ห่วงน้ำท่วมฉุดส่งออกกุ้งสูญ1.5หมื่นล้าน | คมชัดลึก

 นายสมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกรให้มีปริมาณลดน้อยลง และผลักดันราคากุ้งให้ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 5% โดยราคากุ้งปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกขนาด ซึ่งคาดว่าราคากุ้งจะทรงตัวในระดับนี้อีกสักระยะหนึ่งจนกว่าสภาวะอากาศจะกลับเข้าสู่ปกติ หรือประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม ราคาจะอ่อนตัวลงเนื่องจากมีปริมาณกุ้งออกสู่ตลาดมากขึ้น

 สำหรับจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ส่วนกระบี่ พังงา จะได้รับผลตามมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้เนื่องจากฝนยังตกอยู่ อีกทั้งยังไม่มีเกษตรกรรายใดแจ้งว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว คาดว่าจะสำรวจความเสียหายได้คงต้องรอให้ฝนหยุดตก แต่ผลกระทบและความเสียหายที่เกษตรกรได้รับจะเกิดขึ้นแน่นอน

 ด้านนายเอกพจน์ ยอดพินิจ เลขาธิการสมาคมกุ้งไทยและประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมได้สร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมจำนวนมาก โดยขณะนี้น้ำได้ท่วมบ่อเลี้ยงกุ้งในพื้นที่ทั้งหมด 200 บ่อ ทำให้กุ้งขาวเสียหาย 2,000 ตัน ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตกุ้งออกน้อย คาดว่าแนวโน้มราคากุ้งขาวน่าจะปรับสูงขึ้น

 "ปัญหาสำคัญที่สุดขณะนี้เป็นเรื่องปัญหาการขาดแคลนผลผลิตกุ้งในการส่งออก และคาดว่าจากปัญหาน้ำท่วม ฝนตก ซึ่งเร่งให้เกิดโรคระบาดในกุ้ง จะทำให้ผลผลิตกุ้งในปีนี้ลดลงเหลือเพียง 5.5 แสนตัน ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 6.7 แสนตัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกกุ้งในปีนี้จะลดลง 10-15% จากปีที่ผ่านมา โดยจะส่งออกได้เพียง 8.5 หมื่นล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ส่งออกได้ถึง 1 แสนล้านบาท หรือมูลค่าส่งออกจะหายไปประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท

 ขณะที่นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการ บมจ.ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นขณะนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอาหารที่ทำจากกุ้ง เนื่องจากฟาร์มกุ้งส่วนใหญ่ที่เป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญของบริษัทอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งหากเกิดผลกระทบต่อต้นทุนมาก บริษัทก็อาจจะใช้แนวทางการปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนที่สูงขึ้น