ตำรวจไทยกับไฮเทคโนโลยี
ความจริงตำรวจไทยน่าจะเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีได้แล้ว
เครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นต่องานตำรวจ รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องสนับสนุนทั้งด้านการปราบปราม สายสืบ และงานจราจร
ล่าสุด สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จะนำระบบออกใบสั่งจราจรออนไลน์ (อี-ทิคเก็ต) มาใช้ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้
โดยตำรวจที่จะออกใบสั่งอยู่ในสังกัด บก.จร., บก.น.5 และตำรวจปทุมธานีเป็นหลัก เบื้องต้นมีอยู่ 30 เครื่อง โดยมีเป้าหมายว่าภายใน 1 ปี ในเขตพื้นที่ กทม. จะมีใช้ทั้งหมด
เครื่องนี้นอกจากการออกใบสั่งแล้ว ยังมีประโยชน์เกี่ยวเนื่องไปถึงงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมด้วย
ตำรวจจราจรผู้ออกใบสั่งจะป้อนข้อมูลในระบบสัมผัส ใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที อย่างการตรวจสอบประวัติอาชญากรและข้อมูลรถหายได้ จะใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที เพราะข้อมูลเกี่ยวกับตัวบุคคลและข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะจะไปเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลในระบบโปลิส ซึ่งเป็นฐานข้อมูลกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ดีตรงที่ข้อมูลยานพาหนะยังไปเชื่อมกับกรมการขนส่งทางบกโดยอัตโนมัติ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการจับกุมผู้กระทำความผิด และกลุ่มแก๊งโจรกรรมรถ อย่างน้อยชาวบ้านก็มีความปลอดภัยขึ้น
ประเด็นสำคัญ หากเครื่องนี้ใช้ได้ผลจริง ปัญหาผลประโยชน์ทั้งส่วยทางหลวง ประเภท สน.ต้นมะขาม จะหายไป
ในส่วนของประชาชนก็สะดวกขึ้น หากถูกใบสั่งออนไลน์ก็ชำระค่าปรับได้ตามไปรษณีย์สาขาทั่วประเทศ นอกเหนือไปจากสถานีตำรวจท้องที่ที่ถูกจับกุม
สะดวกทั้งตำรวจ ง่ายทั้งประชาชนผู้กระทำผิดกฎหมาย
หลังจากทดลองใช้ไป 30 วัน จะมีการประเมินผลกันอีกครั้ง
ถ้าระบบนี้ไปได้ดีตำรวจไทยก็จะเข้าสู่ยุคดิจิทัลกับเขาบ้าง ใครเคยดูหนังฝรั่งจะเห็นตำรวจถือเครื่องมือเล็ก หรือไม่ก็ติดในรถสายตรวจ เมื่อพบรถต้องสงสัยหรือบุคคลที่มีพิรุธ ก็ตรวจสอบได้ทัน
ถ้าระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสมบูรณ์แบบใช้ได้ทั่วประเทศจะเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านและตำรวจเองด้วย
ทั้งลดปัญหาการจราจร ลดปัญหาอาชญากรรม ป้องปรามเหตุร้ายได้อีกด้วย ถ้าดีเชื่อว่ารัฐบาลคงสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่!!