ข่าว

วิมานลอยฟ้าของมหาเศรษฐี (1)

วิมานลอยฟ้าของมหาเศรษฐี (1)

21 มี.ค. 2554

ใครๆ ก็รู้กันดีว่าบรรดาผู้บริหารระดับสูงของบรรษัทยักษ์ใหญ่หรือพวกเศรษฐีใหม่มักจะมีนิสัยเหมือนๆ กันอย่างหนึ่งนอกเหนือจากโลภมากไม่รู้จบแล้ว นั่นก็คือนิสัยรักความสะดวกสบายทุกอย่าง ต่อให้เศรษฐกิจโลกจะถล่มทลายแค่ไหน ก็ขอมีเครื่องบินส่วนตัวหรือเครื่องบินประจำตำ

ไม่ต้องอื่นไกลที่ไหน แม้กระทั่งนักโทษหนีคุกหน้าเหลี่ยมซึ่งแม้จะไม่มีแผ่นดินเกิดจะอยู่ ก็ยังละทิ้งนิสัยรักความสบายนี้ไม่ได้ ต้องเช่าเหมาะลำเครื่องบินส่วนตัวสำหรับระหกระเหินไปตามประเทศต่างๆ

 ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเศรษฐีใหม่ระดับพันล้านหมื่นล้านในทวีปผิวเหลืองเอเชียโดยเฉพาะที่แดนมังกรจีน ซึ่งพร้อมจะเจียดเศษเงินราว 65 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,950 ล้านบาท เพื่อซื้อบ้านและสำนักงานลอยฟ้าไว้ประดับบารมี โดยไม่เสียดายแม้แต่น้อย

 ใครที่จับจุดนี้ถูกรับรองกิจการมีแต่เติบโตเป็นที่อิจฉาของทุกคน อย่างแอร์บัส ซึ่งกำลังจ้องตาเป็นมันหมายตะครุบเหยื่อตัวโตประเภทนี้

 "เราเพิ่งขายเครื่องบินลำแรกให้จีน ลูกค้ารีบรับสินค้ายักษ์ชิ้นนี้ด้วยความปีติยินดี" ผู้จัดการฝ่ายขายของแอร์บัสสาขาเอเชียเผย

 ด้านแอร์บัสของยุโรปเสริมว่าเครื่องบินส่วนตัวกำลังทำรายได้มหาศาลให้แก่บริษัท ซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้ส่งมอบเครื่องบินส่วนตัว 15 ลำ รวมมูลค่าถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยจีนเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด

 จากการสำรวจของนิตยสารฟอร์บส์ที่ชอบจัดอันดับเศรษฐีเป็นประจำทุกปีระบุว่าผลพวงจากเศรษฐกิจแดนมังกรกำลังพุ่งทะยานเป็นจรวด ทำให้มีเศรษฐีระดับร้อยล้านดอลลาร์ผุดขึ้นราวเห็ดหน้าฝนถึง 875,000 ราย ระดับพันล้านดอลลาร์อีกเกือบ 200 ราย และจากการจัดอันดับอัครมหาเศรษฐีประจำ

ปีนี้ ปรากฏว่าเศรษฐีใหม่เอเชียพุ่งแซงหน้าเศรษฐีเก่าในยุโรปเป็นครั้งแรกแล้ว

 ถ้าดูตามสถิตินี้ประกอบกับดูนิสัยรักความสะดวกสบายและนิยมเดินทางไปไกลๆ อยู่บ่อยๆ ของบรรดาคนพันธุ์มังกรแล้ว ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผลิตเครื่องบินต่างฝันหวานว่าจะขายเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวในจีนและเอเชียได้ถึง 5,000 เครื่องในช่วง 10 ปีข้างหน้า

 จากปัจจุบันที่คาดว่ามีเครื่องบินเจ็ตของบริษัทอยู่ 19,500 ลำทั่วโลก เฉพาะที่สหรัฐมีถึง 1.1 หมื่นลำ เอเชีย 902 ลำ ในจำนวนนี้เป็นของจีน 93 ลำ 51 ลำของเศรษฐีฮ่องกง  อีก 8 ลำเป็นของไต้หวัน และ 12 ลำที่มาเก๊า

บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์