กรอ.เล็งถกแก้ปัญหาขาดแรงงานมีฝีมือ | คมชัดลึก

นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานให้ กรอ.ทราบว่า ในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า คลื่นการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของญี่ปุ่นจะย้ายฐานการผลิตมาไทย และมีความต้องการแรงงานที่มีทักษะไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน ภายใน 5 ปีข้างหน้า

 ทั้งนี้ กรอ.จะมีการประชุมเพื่อหารือเรื่องปัญหาแรงงานโดยเฉพาะ โดยจะเชิญภาคเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาเพื่อสร้างแรงงานระดับอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัยสาขาจักรกล โรงงาน และไฟฟ้า รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ รองรับการย้ายฐานการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมต่อเนื่องขนาด 100-200 ล้านบาท

 นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานให้ กรอ.รับทราบผลสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในไทยขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นมีข้อเสนอถึงรัฐบาลไทยว่าต้องการให้รัฐบาลเปิดเจรจากับรัฐบาลอินเดีย เพื่อเพิ่มรายการสินค้าในการเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) รอบใหม่ เพื่อที่นักลงทุนจะได้มีตลาดรองรับสินค้าเมื่อมีการย้ายฐานการลงทุน โดยนักลงทุนญี่ปุ่นมองว่าตลาดอินเดียเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพสูงมาก

 ด้านนายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการพบปะนักลงทุนญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่าญี่ปุ่นมีนโยบายส่งเสริมให้เอสเอ็มอีญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตมาไทย แต่ยังกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งภายใน 5-10 ปีข้างหน้าจากนี้ญี่ปุ่นระบุว่าต้องการแรงงานทักษะ 3-7 แสนคน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการผลิตบุคลากร

 ส่วนสถานการณ์การเมืองในไทยนั้น นักลงทุนญี่ปุ่นรายใหญ่ๆ เข้าใจสถานการณ์ดี แต่ต้องยอมรับว่าเอสเอ็มอีญี่ปุ่นยังมีความกังวลใจในประเด็นนี้บ้าง แต่เมื่อได้ชี้แจงสถานการณ์ให้เขาทราบ เขาก็มีความเข้าใจระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยยังไปได้ดี เพียงแต่คนในประเทศอย่าสร้างปัญหา หรืออุปสรรคให้แก่ตัวเอง และต้องหยุดทะเลาะกัน