ข่าว

ฟ้อง"พสิษฐ์"โฆษกเพื่อไทย-สื่อแผ่คลิป

ฟ้อง"พสิษฐ์"โฆษกเพื่อไทย-สื่อแผ่คลิป

23 พ.ย. 2553

“จรูญ – สุพจน์ – เฉลิมพล” สามตุลาการรัฐธรรมนูญ ส่งทนายฟ้อง “พสิษฐ์" อดีตเลขาส่วนตัว ปธ.ศาลรธน. โฆษกเพื่อไทย พร้อมสื่อ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ – หมิ่นประมาท ร่วมเผยคลิปฉาว ร้องศาลสั่งทำลายข้อมูลในเว็บ

 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 23 พ.ย.53 นายจรูญ อินทจาร , นายสุพจน์ ไข่มุกด์ และนายเฉลิมพล เอกอุรุ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มอบอำนาจให้นายณพล อรุณอาศิรกุล ทนายความรับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการส่วนตัว นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ , นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1 – 3 ในความผิดฐาน กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 และหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 และ 332

 ตามฟ้องโจทก์สรุปว่า ในระหว่างการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 26 เม.ย.53 ซึ่งเป็นวันรับคำฟ้อง ถึงวันที่ 18 ต.ค.53 ซึ่งเป็นวันเสร็จสิ้นการไต่สวนพยานและนัดแถลงการณ์ปิดคดีด้วยวาจาในวันที่ 29 พ.ย.53 มีกลุ่มบุคคลร่วมกันกระทำการในลักษณะเป็นองค์กร มีพฤติการณ์ที่เล็งเห็นได้ว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายศาลรัฐธรรมซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ โดย นายพสิษฐ์ จำเลยที่ 1 และนายพร้อมพงศ์ จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกันกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว จัดทำคลิปวีดีโอที่เป็นข้อมูลปลอมหรือเป็นเท็จเผยแพร่ ออกข่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญให้เสียหายขาดความน่าเชื่อถือ โดยมีการให้ข่าวแก่สื่อมวลชนว่าจะมีการเผยแพร่วีดีโอที่เป็นข้อมูลปลอมหรือเท็จที่ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเสียหายล่วงหน้า

 โดยเมื่อวันที่ 14 ต.ค.53 มีกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “Ohmygod3009” ได้นำคลิปวีดีโอชุดแรก ซึ่งเกี่ยวข้องกับศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 5 ตอน ชื่อว่า “ ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ” เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ยูทูป ตอนที่ 1 อธิบายใต้คลิปว่า “ เปรมได้พบและปรึกษาหารือคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ถูกยุบพรรค ” ตอนที่ 2 อธิบายใต้คลิปว่า “ วิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง ในฐานะตัวแทนฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์นัดพบเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ” คลิปตอนที่ 3 อธิบายว่า “ ตุลาการปรึกษาหารือเพื่อจะง้างคำให้การของนายอภิชาตในฐานะนายทะเบียน ” ตอนที่ 4 อธิบายว่า “ ในที่สุดหางก็โผล่ คำพูดหลุดมาหลายคำที่ซ่อนนัยยะหากตัดสินไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ” และคลิปตอนที่ 5 อธิบายว่า “ ทัศนะของตุลาการรัฐธรรมนูญที่มีต่อ ส.ส.เพื่อไทย โดยใช้คำว่า “ มัน ”

 ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ต.ค.53 นายพร้อมพงศ์ จำเลยที่ 2 แถลงข่าวเปิดเผยคลิปวีดีโอดังกล่าวในลักษณะตอกย้ำใส่ความซ้ำเพื่อให้ประชาชนและสาธารณชนทั่วไปเข้าใจว่าภาพและเสียงที่ปรากฏในคลิปวีดีโอเป็นความจริง และวันที่ 29 ต.ค.53 กลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “Ohmygod3009” ก็ได้นำคลิปวีดีโอ จำนวน 3 ตอน ชื่อว่า “ พฤติกรรมศาลรัฐธรรมนูญไทย ตอนที่ 1-3 เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เผยแพร่ลงในเว็บไซต์ยูทูป ( http:www.youtube.com ) พร้อมขึ้นข้อความ “ ตุลาการ รธน. หรือ ตุลาการโจร ” โดยอ้างว่าเป็นการปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ปัญหาคลิปอีกชุดที่ถูกบันทึกไว้ ซึ่งเป็นคลิปเกี่ยวกับการสอบเข้าเป็นข้าราชการศาลรัฐธรรมนูญด้วยการลักลอบนำข้อสอบไปให้ญาติและพวกพ้องได้อ่านก่อนนั้นเอง

 โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่เป็นข้อมูลปลอมหรือเท็จ เจตนาพาดพิงและใส่ความโจทก์ทั้งสามว่ามีส่วนรู้เห็นในการทุจริตโกงข้อสอบเป็นเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการใส่ความโจทก์ทั้งสามอันเป็นเท็จ เพราะโจทก์ทั้งสามไม่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการในการออกข้อสอบ หรือเป็นกรรมการจัดพิมพ์ข้อสอบ จัดเก็บข้อสอบ หรือตรวจข้อสอบแต่อย่างใด ซึ่งการออกข้อสอบเป็นความลับโจทก์ทั้งสามจึงไม่มีทางล่วงรู้

 ขณะที่จำเลยที่ 3 เป็นเจ้าของเว็บไซต์มติชนออนไลน์ ได้นำคลิปวีดีโอที่ผ่านการตัดต่อภาพและเสียงอันเป็นเท็จมาเผยแพร่ เมื่อวันที่ 30 ต.ค.53 อีกโดยถอดข้อความในคลิปวีดีโอดังกล่าวเป็นตัวอักษรทั้งหมดและระบุชื่อย่อของโจทก์ทั้งสามว่า “ จ. ” “ ฉ. ” และ “ ส. ” โดยย่อหน้าในเว็บไซด์ของจำเลยที่ 3 แล้วระบุข้อความจัดทำระบบเชื้อเชิญให้บุคคลทั่วไปมาเปิดคลิปวีดีโอดังกล่าวได้ โดยเชื่อมกับเว็บไซต์ทูป เพื่อให้ผู้อ่านมติชนออนไลน์ในเว็บไซต์ของจำเลยที่ 3 เข้าไปดูเว็บไซต์ยูทูปได้โดยงาน ทั้งที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทำการปิดกั้นเว็บไซต์

 การกระทำของพวกจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษ และสั่งบังคับให้จำเลยที่ 3 ทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ในเว็บไซต์มติชนออนไลน์ ในวันที่ 30 - 31 ต.ค. และ 9 พ.ย.53 พร้อมทั้งให้จำเลยทั้งสามร่วมกันตีพิมพ์โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์มติชน และข่าวสด เต็มหนึ่งหน้ากระดาษเป็นเวลา 3 เดือนด้วย

 ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาคดีหมายเลขดำ อ.3930 /2553 เพื่อนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ต่อไป

เผยกก.บห.ปชป.สั่ง "วิรัช"พ้นทีมทำคดียุบพรรค

 ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 15.15 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการพิจารณาลงโทษนายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีคลิปวีดีโอที่บันทึกภาพนายวิรัช นัดพบเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ตนได้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ตามข้อบังคับที่ให้ตนตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพิ่มเติม ยุติเรื่อง ตำหนิ หรือภาคทัณฑ์นั้น คงเป็นไปไม่ได้ เพราะนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.สัดส่วน ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง รายงานว่าการกระทำของนายวิรัชเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และมีผลกระทบต่อพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคจึงเห็นว่าควรมีคำสั่ง คือ 1. ให้นายวิรัช พ้นจากคณะทำงานในเรื่องของคดียุบพรรค โดยตนทราบว่านายวิรัช ได้ขอถอนตัวแล้วในวันนี้( 23 พ.ย.) ซึ่งตนกำลังดูสำเนาอยู่ และ 2. ให้นายวิรัช พ้นจากคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค ซึ่งตนเพิ่งลงนามคำสั่งไป

            นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า แต่จากการที่นายวิรัช เป็นกรรมการบริหารพรรคด้วยนั้น ก็มีปัญหาว่าคณะกรรมการบริหารพรรคไม่มีอำนาจในการให้นายวิรัชออกจากคณะกรรมการบริหารพรรค แต่เป็นอำนาจของที่ประชุมใหญ่วิสามัญที่ต้องใช้เสียง 3 ใน 5 ของที่ประชุมฯ ซึ่งที่จริง เจ้าตัวต้องพิจารณาว่าควรจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ก็คิดที่อยากให้นายวิรัช ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคเอง   เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับนายวิรัช ในเรื่องนี้แล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายวิรัช ไม่ได้มาประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ตนเข้าใจว่ามีบางคนไปคุยกับนายวิรัชแล้ว ซึ่งตนยังไม่ทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร