ข่าว

ทบ.เตรียมลองบิน“ฮ. MI-17”จ่อจอดลพบุรี

ทบ.เตรียมลองบิน“ฮ. MI-17”จ่อจอดลพบุรี

08 มี.ค. 2554

ทบ.เตรียมลองบิน “ฮ. MI-17” 10 และ 14 มี.ค.นี้ จ่อประจำการศูนย์การบินทบ. ลพบุรี หวังช่วยบรรเทาภัยปชช.

 (8มี.ค.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก (นขต.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในการประชุมว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กองทัพบกดำเนินการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลาง สำหรับนำมาใช้งานในกองทัพบก โดยเป็นเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางแบบที่ 1 แบบ MI-17 V-5 จำนวน 3 ลำ พร้อมการฝึก ชิ้นส่วนซ่อมควบคู่และบริภัณฑ์ภาคพื้น รวมวงเงินทั้งสิ้น 29,100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 994,929,000 บาท จากสหพันธรัฐรัสเซีย (บริษัท FSUE “ROSOBORONEXPORT”) เป็นการก่อหนี้ผูกพันธ์ข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปี 2551-2554

กองทัพบกได้ดำเนินการจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามขั้นตอนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางแบบที่ 1 แบบ MI-17 V-5 จำนวน 3 ลำ ได้ถูกส่งมายังประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เมื่อ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้ถูกนำไปประกอบ รวมถึงการปรนนิบัติบำรุง ณ สนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง โดยขณะนี้ได้ดำเนินการประกอบเครื่องเรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดบินทดลองเครื่องในวันที่ 10 และ 14 มี.ค.นี้

 พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า หลังจากนั้น เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 3 ลำ จะเดินทางไปยังศูนย์การบินทหารบก เพื่อทำการส่งมอบอย่างเป็นทางการและเข้าประจำการต่อไป ทั้งนี้กองทัพบกมีแผนจะบรรจุเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางแบบที่ 1 แบบ MI -17 V-5 จำนวน 3 ลำ ไว้ที่กองบินสนับสนุนทั่วไป ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี และมีแผนที่จะใช้เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวในงานด้านยุทธการในการลำเลียงกำลังทหาร และขนย้ายยุทโธปกรณ์ รวมถึงการใช้งานด้านการบรรเทาสาธารณภัย เช่น การดับไฟป่า และการช่วยเหลือประชาชน เป็นต้น ซึ่งการเข้าประจำการของเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อลำเลียงหรือบรรทุกสิ่งของให้ตรงกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเหมาะสมที่สุด

ผบ.ทบ.ห่วงภัยแล้ง-หมอกควันภาคเหนือ

 พ.อ.หญิงศิริจันทร์ แถลงด้วยว่า ในที่ประชุมพูดถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้งในขณะนี้ว่า ทุกหน่วยงานของกองทัพบกได้เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้ดำเนินการช่วยเหลือแบบยั่งยืน โดยเฉพาะการขุดลอกคูคลองเพื่อใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ ด้วยการระดมความร่วมมือจากประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานของรัฐ โดยมีกองทัพบกเป็นผู้ประสาน รวมศักยภาพของทุกภาคส่วนเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกับได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์หมอกควันที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 3 เร่งรัดการปฏิบัติการทุกรูปแบบ เพื่อควบคุมและลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน

จ่อผุดทีมบังคับบัญชา“พล.ม.3-พล.ร.7”

 พ.อ.หญิงศิริจันทร์ แถลงอีกว่า การประชุมผบ.ทบ.ให้ความสำคัญต่อนโยบายการพัฒนาทักษะทางทหารของกำลังพล โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดความชำนาญเฉพาะหน้าที่ (Unit School) การฝึกเป็นหน่วยทหารขนาดเล็กที่มีขีดความสามารถปฏิบัติงานได้ด้วยตนเองในทุกภารกิจ รวมถึงการเตรียมความพร้อมของหน่วยทหารในการสนับสนุนภารกิจต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย โดยผบ.ทบ.ได้ประกาศเจตนารมณ์พื้นฐานของการเสริมทักษะดังกล่าวว่า กำลังพลต้องมีความสามารถในด้านการรบ การรักษาความสงบเรียบร้อย การปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การรักษาสันติภาพ รวมถึงการพัฒนาและช่วยเหลือประชาชน

 พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ผบ.ทบ.ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดตั้งกองพลทหารม้าที่ 3 (พล.ม.3) และกองพลทหารราบที่ 7 (พล.ร.7) ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา โดยขั้นต้นจะเป็นการจัดตั้งส่วนบังคับบัญชา เพื่อให้สามารถเริ่มปฏิบัติงานได้ตั้งแต่เมษายนนี้ เป็นต้นไป