ข้าวกล้อง4ภาค"โมจาโดย" ผลิตจากสุรินทร์ป้อน กทม. | คมชัดลึก

 ล่าสุด สุรพล สมชื่อ ประธานกลุ่มข้าวกล้อง "โมจาโดย" ที่บ้านประสาทเมง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ร่วมกับคนสนิทบ้านเดียวกัน "อร่าม ทรงสวยรูป" หันมาผลิตข้าวกล้องงอกภายใต้เครื่องหมายการค้า "โมจาโดย" เช่นกัน ป้อนตลาดในกรุงเทพฯ เพื่อผลิตอาหารเสริม "น้ำข้าวกล้องงอก" ที่อุดมไปด้วยสาร"กาบา" (GABA) มีสรรพคุณบำรุงประสาท ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าสูงวัย

 สุรพล บอกว่า เดิมทีเป็นเกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิขายเป็นข้าวเปลือกที่ อ.กาบเชิง แต่ตอนหลังเห็นว่าราคาข้าวเปลือกไม่สูงนัก จึงมารวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มข้าวกล้องโมจาโดย เพื่อผลิตข้าวอินทรีย์และส่งเสริมการผลิตข้าวพื้นเมือง 4 ภาค อาทิ ข้าวหอมมะลิแดงของภาคอีสาน, ข้าวหอมนิล ของภาคกลาง, ข้าวดอยหรือข้าวไร่ของภาคเหนือ, ข้าวสังข์หยด ของภาคใต้ มาแปรรูปเป็นข้าวกล้องส่งขายทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี 2548 ภายใต้เครื่องหมายการค้าโมจาโดย ปรากฏว่าขายดีมาก โดยเฉพาะข้าวกล้องหอมมะลิแดง ตลาดต้องการสูงมาก

 กระทั่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีการศึกษาวิจัยพบว่า ข้าวกล้องงอกมีสารกาบามากกว่าข้าวกล้องปกติ 15 เท่า สามารถป้องกันการทำลายสมอง และโรคสูญเสียความทรงจำ หรืออัลไซเมอร์ได้ จึงร่วมมือกับ อร่าม  ทรงสวยรูป ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันหันมาผลิตข้าวงอกโมจาโดยเมื่อปลายปี 2551  โดยให้ อร่าม เน้นด้านการตลาด เนื่องจากระยะหลังข้าวกล้องงอกมีความต้องการสูงมากขึ้นเรื่อยๆ

 "ข้าวกล้องงอกโมจาโดย เราทำมาจากข้าวกล้อง 5 ชนิด คือข้าวกล้องงอกจากข้าวหอมมะลิแดง ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิจาก จ.สุรินทร์ เอง ข้าวกล้องหอมมะลิขาว ข้าวกล้องหอมนิล ข้าวกล้องจากข้าวดอย และข้าวกล้องสังข์หยด มีทั้งข้าวกล้องงอกสดขายกิโลกรัมละ 60 บาท และข้าวกล้องงอกอบแห้งขายกิโลกรัมละ 75 บาท โดยผมจะเป็นผู้ผลิตจาก จ.สุรินทร์ ให้คุณอร่ามดูแลด้านตลาดที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังทำน้ำข้าวกล้องงอกด้วย แต่ที่ผมจะแนะนำอีกอย่างหนึ่งคือนำข้าวงอกมาต้มแบบต้มข้าวต้มให้น้ำเดือด 15-20 นาที มาซาวกินน้ำข้าว ตรงนี้จะได้รับสารกาบาเต็มๆ ส่วนข้าวนำมากินแบบข้าวต้มจะได้สารอาหารทั้งวิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 ด้วย" สุรพล กล่าว

 ด้าน อร่าม บอกว่า ปกติเขาเป็นช่างภาพของหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ยึดอาชีพเป็นช่างภาพมากว่า 12 ปีแล้ว ตอนหลังเห็นว่าผู้คนโดยเฉพาะผู้สูงอายุหันมาบริโภคน้ำข้าวกล้องงอกมากขึ้น เนื่องจากมีสารกาบา ซึ่งสามารถป้องกันโรคหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอัลไซเมอร์  โรควิตกกังวล โรคนอนไม่หลับ ช่วยลดความดันโลหิต  ลดน้ำหนัก ทำให้ผิวพรรณดี และใช้บำบัดโรคเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลางได้อีก เขาจึงร่วมมือกับ สุรพล ซึ่งทำข้าวกล้องโรจาโดยที่ จ.สุรินทร์อยู่แล้วมาผลิตข้าวกล้องงอกดังกล่าว โดยมีตลาดหลักอยู่ในกรุงเทพฯ หลายแห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และกระทรวงสาธารณสุข ถ้าเป็นวันธรรมดา ขายได้อยู่ที่ราวๆ 70-80 กิโลกรัม แต่ถ้าออกงานอาจขายได้เป็นตัน

 "ที่จริงข้าวกล้องงอกในชนบทมีการบริโภคมานานแล้ว ชาวบ้านนำข้าวที่จมน้ำ และงอกออกมานิด แล้วมาสีเปลือกออก จากนั้นมาตากแดดให้แห้ง ไว้ต้มให้คนที่ป่วยบริโภคทั้งน้ำข้าวและข้าว ทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น พอตอนนี้นักวิจัยพบว่ามีสารกาบา คนจึงนิยมขึ้นมา" อร่าม กล่าว

 สำหรับการทำข้าวกล้องงอกนั้น อร่าม บอกว่า จะต้องเป็นข้าวที่มีจมูกข้าว ต้องสีข้าวจากโรงสีชุมชนที่ใช้สำหรับข้าวกล้องเท่านั้น และข้าวกล้องที่จะนำมาทำข้าวกล้องงอกจะต้องเป็นข้าวกล้องที่เก็บไว้ไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น
                                                                                       
ง่ายๆ การทำข้าวกล้องงอกแบบสุรพล

 ขั้นตอนการทำข้าวกล้องงอก เริ่มจากนำข้าวกล้องที่มีจมูกข้าวมาซาวน้ำ 1 ครั้ง แล้วแช่น้ำพอปริ่มๆ 6-8 ชั่วโมง จากนั้นนำมาซาวน้ำอีกครั้ง มาห่อกับผ้าดิบขาว หรือกระสอบขนาดถุงละ 15 กิโลกรัม ใช้เวลา 15-20 ชั่วโมง หากต้องการเป็นข้าวกล้องงอกสด นำมาซาวน้ำ เข้าเครื่องปั่นทำน้ำข้าวกล้องงอกได้เลย แต่ถ้าต้องการเป็นข้าวกล้องงอกแห้ง ก็นำตากแดดอย่างน้อย 2 วัน หรือเข้าตู้อบก็ได้

 การทำน้ำข้าวกล้องงอก นำข้าวกล้องงอกมาซาวน้ำให้สะอาด แล้วผสมน้ำในอัตราข้าวกล้องงอก 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 1 กิโลกรัมครึ่ง นำใส่ในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำมาต้มโดยผสมน้ำสะอาดลงไป 10 ลิตร จะใส่เกลือบ้างพอประมาณ หรือเติมน้ำตาลตามใจชอบ แต่ไม่ควรจะเติมใบเตย เพราะอาจทำให้กลิ่นของข้าวหอมมะลิเสียไป

 การต้มนั้นต้องตั้งบนเตาไฟให้เดือดนาน 10-15 นาที ปล่อยให้อุ่นหรือเย็น นำมาดื่มได้ หรืออาจเติมเครื่องบ้างก็ได้ อาทิ แมงลัก ลูกเดือย ถั่วแดง เป็นต้น แต่หากจะขายควรบรรจุกระปุกขนาด 200 ซีซี ขายกระปุกละ 10-15 บาท เมื่อบรรจุกระปุกแล้วแช่ในตู้เย็นสามารถเก็บได้ 1 อาทิตย์  

"ดลมนัส  กาเจ"