ข่าว

แม่ยายอภิสิทธิ์ช็อปปิ้งตลาดริมเมย

แม่ยายอภิสิทธิ์ช็อปปิ้งตลาดริมเมย

02 ม.ค. 2554

"อภิสิทธิ์" ควงรมว.อุตสาหกรรม-ส.ส.ตาก เที่ยวน้ำตกทีลอซู เจ้าหน้าที่อารักขาเข้มเดินทางรถกันกระสุน-ขบวนรถตามกว่า 10 คัน นักท่องเที่ยวแน่นปางอุ๋งแห่กางเต้นท์สัมผัสอากาศหนาวกว่าพันคน ขณะที่ผอ.ททท.แม่ฮ่องสอน ระบุปาย-เมืองแม่ฮ่องสอนสุดคึกคัก ปชช.แห่นมัสการหลวง

 (2 มกราคม) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และส.ส.จ.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางออกจากเหมืองแร่สังกะสี ของบริษัท ตากไมนิ่ง จำกัด ที่บ้านแม่ตาวใหม่ ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด ไปยัง อ.อุ้มผาง เพื่อเดินทางไปเที่ยวชมธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำตกทีลอซู ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อำเภออุ้มผางเตรียมการต้อนรับ และอารักขาอย่างเต็มที่

 สำหรับการเดินทางของนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางโดยรถยนต์กันกระสุน และมีคณะติดตาม อารักขา ทั้งหมดกว่า 10 คัน สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ ได้นอนพักที่เหมืองแร่ตากไมนิ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตชด. ต่างดูแลตรวจตราในพื้นที่เส้นทางไปยังหมู่บ้านแม่ตาวใหม่จนถึงบริเวณเหมืองแร่

แม่ยายอภิสิทธิ์ช็อปปิ้งตลาดริมเมย

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณตลาดริมเมย เชิงสพานมิตรภาพไทย - พม่า บ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก นางประภาพิมพ์ ศกุลตาภัย แม่ยาย นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนางวรวรรณ บรรณวัฒน์ ภริยานายชัยวุฒิ  และนางรัชนี ลอยฟ้า นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตาก ได้เดินทางมาช็อปปิ้ง ตลาดริมเมย โดยได้ซื้อสินค้า อาทิ อัญมณี แป้งพม่า ถั่วพม่า เป็นต้น โดยทั้งหมดได้เดินปะปนไปกับนักท่องเที่ยวทั่วไป

นักท่องเที่ยวแน่นปางอุ๋งแห่กางเต้นท์สัมผัสอากาศหนาว

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงปีใหม่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวโครงการพระราชดำริ ๒ ( ปางอุ๋ง ) หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกว่าสวิตเซอร์เมืองไทย ในพื้นที่ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวกว่า 1,000 คน ได้เดินทางเข้ามากางเต้นท์บริเวณริมอ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบปางอุ๋งที่มีพื้นที่กว่า 3 ไร่ ทำให้บรรยากาศปางอุ๋งเนืองแน่นและคึกคักมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามานอนพักแรมนั้นก็ต้องการรอดูสายหมอกที่ลอยเหนืออ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบในช่วงเช้า   และแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องลงมายังป่าสน

 นายวิศนุ อรุณบำรุงวงศ์   ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และจนถึงวันนี้ก็ยังคึกคักอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอปาย และอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งถือว่าตลาดการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ยังเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว   ทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นและความเป็นธรรมชาติของจังหวัดแม่ฮ่องสอน   ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมากดังกล่าว

ปชช.แห่นมัสการหลวงปู่โตทองคำ

 บรรยากาศอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) อ.เมืองนครราชสีมาและที่มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวซึ่งกำลังเดินทางกลับไปทำงานในจังหวัดต่างๆหลังฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัวเสร็จสิ้นได้แวะเข้าไปนมัสการเป็นจำนวนมากหลายหมื่นคนในโอกาสขึ้นปีใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต โดยหลายคนได้อธิษฐานขอพรให้ย่าโมและหลวงปู่โตคุ้มครองและประสบแต่ความโชคดีและทำการสิ่งใดก็สำเร็จลุล่วงด้วยดีตลอดปีพุทธศักราช 2554

นายสรพงศ์  ชาตรี ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) เมตตาบารมีและศิลปินแห่งชาติ สาขาการแสดงได้กล่าวอวยพรปีใหม่แก่คนไทยทั่วประเทศว่าในวารดิถีขึ้นปีใหม่นี้ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระพุทธเจ้า  พระธรรมเจ้าพระสังฆเจ้า พระอริยะเจ้า ขอบารมีบูรพามหากษัตริย์ทุกพระองค์แห่งสยามประเทศจงมาปกป้องคุ้มครองรักษาพี่น้องชาวไทยให้มีความสุขกาย สุขใจ เดินทางไปที่แห่งหนไหนก็ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจะทำการใดๆก็ให้ประสบผลสำเร็จขอให้มีความสุขความเจริญทุกๆท่าน

นายสรพงศ์   เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้อยากจะขอเชิญชวนประชาชนคนไทยเดินทางมาท่องเที่ยวในจ.นครราชสีมา ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต  พรหมรังสี) อ.สีคิ้ว ,อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง,อ.วังน้ำเขียวรวมถึงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองฯอากาศดีมากดอกไม้ก็สวยงาม โดยเฉพาะช่วงนี้ได้มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในจังหวัดทางภาคอีสานได้แวะนมัสการรูปหล่อเหมือนองค์หลวงปู่โตคำทองใหญ่ที่สุดในโลกวันละประมาณ 3 หมื่นคน มีรถยนต์ทั้งรถส่วนตัวและรถนำเที่ยวที่ประชาชนใช้โดยสารเข้ามาภายในมูลนิธิฯวันละ 5 พันคัน

ทั้งนี้ทางมูลนิธิฯได้ให้การต้อนรับทั้งที่จัดจอดรถ และจัดเลี้ยงอาหารคาวหวานให้กับผู้ที่มานมัสการฟรี โดยการก่อสร้างองค์หลวงปู่โตทองคำใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้ตัวองค์รูปเหมือนได้ปิดทองเสร็จสมบูรณ์แล้วคงเหลือแต่วิหารครอบที่มีความก้าวหน้าไปแล้วประมาณร้อยละ 60 นอกจากนี้ทางมูลนิธิฯยังมีโครงการก่อสร้างพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่และยาวที่สุดในโลกโดยมีความยาว 99 เมตร

ซึ่งขณะนี้ได้มีพิธีหล่อเศียรองค์ต้นแบบและจัดเตรียมสถานที่ก่อสร้างเรียบร้อยแล้วโดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินก่อสร้างประมาณ 1600 ล้านบาท และเมื่อก่อสร้างทั้งพระนอนและหลวงปู่โตองค์ใหญ่ที่สุดในโลกเสร็จสิ้นมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อ.สีคิ้ว ก็จะเป็นแหล่งรวมของพุทธศาสนิกชนและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจ.นครราชสีมาอีกแห่งหนึ่งด้วย
ด้านพระมหาสมปอง ตาลปุตุโต พระนักเทศนาชื่อดังของประเทศไทย จากวัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ เทศนาอวยพรปีใหม่แก่คนไทยว่าปีเก่าผ่านไปปีใหม่มาถึงแล้วก็อยากจะเน้นเรื่องความรักความสามัคคีปีกระต่ายก็อยากจะให้เป็นปีแห่งความสุข ใครเหนื่อยใครท้อก็ขอให้ลุกขึ้นมาและก้าวไปสู่ความสำเร็จ ก้าวไปสู่ความสุข ก้าวไปสู่ความสามัคคี และขอให้ทุกคนมีพรหมวิหารต่อกันคือ มีเมตตา มีความรักกัน มีความกรุณาสงสารเห็นอกเห็นใจต่อกัน มีความยินดีต่อกัน และที่สำคัญจะต้องมีอุเบกขาคือการวางใจเป็นกลางและสุดท้ายคนไทยก็จะมีแต่ความสุขความสามัคคีและประสบผลสำเร็จเจริญก้าวหน้าพระมหาสมปองกล่าว

ขณะที่นายเสมอ  จินดาพงษ์  นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาเปิดเผยถึง สถานการณ์การท่องเที่ยวในจ.นครราชสีมาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 ว่า การท่องเที่ยวในจ.นครราชสีมาช่วงนี้คึกคักขึ้นมามาก โดยเฉพาะอ.วังน้ำเขียว มีนักท่องเที่ยวเข้าพักในรีสอร์ทและโฮมสเตย์ที่มีอยู่กว่า 7 พันห้องจนเต็มทุกแห่งและยังมีนักท่องเที่ยวอีกหลายคนที่พักในเต้นท์อีกด้วย ซึ่งคาดว่าในแต่ละคืนจะมีเงินสะพัดเฉพาะในอ.วังน้ำเขียวคืนละ 35 ล้านบาท 

โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชอบมาพักผ่อนตากอากาศสูดโอโซนที่บริสุทธิ์และเป็นเมืองอันดับ 7 ของโลก และในช่วงนี้สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทยร่วมกับสภากาชาดไทย,ภาครัฐและเอกชนอ.วังน้ำเขียวยังได้จัดงานมหัศจรรย์งานศิลป์ดินแดนแห่งความสุข วังน้ำเขียวฟลอร่าแฟนตาเซีย ที่อ.วังน้ำเขียวอีกด้วย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักและเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมากคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน

ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวของจ.นครราชสีมาซึ่งจ.นครราชสีมาเป็นประตูสู่ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือของประเทศไทย ประชาชนที่สัญจรไป-มาได้แวะซื้อของฝาก ของที่ระลึกและใช้บริการร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว สถานีบริการน้ำมันอยู่ตลอด 24 ชม.ทั้งขาไปและกลับและที่พักโรงแรมในจ.นครราชสีมามีผู้เข้าพักเต็มไปแล้วประมาณ 80 % โดยเฉพาะในเขตอ.ปากช่องและอ.วังน้ำเขียวนั้นที่พักเต็มทุกแห่ง ซึ่งเทศกาลปีใหม่นี้คาดว่าจะมีประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจ.นครราชสีมาไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน และจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาทนายเสมอฯกล่าว

แห่ไปชมตลาดนัดขายสินค้าไทย-ลาวแน่น

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันหยุดปีใหม่มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมตลาดการค้าชายแดนด่านสากลห้วยโก๋นซึ่งเป็นประตูสู่หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกและประตูสู่อินโดจีน ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยโก๋น ตำบลห้วยโก๋น ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ144 กิโลเมตร พบว่ามีมีนักท่องเที่ยวขับรถขึ้นไปชมตลาดการค้าชายแดนส่งผลให้ลานจอดรถหาที่จอดไม่ได้ และได้เดินทางต่อไปเที่ยวเมืองหลวงพระบาง    

 นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า ด่านห้วยโก๋นเป็นพื้นที่ที่ห่างไกล ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของจังหวัดน่าน และตะวันออกสุดของภาคเหนือ มีชายแดนติดต่อกับ สปป.ลาว ยาว 98 กม.มีธรรมชาติสวยงาม สภาพอากาศเย็นสบายทั้งปี โดยจะหนาวเย็นมาในช่วงหน้าหนาว มีตลาดการค้าชายแดนที่เป็นทั้งประตูสู่หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกและประตูสู่อินโดจีน โดยมีถนนสายเอเชีย AH13 ผ่านด่านสากลไทย-เมืองเงิน สปป.ลาว

 โดยสามารถเดินทางไปยังประเทศ เวียดนามและประเทศจีน ทุกวันเสาร์จะมีพ่อค้าแม่ค้าทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวนำสินค้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ฝั่งไทยจะมีสินค้าจำเป็นสบู่ยาสีฟันไปถึงตู้เย็น นอกจากนี้เป็นผักผลไม้ตามฤดูกาล ในช่วงนี้จะมีส้มของ บ้านงอบ อ.ทุ่งช้าง เป็นที่นิยมของพ่อค้าแม่ค้าชาวลาวซื้อไปขายต่อ นำไปทำน้ำส้มสดคั้น และ ทุกอาทิตย์ส้มที่นำมาจะขายหมด ส่วนชาวลาวจะนำสินค้าพื้นเมือง ประเภทผ้าทอ ของป่า ไก(สาหร่ายน้ำจืด) กบ เขียดตากแห้ง กล้วยไม้ ไม้เกี๊ยะ(ไม้สนติดไฟง่าย) ชาวบ้านที่ใช้เตาถ่านนำไปเป็นเชื้อไฟ ลูกต๋าว มาขาย พืชผักตามฤดูกาล

 บางช่วงจะมีไข่มดแดง ตัวต่อ ซึ่งหาซื้อได้ยากนำมาขาย เมื่อขายเสร็จก็จะซื้อของจำเป็น ปลา ก็จะเป็นอย่างนี้ทุกอาทิตย์ ต่อก็จะเปิดทุกเสาร์-อาทิตย์ เพราะ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.น่าน ได้ไปทำ MOU กับทางลาวเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ช่วงหน้าหนาวพ่อค้าแม่ค้า ชาวบ้านฝั่งไทยจะมีรายได้ดีกว่าในช่วงอื่น ได้จากชาวลาวแล้วยังมีนักท่องเที่ยวเข้าจับจ่ายซื้อของพื้นเมืองของไทย และของลาวที่พ่อค้าแม่ค้าไทยเหมาจากชาวลาวมาขายต่อ ทำให้รายได้ดีขึ้น

 นอกจากนี้สปป.ลาว ได้พัฒนาถนนเชื่อม จากด่านห้วยโก๋น-เมืองเงิน-แขวงอุดมไชย ปกติจะมีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนมาจาก เมืองเงิน เมืองหงสา ซึ่งอยู่ใกล้ปัจจุบันยังมีพ่อค้าแม่ค้าที่มีกำลังซื้อมาก เดินทางมาจาก เมืองปากแบ่ง แขวงอุดมไชย ด้วย ทำให้การค้าที่ด่านสากลห้วยโก๋น คึกคักมากขึ้น ทำให้มองเห็นทิศทางการค้าชายแดนห้วยโก๋นมีศักยภาพเป็นแหล่งการค้าชายแดน ขณะนี้การท่องเที่ยวกำลังได้รับความนิยมมาก นักท่องเที่ยวสามารถขับรถผ่าน ด่านสากลห้วยโก๋นเป็นประตูสู่เมืองหลวงพระบางและประตูสู่อินโดจีน เพียงแต่มีพาสปอร์ต หนังสือเดินทางเอกสารพร้อม มาประทับตราที่ด่านก็สามารถไปเที่ยวเมืองหลวงพระบาง,เวียด,ประเทศจีนได้