สั่งปรับรถทะเบียนภาษาอังกฤษวิ่งกทม.
"นครบาล" สั่งจับปรับ "2,000 บาท " รถยนต์ติดป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษ หวั่นลักลอบ "ก่อเหตุร้าย" ยากต่อการติดตามจับกุม "รอง ผบช.น" ระบุความผิดเดียวกับ "ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน" วอนประชาชน "แจ้งเบาะแส-สิ่งผิดปกติสิ่งผิดกฎหมาย " ที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนที่เว็ปไซ
วันที่ 7 มี.ค. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 88 สน.และตำรวจจราจร กองบังคับการตำรวจจราจร กวดขันจับกุมผู้ขับขี่ที่นำรถยนต์ที่ติดป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษมาขับขี่ในพื้นที่ กทม. เพราะเป็นรถที่ผิดกฎหมาย หากนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกโดยเปลี่ยนเป็นทะเบียนประเทศไทยให้ถูกต้อง
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีประชาชนส่งภาพร้องเรียนมายังพเว็บไซต์จราจรตราเพชร เรื่องรถยนต์ใช้แผ่นป้ายทะเบียนอักษรภาษาอังกฤษวิ่งบนถนนใน กทม. ทำให้เกิดความสับสนเมื่อเกิดเหตุร้ายหรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ยากแก่การจดจำ ติดตาม ตรวจสอบ เพราะรถยนต์ประเภทนี้เป็นรถยนต์ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกให้ใช้ทะเบียนภาษาอังกฤษได้เฉพาะนอกราชอาณาจักรไทยเท่านั้น เช่น ในประเทศลาว พม่า กัมพูชา หากนำกลับเข้ามาใช้ในประเทศไทยก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ทะเบียนตัวอักษรไทยให้ถูกต้องทีมกฎหมายด้วย
"แต่ตอนนี้มีเจ้าของรถบางคันไม่ยอมดำเนินการเปลี่ยนแปลงป้ายทะเบียนดังกล่าวให้ถูกต้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แล้วนำมาขับขี่ซึ่งการกระทำนี้ถือว่าผิดกฎหมาย ทำผิดข้อหา ใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 60 ปรับไม่เกิน 2,000 บาท อัตราโทษเดียวกับกรณีไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนอัตราโทษปรับเดียวกัน " รอง ผบช.น.กล่าวและว่า ได้สั่งการให้ตำรวจจราจร ทุก สน.เพิ่มการสังเกตทะเบียนรถยนต์ประเภทนี้และกวดขันจับกุมทั้งผู้ไม่ติดป้ายทเบียนและผู้ติดป้ายทะเลียนที่มีการขูดลบขีดฆ่า ไม่ชัดเจนและป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษ โดยทำการจับกุมดำเนินคดีและยึดป้ายทะเบียนไปตรวจสอบ และหากพบการมีการกระทำผิดในข้อหาอื่นๆหรือมีการกระทำผิดคดีอาญาก็ให้ดำเนินการจับกุมในทันที
รอง ผบช.น. กล่าวในตอนท้ายว่า ขอขอบคุณพี่น้องปประชาชนที่ แจ้งเบาะแสและส่งข้อเสนอแนะเข้ามาที่ บช.น.และในเว็ปไซด์จราจร ซึ่งผู้รับผิดชอบจะนำเรื่องราวต่างๆที่มีการร้องเรียนเข้ามาประชุมหารือกับ สน.พื้นที่ รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อลดปัยหาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้มากที่สุด หากประชาชนมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการให้ส่งมาได้ที่ www.trafficpollce.go.th หรือโทรศัพท์มาที่หมายเลข 1197 ซึ่งจะนำข้อมูลไปเป็นแนวทางปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป