ขยายผลจับเครือข่ายโกงทัวร์พันล้าน
ผช.ผบ.ตร. เผยเร่งขยายผลจับเครือข่าย โหน่ง อีแอลซี คดีโกงทัวร์มูลค่าหลักพันล้านบาท
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 6 ส.ค. 2562 พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. (ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสาสนเทศ) พร้อมด้วย น.ส.วันทนา แจ้งประจักษ์ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.หัวหมาก และ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.คธม.บช.ทท. (กองกำกับการควบคุมธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์) แถลงผลการจับกุม นายภัทริคณ์ เรตะกุล หรือ อาจารย์โหน่ง ผู้ต้องหาที่หลอกขายทัวร์เดินทางไปต่างประเทศ พร้อมของกลางเอกสารเดินทางของลูกค้า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง (อ่านข่าว : รวบแล้ว อ.โหน่ง อีแอลซี โกงทัวร์พันล้าน)
จากการสืบสอบสวนพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการโฆษณาขายโปรแกรมทัวร์นำนักท่องเที่ยวไทยไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศผ่านทางเฟซบุ๊ก ในลักษณะขายโปรแกรมล่วงหน้า 1-2 ปี ในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติมาก (แต่มีการเก็บเงินเต็มจำนวนก่อน) เป็นการเปิดขายรายการนำเที่ยวลักษะทัวร์กลุ่มปิด มีการชักชวนให้ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิก ซึ่งจะได้รับสิทธิการท่องเที่ยวต่างประเทศในราคาถูก หากสมาชิกที่เคยไปท่องเที่ยวกับบริษัทแล้ว สามารถแนะนำหรือชักชวนบุคคลอื่นเพื่อมาท่องเที่ยวกับบริษัทฯได้ โดยบริษัทได้นำเสนอรูปแบบการนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวในราคาถูก แต่ได้รับการบริการเช่นเดียวกับการซื้อรายการนำเที่ยวในราคาปกติ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวกับบริษัทอีแอลซีทัวร์เกิดความประทับใจเมื่อกลับจากการท่องเที่ยวแล้วก็จะมีการจองรายการนำเที่ยวในเส้นทางอื่นๆ เพิ่มจำนวนหลายรายการและยังได้ชักชวนกลุ่มญาติหรือกลุ่มเพื่อนสนิทเพื่อนร่วมงาน ฯลฯ ให้มาซื้อรายการนำเที่ยวกับบริษัทอีแอลชีทัวร์เกิดการขยายฐานลูกค้าบริษัทต่อๆไปเป็นวงกว้างในลักษณะเป็นการบอกปากต่อปาก แต่ต่อมาเมื่อครบกำหนดเวลาที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังรายการต่อๆไปที่ได้มีการซื้อไว้บริษัทอีแอลซีทัวร์กลับแจ้งยกเลิกการเดินทาง โดยให้เลื่อนรายการออกไปเรื่อยๆ เมื่อผู้เสียหายขอเงินคืนกลับได้รับการบ่ายเบี่ยง โดยพฤติกรรมแบบนี้เกิดซ้ำกับผู้เสียหายจำนวนมากจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายภัทริคณ์ หรือ อาจารย์โหน่ง แล้วมากกว่า 280 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 70 ล้านบาท และยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเผื่อแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิน 300 ราย
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวผู้กระทำผิดคือ นายภัทริคณ์ หรือ อาจารย์โหน่ง นั้น เป็นผู้มีอำนาจลงนามสูงสุดของบริษัทอีแอลชีทัวร์ ส่วนจะมีใครหรือแจ้งข้อหาใครเพิ่มเติมนั้น อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวมีการนำข้าราชการระดับสูงไปท่องเที่ยวเพื่อให้บริษัทฯเกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวถ้ามีการสอบสวนไปถึงบุคคลใดที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือไม่ก็จะดำเนินคดีทั้งหมด
ด้าน รอง ผบช.น. กล่าวว่า สำหรับในขั้นตอนหลังจากนี้หากมีผู้เสียหายท่านใดที่ถูกหลอกลวงให้จ่ายเงินแล้วไม่ได้เดินทาง หรือจ่ายเงินเป็นสมาชิกแล้วแต่ยังไม่ถึงกำหนดเดินทาง และเคยถูกหลอกลวงได้รับความเสียหาย สามารถเข้าให้ปากคำหรือแจ้งความเพิ่มเติมได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” และข้อหาผิดตามพ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว
รายงานข่าวแจ้งว่ามีกลุ่มประชาชนจำนวนเกือบ 20 คนซึ่งเคยเดินทางไปกับบริษัทอีแอลชีทัวร์ และนายภัทริคณ์ หรือ อาจารย์โหน่ง ได้เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งกล่าวว่ากลุ่มพวกตนเคยเดินทางมาแล้ว และไว้ใจประทับใจในการบริการ พร้อมทั้งได้จองแพ็กเกตเดินทางล่วงหน้าไปหลายรายการจำนวนเงินหลักแสนบาท โดยส่วนตัวเดินทางมาให้กำลังใจและยังเชื่อมั่นในตัวนายภัทริคณ์ หรือ อาจารย์โหน่ง แต่เมื่อมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ทำให้เราพลาดทริปที่จะเดินทางไป โดยทริปที่จะต้องเดินทางล่าสุดคือวันที่ 11 ส.ค. อยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ เพราะเรายังเชื่อมั่นและมั่นใจว่าจะได้เดินทางแน่นอน