล่าวเป็นทะเบียนของจยย.ฮอนด้า ยี่ห้อเดียวกับของคนร้าย
ซึ่งเจ้าของแจ้งหายไว้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามได้ให้เจ้าหน้าที่สายสืบเร่งประสานขอกล้องวงจรปิดทั้งจากร้านค้าโดยรอบและทั้งในห้างเมเจอร์รัชโยธิน เพื่อตรวจสิอบพฤติกรรมคนร้ายและลักษณะการก่อเหตุรวมทั้งเส้นทางการหลบหนี และด้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งรัดติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากในพื้นที่ สน.พหลโยธิน และบก.น.2 เกิดเดหตุจึ้ชิงทรัพย์อย่างอุกอาจลักษณะเดียวกันนี้มาหลายคดีแล้ว
ขอออกหมายจับคดีชิงทรัพย์รถขนเงิน
เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นขออนุมัติศาลอาญา รัชดา ออกหมายจับนายวีระสิน อัศววิภาส อายุ 47 ปี เจ้าของธุรกิจปั๊มน้ำมัน ที่จ.สระแก้ว และเปิดบริษัทเกี่ยวกับรักษาความปลอดภัยที่ จ.กรุงเทพฯ โดยนายวีระสินเป็นคนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 347/90 ซ.ลาดพร้าว 23 ในข้อหา ชิงทรัพย์ โดยมีอาวุธปืนและใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือสถานที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร