
คนใจง่าย
คนใจง่าย จัดเป็นคนที่น่าสงสารครับ
แต่ช้าก่อน ผมไม่ได้หมายถึง คนที่รักใครง่ายๆ ประเภทเจอใครก็ถูกชะตาไปหมด แค่พูดคุยกันไม่กี่ที เจอกันไม่กี่ครั้ง ก็หลงซะเต็มๆ มอบหัวใจให้ไปหมด
ถึงขนาดบางคนไม่ได้ดูหน้าดูหลัง ยอมไม่ศึกษาพฤติกรรมอะไรกัน สุดท้ายก็ต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า กว่าจะเอาหัวใจกลับคืนมา ก็บอบช้ำเสียแล้ว
ถ้าง่ายในบริบทนี้ ก็ตัวใครตัวมันครับ
แต่ผมกำลังชวนคุยในบริบทเงินๆ ทองๆ ให้เข้ากับคอลัมน์นี้ซะหน่อย โดย “ใจง่าย” ที่ว่า ผมหมายถึงคนที่ซื้อของได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องคิดมาก
เพื่อนฝูงของผมก็เป็นกันอยู่หลายคน ใครชวนเดินตลาดนัดทีไร หรือห้างไหนเซลส์เมื่อไหร่ เธอเล่นไปทุกที ทั้งที่ไม่มีแพลนพิเศษว่าจะซื้ออะไร
กล้าพูดได้ว่า เกือบจะทุกครั้งก็ต้องได้อะไรติดมือกลับมาอยู่บ่อยๆ ไม่มากก็น้อย
พอมีใครถามว่าซื้อเพราะอยากได้ หรือเพราะอะไร ก็ตอบไม่เต็มปาก ซักเข้า ก็รู้ว่าบางอย่างไม่ได้มีความต้องการ แค่เห็นว่าสวย เลยแวะเข้าไปหยิบๆ จับๆ ประจวบเหมาะเจอพ่อค้าแม่ค้าพูดจาดี ชมเปาะอย่างโน้นอย่างนี้ ก็ซื้อเอาดื้อๆ กลับมาซะงั้น
นี่ยังดีนะครับ ผมเคยเห็นกับตา บางคนไม่ได้ถูกใจด้วยซ้ำ แต่ใจง่ายขนาดพอคนขายหว่านล้อม ยกแม่น้ำทั้งห้าสาย ก็ซื้อเลย และไม่ต่อราคาด้วย บอกเท่าไหรก็เอา
ไม่รู้สินะ ผมพยายามจะมองโลกในแง่บวก แต่คิดตั้งนานก็นึกไม่ออกว่า “ใจง่าย” แบบนี้จะมีข้อดีอะไร นอกจากเป็นการเกื้อหนุนเศรษฐกิจไทย ช่วยให้เงินไหลไปยังพ่อค้าแม่ค้า ถือเป็นการกระจายรายได้เพื่อปากท้องคนอื่น
ตรงกันข้าม ผมว่า “ใจง่าย” นี่แหละ น่ากลัว และน่าสงสารอย่างที่จั่วหัวในบรรทัดแรก
เพราะเป็นการใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล ไม่คำนึงถึงผลกระทบ โดยเฉพาะระยะยาว ซึ่งหากปล่อยไปเรื่อยๆ ก็เข้าขีดอันตรายได้สักวัน
สำหรับคนที่พอมี ผมชวนคิดใหม่ ไม่อยากให้มองว่า เรื่องนี้ไม่ซีเรียส เงินมีก็ต้องใช้ ผมเคยเจอมาแล้ว คนที่ประมาท ถ้าไม่ระวัง ก็หมดได้สักวัน
ส่วนคนที่ไม่ค่อยจะมี หากยิ่งใจง่าย ยิ่งซวยหนัก จะเกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่ต้องรอให้ถึงสิ้นเดือนหรอกครับ แค่เหยียบเข้าสัปดาห์สองสาม ชีวิตก็เหมือนสิ้นใจแล้ว
คาถาสำหรับการแก้ใจง่าย ก็ง่ายๆ ครับ
ให้มีสำนึก และสติติดตัวตลอด ในเมื่ออาการใจง่าย มีหัวใจเป็นตัวขับเคลื่อน การแก้ไขก็ต้องหักล้างด้วยการใช้อวัยวะอื่นมาแป็นภูมิต้านทาน
สติ จากสมองนี่แหละครับ คิดพิจารณาให้รอบคอบ ขอให้ใช้เหตุผลประกอบ ไม่ต้องมากก็ได้ แต่อย่างน้อยให้เท่ากับอารมณ์ เอาทั้งคู่มาคัดง้างกัน
อยากได้ด้วย จำเป็นด้วย แต่แพงไปหน่อย หาของทดแทนที่ถูกกว่าได้มั้ย?
ไม่ค่อยจำเป็น แต่อยากได้มาก ชะลอไปก่อน ให้เวลาเยียวยา ถามจนแน่ใจ ก่อนดีมั้ย?
ฝึกๆ ไปนะครับ ตอนแรก ก็ยากหน่อย แต่การฝึกฝนจะทำให้อาการ “ใจง่าย” หายได้ กลายเป็น “ใจแข็ง” แทน ก็เข้าท่าไปอีกแบบนะครับ
ชัยพล กฤตยาวาณิชย์
[email protected]