
เทือกเขาบูโดปะทะเดือดยิงหญิงมุสลิมดับ
เจ้าหน้าที่ปะทะเดือดโจรใต้ 2 จุด เชิงเขาบูโด นราธิวาส หลังชาวบ้านแจ้งคนร้ายใช้ปืนจ่อหัวข่มขู่ขอเสบียงอาหาร คนร้ายถูกวิสามัญฯ 2 ยึดคืนเอ็ม 16 ได้ 4 กระบอก อีกเหตุจ่อยิงตำรวจยี่งอเสียชีวิตหน้ามัสยิด คาดคนร้ายแก้แค้น หลังแกนนำถูกวิสามัญฯ ที่ปัตตานีหญิงมุสลิม
สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามตะเข็บเชิงเทือกเขาบูโด อ.ยี่งอ และ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ว่า นายมะรอโซ จันทราวดี แกนนำคนร้ายกลุ่มอาร์เคเค พร้อมพวก 5-6 คน มีอาวุธปืนสงครามครบมือ บุกเข้ามาในหมู่บ้านแล้วใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะข่มขู่ขอเสบียงอาหารจากชาวบ้าน แล้วพากันหลบหนีขึ้นเทือกเขาบูโด
หลังรับแจ้ง พ.อ.ไพศาลวิทยุสั่งการให้กองกำลังทหารพรานนำกำลังไปสกัด พร้อมกับประสานขอกำลังเสริมจาก น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 กองทัพเรือ และ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เป็นกำลังหนุนไล่ติดตามแบบตลบหลังจากพื้นที่ราบ
กระทั่งเวลา 06.15 น. เกิดการยิงปะทะกันขึ้นระหว่างกำลังทหารพรานกับคนร้าย ที่เชิงเขาบูโด ห่างจากหมู่บ้านสุไหงบาตู หมู่ 5 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ 2 กิโลเมตร ผลจากการยิงปะทะกันนาน 20 นาที ทำให้นายฮารง หะ อายุ 23 ปี เสียชีวิต ในมือถือปืนเอ็ม 16 เป็นปืนทหารที่ถูกปล้นไปจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547
ส่วนนายมะรอโซและพวกที่เหลือได้รับบาดเจ็บ อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ และทิ้งสัมภาระกระจัดกระจายตามไหล่เขาหลายรายการ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก เป็นปืนที่ถูกปล้นไปจากฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย.ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา, เป้สนามบรรจุเสบียงอาหารอีก 3 ใบ และอุปกรณ์การเดินป่าจำนวนหนึ่ง
พ.อ.ไพศาล กล่าวว่า ยังมีการยิงปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารพรานกับคนร้ายที่บ้านนาดา หมู่ 3 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อีก 1 จุด คนร้ายเสียชีวิต 1 คน และยึดปืนเอ็ม 16 ได้ 1 กระบอก เป็นปืนทหารที่ถูกปล้นไปจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547
สำหรับนายฮารง เคยก่อคดียิงนายอรุณ ศิริรังสี และนายประสิทธิ์ สุขเจริญ นายช่างรังวัดที่ดิน เสียชีวิตที่ อ.บาเจาะ อีกทั้งเคยถูกควบคุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่พยานหลักฐานไม่เพียงพอจึงถูกปล่อยตัวไป กระทั่งกลับมาก่อเหตุบุกถล่มฐานปฏิบัติการ ร้อย.ร.15121 ฉก.นราธิวาสที่ 38 (ฐานพระองค์ดำ) จนทำให้ ร.อ.กฤช คัมภีรญาน ผบ.ร้อย. พร้อมลูกน้องเสียชีวิตรวม 4 นาย และบาดเจ็บ 6 นาย เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา
ยิงตำรวจหน้ามัสยิดนราธิวาส
ต่อมาเวลา 12.50 น. ขณะ ส.ต.อ.กิติศักดิ์ สิงห์ดำ ตำรวจ สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ทำหน้าที่พลขับ กำลังยืนรอผู้บังคับบัญชาที่หน้ามัสยิดดารุลอิมาน บ้านบูแม หมู่ 1 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ซ้อนท้ายกันมา 4 คน แต่งกายชุดดาวะห์ แฝงตัวปะปนกับชาวบ้าน ทำทีจะมาละหมาด เมื่อประชิดตัวกับ ส.ต.อ.กิติศักดิ์ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามจ่อยิงที่ศีรษะและลำตัวหลายนัด จนฟุบลงคาพื้นเสียชีวิต ท่ามกลางสายตาชาวบ้านนับร้อย ที่ต่างตกตะลึงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนคนร้ายอาศัยความชุลมุนหลบหนีไปได้ สาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายดักสังหารเจ้าหน้าที่เพื่อแก้แค้น หลังแกนนำและแนวร่วมถูกวิสามัญฆาตกรรม 2 ศพ ในช่วงเช้าวันเดียวกัน
ยิงหญิงมุสลิมดับขณะอุ้มลูก4ขวบ
เมื่อเวลา 11.50 น. วันเดียวกัน ร.ต.อ.สะการียา มรรคเขต ร้อยเวร สภ.สายบุรี รับแจ้งมีเหตุยิงกันย่านตลาดนัดบือแนลาเมาะ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 47 หมู่ 4 บ้านบือแนลาเมาะ ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่าคนตายชื่อ นางสกีนา สมาแอ อายุ 34 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 เข้าบริเวณท้ายทอยทะลุ เสียชีวิตคาที่ และพบ ด.ญ.ต่วนสุไลยา ต่วนมะ อายุ 4 ขวบ ลูกสาวผู้ตายร้องไห้ โดยมีญาติอุ้มอยู่
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายทำงานรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าภายในบ้าน ก่อนเกิดเหตุในหมู่บ้านเปิดเป็นตลาดนัด มีประชาชนนับร้อยกำลังจับจ่ายซื้อของ ช่วงดังกล่าวลูกสาวไม่สบายและร้องไห้ต้องการกินไส้กรอก ผู้ตายจึงอุ้มลูกสาวไปซื้อ เมื่อกลับมาถึงหน้าบ้านมีวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี 2 คน นั่งบนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ที่หน้าบ้านขอวผู้ตาย พอได้โอกาสหนึ่งในคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงระยะเผาขน 1 นัด เข้าที่ท้ายทอยต่อหน้าลูกสาวที่กำลังอุ้มอยู่ ทำให้ผู้ตายเสียชีวิตทันที ส่วนคนร้ายหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนติดเครื่องอยู่หลบหนีไป ทั้งนี้สามีผู้ตายถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ผู้ว่าฯ ปัตตานีคุมเข้ม60ชุมชนไทยพุทธ
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบยิงแล้วเผาสองสามีภรรยา และครู รวม 3 ศพ หลังกลับจากงานศพญาติใน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์นั้น ล่าสุด นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายปกครองในพื้นที่ 12 อำเภออย่างเร่งด่วน เนื่องจากพบว่า ช่วง 10 วันที่ผ่านมา ชาวบ้านที่เป็นไทยพุทธถูกลอบทำร้ายมากกว่า 20 ราย ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจประชาชนในชุมชนไทยพุทธ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 60 ชุมชน เบื้องต้นได้สั่งการให้เพิ่มฐานปฏิบัติการตามชุมชน พร้อมกับตั้งจุดตรวจสกัดและเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ยิงชรบ.ที่ยะลาก่อนขโมยปืนหนี
ที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 08.30 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงนายอาหะมะ เจ๊ะเงาะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ 3 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิต เหตุเกิดริมถนนในหมู่บ้านสาคอ หมู่ 4 ต.ท่าสาป และปืนขนาด 9 มม.ของผู้ตายหายไป เชื่อว่าคนร้ายขโมยไป สอบสวนทราบว่า นายอาหะมะเป็น ชรบ.บ้านลิมุด ต.ท่าสาป มีหน้าที่เฝ้าเวรดูแลโรงเรียน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายอาจนัดแนะคุยธุระส่วนตัวกับกลุ่มคนร้าย คาดว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ตายมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ตัดประเด็นสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่
เรือเหาะ350ล.ของทบ.บินทดสอบ
หลังจาก "เรือเหาะตรวจการณ์" มูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ของกองทัพบก (ทบ.) ปรากฏแต่ข่าวในเชิงลบมาโดยตลอด เช่น รอยรั่วซึม ซึ่งยังแก้ปัญหาไม่ตก จนทำให้ไม่สามารถขึ้นบินได้ ล่าสุดมีข่าวว่า เรือเหาะของทบ.ขึ้นบินทดสอบประสิทธิภาพอีกครั้งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บล็อกเกอร์ "อาเน๊าะบุหลัน" ในเว็บไซต์ www.oknation.net ระบุในเว็บบล็อกว่า ออกปฏิบัติการอีกแล้ว สำหรับเรือเหาะราคา 350 ล้าน ซึ่งอยู่ภายในกองพลทหารราบที่ 15 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ในเช้าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554
"นับว่าไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะเห็นเรือเหาะลำนี้ออกปฏิบัติการ หรือจะเป็นเพียงแค่การฝึกบินก็ไม่อาจทราบได้ ผมไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นเรือเหาะลำเดิม หรือได้รับการปรับปรุงใหม่ เพราะดูจากด้านข้างของเรือเหาะ ลวดลายบางส่วนที่เห็นเป็นตราของกองทัพไทยได้หายไป เปรียบเทียบจากเอ็นทรี่ที่เคยนำเสนอเมื่อคราวก่อน" บล็อกเกอร์ "อาเน๊าะบุหลัน" ระบุ พร้อมตั้งข้อสังเกตไว้ในเว็บบล็อกของตน
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับว่า ในวันดังกล่าวมีการทดสอบการบินเรือเหาะที่กองพลทหารราบที่ 15 จริง แต่ยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียดเรื่องการบินว่าบินไปกี่นาที แต่ทราบในเบื้องต้นว่า ผลทดสอบเป็นไปด้วยดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรือเหาะที่ขึ้นบินทดสอบเป็นเครื่องใหม่ที่บริษัทผู้ผลิตนำมาเปลี่ยนให้หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 4 ตอบว่า เป็นลูกใหม่ เมื่อถามถึงกำหนดการบินทดสอบประสิทธิภาพเพื่อโชว์ต่อสื่อมวลชน แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่ายังไม่ได้กำหนด คงต้องรอผู้บังคับบัญชาเป็นผู้กำหนดอีกครั้ง แต่กองทัพก็พร้อมจะทดสอบเพื่อแสดงประสิทธิภาพต่อหน้าสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เรือเหาะมูลค่า 350 ล้านบาท มีกำหนดส่งมอบเมื่อปลายปี 2552 แต่มีการเลื่อนส่งมอบอีกหลายครั้งในช่วงปลายปี 2553 กระทั่งมีข่าวว่า คณะกรรมการตรวจรับของกองทัพบก ยศ "พ.ท." และ "พ.อ." ลาออก เนื่องจากไม่อยากตรวจรับเรือเหาะไปถึง 2 คน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2553 มีการเซ็นตรวจรับเรือเหาะก่อนการเกษียณอายุราชการของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ไม่นาน ซึ่งแต่เดิม ทบ.มีกำหนดการจะบินทดสอบประสิทธิภาพของเรือเหาะเพื่อโชว์ต่อสื่อมวลชน แต่มีการเลื่อนออกไปอย่างมีกำหนด ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องรอยรั่วซึมจำนวนมากที่ไม่สามารถแก้ไขได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2554 ปรากฏข่าวความคืบหน้าของเรือเหาะอีกครั้ง โดย พ.อ.ธนเดช เหลืองทองคำ ผู้อำนวยการกองประสานการช่วยเหลือทางทหาร กรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ได้ชี้แจงเรื่องการรั่วซึม พร้อมทั้งความคืบหน้าในการแก้ไขว่า บริษท แอร์โรส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทซับ-คอนแทร็คกับ บริษัทแอร์เรีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่รับผลิตชิ้นส่วนดังกล่าวได้ส่งเรือเหาะตัวใหม่มาเปลี่ยนให้แล้ว ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่กองทัพบกได้ทำกับ บริษัทแอร์เรีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด คู่สัญญา ในกรณีที่อุปกรณ์มีปัญหาจะรับผิดชอบเปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าวให้ ซึ่งอยู่ในห้วงเวลารับประกัน 1 ปี ที่จะสิ้นสุดในเดือนกรกฎาคมนี้
"บริษัทดังกล่าวไม่ได้เป็นล้ม หรือหนีความรับผิดชอบตามข่าวลือ ไม่เช่นนั้นคงไม่เปลี่ยนของให้ เรือเหาะจะใช้งานได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ อย่างแน่นอน โดยจะทำให้ลูกใหม่พอง และบินทดสอบก่อน” พ.อ.ธนเดช กล่าวยืนยันก่อนหน้านี้