
หายร้อนแน่ๆถ้าลิ้มลอง"ข้าวแช่ตำรับวังละโว้"
ใครว่าร้อนนี้มันสั้นกันนะ...เหงื่อไหลแทบจะเป็นสายน้ำกันแล้วเนี่ย...ว่าแต่ร้อนๆ อย่างนี้คงต้องหาอะไรดับร้อนสักหน่อยแล้วล่ะ แต่จะให้หม่ำหวานเย็นก็เกรงว่าน้ำตาลในเลือดจะพุ่งปรี๊ด!!! เอางี้ดีกว่า ลองหันมาหาของกินคลายร้อนจากภูมิปัญญาชาวบ้าน
นามว่า "ข้าวแช่" กันดีกว่า สำรับอาหารคาวที่นิยมลิ้มรสกันตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า ละเมียดเข้าปากทีไรชื่นใจทู้ก...ที แต่ถ้าใครอยากจะอร่อยกับข้าวแช่ตำรับชาววังแท้แต่โบราณ แนะนำว่าให้สาวเท้ามายัง "ร้านหลายรส" ในซอยสุขุมวิท 49 รับรองว่าไม่ผิดหวัง
ร้านตั้งอยู่เยื้องๆ กับโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท มานานกว่า 25 ปีแล้วล่ะ เขาตกแต่งเรียบง่ายให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องที่บ้าน เน้นใช้โทนสีเขียวอ่อนตัดกับพื้นกระเบื้องสีขาวสะอาดตา ชวนมองพอๆ กับบริกรสาวสวยของร้านที่เข้ามาแนะนำของอร่อยขึ้นชื่อตำรับชาววัง แหม...กำลังจะหาอะไรมาดับร้อนอยู่พอดีเชียว
ไม่นานนัก ทั้งข้าวสุกเม็ดสวยและเครื่องเคียงครบครัน พร้อมจัดแต่งเอาไว้อย่างสวยงามก็ถูกยกมาขึ้นโต๊ะ ซึ่ง พิมพร อิ่มประไพ เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า ข้าวแช่ที่นี่ขายกันทั้งปี ไม่ได้มีเฉพาะหน้าร้อน แถมยังเป็นสูตรดั้งเดิมของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล ด้วย คุณแม่ของเธอเป็นน้องสาวของ หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา ชายาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ (พระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล) ทำให้คุณแม่มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในห้องต้นเครื่องมาโดยตลอด กระทั่งมีโอกาสได้เปิดร้านของตัวเอง จึงนำข้าวแช่ตำรับวังละโว้นี้มาทำให้ทุกคนได้ชิม
ข้าวแช่ตำรับชาววังต่างจากข้าวแช่ทั่วไป ตรงที่เพิ่ม พริกหยวกสอดไส้ และ หอมแดงสอดไส้ ซึ่งขั้นตอนการทำก็ยุ่งยากอย่างที่รู้ๆ อย่าง พริกหยวกสอดไส้ ต้องเลือกเม็ดสวยๆ ขนาดพอเหมาะ แกะเมล็ดพริกออกให้หมดแล้วล้างให้สะอาด นำหมูบด กุ้งบด มาผสมกับกระเทียม รากผักชี ปรุงรสด้วยน้ำปลาให้รสชาติกลมกล่อม โขลกรวมกันจนส่วนผสมเริ่มเหนียว แล้วจึงใส่ในพริกหยวกก่อนนำไปนิ่งพอสุก จากนั้นจึงทำหรุ่มไข่ (ทำไข่เป็นเส้นยาว) ในน้ำมันให้เป็นวงกลมจนเส้นไข่ฟูกรอบสีเหลืองทอง นำพริกหยวกสอดไส้วางลงไปตรงกลางแผ่นไข่ แล้วจึงม้วนห่อหุ้มเม็ดพริกจนหมด
ส่วน หอมแดงสอดไส้ ก็เลือกขนาดพอเหมาะ กรีดหอมแดงพอให้สอดไส้ได้ โดยนำปลาแห้งมาปรุงรสให้มีรสชาติเผ็ดนิดหวานหน่อย ใส่เข้าไปจนเต็มแล้วจึงนำมาชุบไข่ โดยเหลือส่วนหัวหอมแดงไว้เล็กน้อย นำไปทอดพอให้เป็นสีเหลืองน่ารับประทาน ขณะที่เครื่องเคียงอื่นๆ ที่ต้องมี ก็อย่าง ไชโป้วผัดไข่, เนื้อฝอยหวาน, ปลายี่สกผัดหวาน และจุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่ กะปิทอด เพราะใช้กะปิสดเท่านั้น วิธีทำ เริ่มด้วยการนำกระชายขูดเปลือกหั่นหยาบๆ ตะไคร้ซอย หอมแดงหั่นแล้วตำให้ละเอียด ใส่ปลาแห้งป่นกับกะปิโขลกรวมกัน แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นตำให้แห้งสักหน่อยก่อนจะนำมาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอเหมาะ ตากให้แห้งแล้วจึงนำมาชุบไข่ทอด รสชาติที่ได้จึงกรอบอร่อยไม่เหมือนใคร
มาถึงของสำคัญที่ขาดแล้วไม่เรียกว่าข้าวแช่แน่ๆ คือ ข้าวสวย เขาใช้ข้าวเสาไห้เก่ามาหุงเช็ดน้ำแบบโบราณ นำมาขัดในตะแกรง โดยให้น้ำไหลผ่านเพื่อให้ยางข้าวออกจนหมด จากนั้นนึ่งต่อให้สุก แล้วจึงนำมาลอยในน้ำต้มสุกอบเทียนที่ทำทิ้งไว้หนึ่งคืน เพื่อให้กลิ่นเทียนและดอกไม้อย่างดอกมะลิและดอกชำมะนาด ผสมในน้ำหอมชื่นใจ ใครที่กังวลกับดอกไม้ ขอบอกเลยว่า ที่นี่เด็ดจากต้นที่ปลูกเอง หรือต้องซื้อก็จะล้างจนสะอาดเอี่ยมอ่องเชียวล่ะ
ใครอยากจะลิ้มลองรสชาติแบบดั้งเดิมก็แวะไปกันได้ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงถึง 4 ทุ่ม ส่วนวันจันทร์เปิดถึงแค่บ่าย 3 โมงเท่านั้น สอบถามก่อนได้ที่เบอร์ 0-2391-3193 แต่ถ้าใครไม่สะดวกมาแถวสุขุวิท เพราะรถติดเกินห้ามใจ แวะไปร้านหลายรสแถวริมคลองประปา ถนนพระราม 6 ได้เหมือนกัน
สาธยายมาจนครบถ้วนกระบวนความแล้ว ขอตักข้าวสวยใส่น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ เติมน้ำแข็งเข้าไปสักหน่อยเพื่อความเย็นชื่นใจ แล้วขอปลีกวิเวกไปดื่มด่ำกับรสชาติข้าวแช่ต้นตำรับสักนิดก่อนแล้วกันคร้า...