ข่าว

 แอ่วลำปางม่วนหนาอ้าย

แอ่วลำปางม่วนหนาอ้าย

08 มี.ค. 2554

พูดถึงการท่องเที่ยวภาคเหนือของประเทศไทยขึ้นมา คนส่วนใหญ่จะคิดถึงเชียงใหม่เป็นแห่งแรก รองลงมาคงไม่พ้นเชียงรายแล้วก็ตามมาด้วยแม่ฮ่องสอน ลำพูน ส่วนน่าน และแพร่ ถือว่าเป็นจังหวัดดาวรุ่งที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

แต่ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่คิดถึงการเดินทางไปเที่ยว และพักค้างคืนในจ.ลำปาง ทั้งที่ลำปางหรือเขลางค์นครหรือเมืองรถม้า เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวครบวงจร แถมยังมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเชียงใหม่และเชียงรายหลายเท่าตัว

 ลำปางมีสนามบินที่มีเครื่องบินโดยสารไปถึง หรือจะบินไปลงเชียงใหม่แล้วนั่งรถย้อนมาก็ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ใครที่ต้องการย้อนอดีตก็สามารถนั่งรถไฟสายเหนือ มาลงที่ลำปางซึ่งมีสถานีรถไฟสวยงามมากแห่งหนึ่งของประเทศไทยก็ได้ ส่วนทางรถยนต์นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะจะไปเชียงใหม่ง่ายที่สุดต้องผ่านลำปางอยู่แล้ว

 วัดวาอารามที่มีชื่อเสียง มีความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของลำปางมีหลายวัด และแต่ละวัดยังมีความสวยงามสมบูรณ์พร้อม ไม่ได้ถูกทำลายไปด้วยสงครามเหมือนที่อื่น ที่รู้จักกันมากที่สุดคือวัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณยี่สิบกิโลเมตรเท่านั้น หรือจะไปเดินชมวัดปงสนุกในตัวเมืองลำปางก็ไม่ใช่เรื่องยาก

 ส่วนใครที่ชอบชมธรรมชาติลำปางก็มีน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนเอาไว้คอยต้อนรับ อาบน้ำแร่ร้อนๆ ก่อนจะเดินทางไปชมศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยที่ดอยขุนตาล แล้วค่อยกลับมานั่งรถม้าชมเมืองลำปางยามเย็น ชมและฟังเสียงนกเอี้ยงเกาะตามสายไฟและต้นไม้นับพันนับหมื่นๆ ตัว ส่งเสียงสั่งลาพระอาทิตย์ก่อนตกดินดังเซ็งแซ่อยู่แถวถนนบุญวาทย์ ซึ่งน่าจะเป็น Unseen เพราะมีแห่งเดียวในโลกนี้  อื่นๆ ผมเองก็เคยเห็นมีแต่นกนางแอ่นเท่านั้น ที่เกาะกลุ่มกันจำนวนมากในเมืองอย่างนี้

 จากนั้นก็ให้รถม้าเปิดประทุนพาท่านนั่งข้ามแม่น้ำวังไปยังย่านท่ามะโอ หรือต้าบะโอ ไปชมบ้านเสานักที่มีเสาเป็นไม้ขนาดใหญ่ถึง 116 ต้น ซึ่งบ้านหลังนี้มีอายุครบ 116 ปีในปีนี้พอดี และยังได้ชมต้นสารภีอายุ 146 ปีที่ยืนต้นให้ร่มเงาอยู่หน้าบ้านเสานักอีกด้วย ใครที่ชอบบ้านเก่าสถาปัตยกรรมดั้งเดิม เพียงแค่ได้มาเดินชมบ้านเรือนในย่านต้าบะโอ นี่ก็ถือว่าสุดคุ้มแล้ว 
 
 ในเขตตัวเมืองลำปางยังมีศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมที่งดงามเหลือให้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมแถวกาดเก๊าจาว ย่านชุมชนที่เจริญคับคั่งในอดีตยุครถไฟเพิ่งเดินผ่านนครลำปาง หรือจะไปชมสะพานรัษฎาภิเศกที่งดงาม และมีขนาดไม่ใหญ่โตเหมือนสะพานแบบเดียวกันของที่อื่น

 สิบกว่าปีที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยโยนก เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ ผมบอกกับทุกคนที่รู้จักว่าที่นั่นคือ มหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในประเทศไทยเท่าที่ผมพบเห็นมา หากย้อนเวลาให้ผมกลับไปเป็นหนุ่มน้อยวัยเรียนได้ ผมคงเลือกที่จะไปเรียนที่นั่นด้วยความหลงใหลในบรรยากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันนี้กำลังจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยเนชั่น วิทยาเขตลำปาง ยิ่งน่าจะมีแรงดึงดูดใจให้ไปเรียนมากยิ่งขึ้น

 เกือบห้าสิบมาแล้วที่ผมมีโอกาสมานอนค้างลำปางเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะพี่สาวคนโตของผมไปเรียนในโรงเรียนผดุงครรภ์ลำปาง หลังจากนั้นเมื่อผมไปใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่ ผมก็สงสัยเป็นยิ่งนักว่าทำไมเพื่อนฝูงคนเมือง มักจะล้อเลียนคนลำปางว่า “ลำปางบางหนา” 

 จนมาหายสงสัยเมื่อเพื่อนชาวลำปางของผมสั่งข้าวไข่เจียวมากิน ด้วยคำสั่งที่บอกกับแม่ค้าว่า “ปี้ๆ ไข่เจียวบางๆ หนา”  ดังนั้น ทุกวันนี้ผมจึงไม่แปลกใจเมื่อคนลำปางบอกกับผมว่า “แอ่วลำปาง ม่วนหนาอ้าย” และจะยิ่งม่วนจ้าดนักหากคนที่ไปด้วยชอบเครื่องดินเผาแบบเซรามิก เพราะลำปางคือเมืองหลวงแห่งเซรามิกและชามตราไก่ของประเทศไทยนั่นเองครับ

พัฒนเดช  อาสาสรรพกิจ