นศ.ขับปอร์เช่ชนสาวลาวขาดดับมอบตัว
นศ.ม.รังสิต คนขับปอร์เช่ มอบตัว อ้างคนตายวิ่งตัดหน้ากระชั้นชิด ตร.แจ้งข้อหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และขับรถชนแล้วหนี ก่อนปล่อยตัว
จากกรณีที่มีผู้ขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ สีขาว ทะเบียน ป้ายแดง ง-1352 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนหญิงสาวสัญชาติลาว อายุ 17 ปี จนร่างขาดสองท่อน โดยท่อนบนตั้งแต่เอวขึ้นไป ทะลุกระจกรถตกลงไปในรถ ก่อนที่คนขับจะขับรถหลบหนีไปเป็นระยะทางไกลกว่า 10 กม. แล้วจอดรถทิ้งไว้ปากซอยวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ก่อนทิ้งรถหลบหนีไปตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 27มีนาคม นายศุภชัย ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/61 ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ พร้อมด้วยนายจรัญ ทัตสิริวรวัฒน์ อายุ 50 ปี พ่อและญาติของนายพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อประสานงานนำตัวนายพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ ผู้ขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ ที่เฉี่ยวชน น.ส.คำใบ อินทิลาด อายุ 17 สัญชาติลาวจนร่างขาดสองท่อน เข้ามอบตัว
นายจรัญ กล่าวว่า ทราบข่าวตั้งแต่วันแรกแล้วและได้ประสานงานกับบริษัทกรุงเทพประกันภัย เข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่วันแรก ขอยืนยันว่าทางครอบครัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น โดยเบื้องต้นหลังเกิดเหตุ นายพีรพล คนขับผู้เป็นหลานชาย ได้โทรศัพท์มาหาตน เพราะอยู่ในสภาพตกใจและได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้ตั้งใจหลบหนี ซึ่งก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้ว และพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง
ต่อมาเวลา 18.15 น. นายพีรพล คนขับรถปอร์เช่ พร้อมด้วยญาติๆ ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองปทุมธานี โดยแต่งกายแบบรัดกุมมีเสื้อผ้าคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า พร้อมทั้งกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ตนขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยขับรถมาในเลนขวา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งมีรถเมล์จอดอยู่เลนซ้ายมือ ปรากฏว่าผู้ตายวิ่งออกมาจากทางด้านหน้าของรถเมล์ที่จอดอยู่ตัดหน้ารถของตนเองอย่างกะทันหัน ทำให้ชนเข้าอย่างจัง ซึ่งตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก และตกใจมาก จึงอยากขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
พ.ต.อ.นิสากร บุญตานนท์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาเดินทางเข้ามามอบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งข้อกล่าวว่า ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และขับรถชนแล้วหลบหนี ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเอง และรับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเองแล้ว ก็สอบปากคำและปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องมีการประกันตัว ส่วนเรื่องที่ผู้ตายเป็นชาวต่างชาติ จากการตรวจสอบนั้น ผู้ตายเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง ก็จะได้รับการชดเชยต่างๆ ตามกฎหมาย เหมือนกับบุคคลทั่วไปที่ถูกละเมิดอยู่แล้ว
ด้านนายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ให้ความเห็นกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่า เหยื่อรถปอร์เช่อาจไม่ได้รับความยุติธรรม เนื่องจากเป็นชาวต่างชาตินั้น ตามกระบวนกฎหมายไทยแล้ว การดำเนินคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทยทุกคน จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าเหยื่อจะเป็นสัญชาติใดก็ตาม และไม่เกี่ยวกับกรณีเข้าเมืองถูกกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายญาติหรือผู้ปกครองของ น.ส.คำใบ วัย 17 ปี ผู้เสียชีวิตเกรงว่าจะไม่สามารถฟ้องแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย หรือมีปัญหาในการเรียกร้องความยุติธรรม ก็สามารถร้องเรียนผ่านทางสภาทนายความ ให้เข้าช่วยเหลือคดีความได้