
"ผีแดง"สถิติข่ม"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน"ในศึกพรีเมียร์ลีกเย็นวันนี้
"ปีศาจแดง"แมนฯ ยูไนเต็ด สถิติข่ม"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตัน ในการทำศึกพรีเมียร์ลีก วันนี้ (23 เม.ย.) เฝ้ารัง 17 ปีหลังไม่มีแพ้ แถมชนะรวดมา 4 เกมติด พร้อมส่ง เวย์น รูนีย์ คู่ ดิมิทาร์ แบร์บาตอฟ ล่าตาข่าย ด้าน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ส่อไร้ อเลกซ์ กับ ราม
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 23 เมษายนนี้ มีโปรแกรมฟาดแข้งทั้งหมด 8 คู่ เริ่มจาก "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง แข่ง 33 นัด มี 70 แต้ม เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 7 แข่ง 33 นัด มี 47 แต้ม เวลา 18.45 น. เกมนี้นักเตะผีแดง ที่หากชนะจะทำสถิติใหม่คือ ชนะในบ้านเป็นนัดที่ 13 ติดต่อกัน หลังก่อนหน้าที่เคยทำสูงสุดที่ 12 นัดมาแล้วถึง 2 ครั้ง จะยังคงไม่มี "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือใหญ่นั่งคุมทีมข้างสนาม ที่ติดโทษแบนเป็นนัดสุดท้าย รวมไปถึง พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋า ที่ติดโทษแบนมาจากใบแดงในเกมเอฟเอ คัพ
อย่างไรก็ตาม เฟอร์กูสัน มีข่าวดีที่จะได้ ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กดาวรุ่งฟิตคืนทีมอีกครั้ง ซึ่งน่าจะได้ลงมาแทน จอห์น โอเชีย ที่ฟอร์มพักหลังไม่ค่อยดีนัก ขณะที่การจัดทีม เฟอร์กี้อาจไม่ส่งทีมชุดใหญ่แบบเต็มอัตราศึก เนื่องจากต้องคิดถึงเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดตัดเชือก เกมแรกที่จะบุกไปเยือน "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ 04 ในวันอังคาร โดย 2 ตัวหลัก ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ ไรอัน กิ๊กส์ อาจจะได้พัก โดย อันแดร์สัน น่าจะได้ลงมาทำเกมอีกนัด ขณะที่คู่หน้า ดิมิทาร์ แบร์บาตอฟ ที่ไม่มีชื่อในเกมบุกเสมอนิวคาสเซิล 0-0 เมื่อวันอังคาร น่าจะได้โอกาสลงสนามคู่กับ เวย์น รูนีย์ ที่จะได้ลงไปเจอกับทีมเก่า ทำให้ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เฮอร์นันเดซ น่าจะเป็นคนได้พักในเกมนี้
ส่วนทีมเยือนที่ไม่แพ้ใครมาใน 7 เกมหลังสุด และชนะ 6 จาก 9 นัดหลัง ต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ 3 ตัวเก่งอย่าง จอห์น ไฮติงกา, ทิม เคฮิลล์ และมิเกล อาร์เตตา ที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่ยังสามารถใช้งานแข้งหลักอย่าง ทิม โฮเวิร์ด, ซิลแวง ดิสแตง, ฟิล เนวิลล์, ดิมิยาร์ บิลยาเลทดินอฟ และเจอร์เมน เบ็คฟอร์ด ได้ตามปกติ
สำหรับสถิติการพบกันของทั้งคู่ แมนฯ ยูไนเต็ดไม่เคยแพ้เอฟเวอร์ตันที่สนามแห่งนี้ในการพบกัน 17 ครั้งหลังสุด โดยทีมเยือนรอดกลับออกไปแบบมีแต้มแค่ 3 ครั้ง ขณะที่ 4 ปีหลัง นักเตะผีแดงคว้าชัยได้ทั้งหมด
ขณะที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมรองฝูง แข่ง 33 มี 64 แต้ม เตรียมเปิดถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกแห่งศักดิ์ศรี "ลอนดอนดาร์บี้แมทช์" รับการมาเยือนของคู่ปรับร่วมเมืองหลวงอย่าง "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ทีมรองบ๊วยอันดับ 19 แข่ง 33 นัด มี 32 แต้ม เวลา 23.30 น.
นัดนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือเจ้าถิ่นตั้งเป้าหวังเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อยึดตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป แถมยังรักษาโอกาสลุ้นป้องกันแชมป์อีกหนึ่งสมัยด้วย แม้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน 2 แข้งดังชาวบราซิเลียน อยาง อเลกซ์ และรามิเรส ที่ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ แต่ยังสามารถส่งแข้งหลักในทีมชุดใหญ่ลงเล่นเป็นตัวจริงได้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ดิดิเยร์ ดร็อกบา และเฟอร์นันโด ตอร์เรส
ฝั่งทีมเยือนของ อัฟราม แกรนท์ ยังคงไร้เงา สกอตต์ ปาร์คเกอร์ กองกลางตัวเก่งที่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่ยังสามารถใช้งานแข้งหลักอย่าง โรเบิร์ต กรีน, แมทธิว อัพสัน, มาร์ค โนเบิล, คาร์ลตัน โคล และร็อบบี คีน ได้ทั้งหมด เพื่อหวังบุกไปเก็บแต้มขยับหนีจากโซนตกชั้นให้ได้
ส่วนโปรแกรมคู่อื่นลงเตะในเวลา 21.00 น. ลิเวอร์พูล (6) พบ เบอร์มิงแฮม (15) แอสตัน วิลล่า (10) พบ สโต๊ค (13), แบล็คพูล (18) พบ นิวคาสเซิล (9), ซันเดอร์แลนด์ (14) พบ วีแกน (17), สเปอร์ส (5) พบ เวสต์บรอมวิช (11), วูล์ฟแฮมป์ตัน (20) พบ ฟูแล่ม (12)