ทลายแก๊งค้าดอล่ล่าห์โฉนดที่ดินปลอมรายใหญ่ | คมชัดลึก

 เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 พ.ย.2552 พล.ต.ต.เดชาวัต รามสมภพ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ควบคุมตัวนายสราวุธหรือทอง พิมพา อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 266/1 หมู่ 1 ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา และนายสมชาย บัวบุญ อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา  เครือข่ายค้าธนบัตรปลอมและปลอมแปลงเอกสารทางราชการ หลายรายการ อาทิโฉนดที่ดิน , หนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดิน (นส.3ก.) และบัตรประจำตัวประชาชน มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมธนบัตรดอลล่าร์ สหรัฐอเมริกาปลอม ฉบับละ 100 ดอลล่าร์ จำนวน 50 ฉบับ  มูลค่า 5,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 165,000 บาท  โฉนดที่ดินและ นส.3ก. ปลอมจำนวน 13 ฉบับ บัตรประจำตัวประชาชนปลอมและอุปกรณ์การปลอมแปลงเอกสารทางราชการ อาทิ ตรายาง กระดาษที่ในการปลอมแปลงเอกสารอีกนับร้อยรายการ 
 
 การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 นำโดย พล.ต.ต.นิคม อินเฉิดฉาย ผบก.สส.ภ.3 ,พ.ต.อ.นิติพันธุ์ โรหิโตปการ ผกก.สส. 1,พ.ต.ท.บรรพต  มุ่งขอบกลาง รอง ผกก.สส.1บก.สส.ภ.3 และ พ.ต.ท.ภูมิ  ทองโพธิ์  สว.สส.1 บก.สส.ภ.3 พร้อมพวก ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายปลอมธนบัตรทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงปลอมแปลงเอกสารทางราชการหลายชนิดโดยเฉพาะโฉนดที่ดิน นำมาหลอกจำหน่ายและนำไปหลอกเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้จากประชาชนในหลายพื้นที่ของ จ.อุบลราชธานี 

 จึงส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนแฝงตัวลงพื้นที่จนสืบทราบว่า นายสราวุธ พิมพา ซึ่งเป็นชาวอ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เป็นคนร้ายที่ดำเนินการจำหน่ายธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐฯปลอม รวมถึงยังรับจ้างปลอมแปลงเอกสารทางราชการจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าในหลายจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้ทำการวางแผนล่อซื้อธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐฯ จำนวน 50 ฉบับ ในราคา 17,500 บาท โดยนัดส่งของที่ลานจอดรถตลาดเซฟวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในช่วงเช้าตรู่วันที่ 29 พ.ย.2552

 เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายสราวุธ ฯ พร้อมด้วยนายสมชาย บัวบุญ เครือข่าย ได้ขับรถมาจุดนัดพบเพื่อส่งของ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม ได้พร้อมของกลาง ธนบัตรดอลล่าร์ สหรัฐอเมริกาปลอม ฉบับละ 100 ดอลล่าร์ จำนวน 50 ฉบับ  จากนั้นตร.ได้นำตัวนายสราวุธฯ ไปตรวจค้นที่บ้านพัก เลขที่ 842 หมู่ 6 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และสามารถยึดของกลางประกอบด้วย โฉนดที่ดิน และนส.3 ก. ปลอม จำนวน 9 ฉบับ , โฉนดเปล่ายังไม่ได้ลงรายการ 4 ฉบับ , บัตรประจำตัวประชาชนปลอม 1 ใบ สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 5 ฉบับ มีเงินหมุนเวียนนับล้านบาท  และอุปกรณ์การปลอมแปลงเอกสารทางราชการอาทิตรายาง ,ตราครุฑ,ตราสิงห์ และสัญลักษณ์หน่วยงานราชการเช่นกรมที่ดิน กรมการปกครอง กระทรวงมาดไทยรวมถึงบริษัทงห้างร้านต่างๆและอุปกรณ์ประกอบที่ใช้ในการปลอมแปลงเอกสารอีกกว่าร้อยรายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน 

  สอบสวน นายสราวุธฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างปลอมแปลงเอกสารทางราชการหลากหลายรายการโดยเฉพาะโฉนดที่ดินมานานกว่า 10 ปีแล้ว  โดยจะมีลูกค้าซึ่งเป็นเครือข่ายร่วมกระบวนการหลายรายในพื้นที่ภาคอีสานเป็นคนสั่งออร์เดอร์ ซึ่งจะรับเงินค่าจ้างการการปลอมเอกสารประเภทโฉนดที่ดิน ในราคา ฉบับละ 5,000 บาท , บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับละ 12,000 บาท ส่วนธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐฯปลอมนั้น นายสราวุธฯ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ปลอมแปลงขึ้นเอง แต่ไปรับซื้อมาจากนายทุนชาวกัมพูชา ที่เกาะกง จ.ตราด เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าทางฝั่งประเทศลาว 100 ดอลล่าร์ราคา 300 บาทขายต่อ 350 -500 บาท ที่ผ่านมาเคยถูกตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา จับกุมในข้อหาจำหน่ายธนบัตรปลอมเมื่อปี 2540 และถูกศาลนครราชสีมาสั่งจำคุก 12 ปี แต่รับโทษจริงเพียง 6 ปี ก็ออกมากระทำผิดซ้ำอีก

 ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอม ( ดอลล่าร์) , ปลอมขึ้นและใช้ดวงตราหรือรอยตราขององค์การสาธารณะหรือเจ้าพนักงาน และปลอมแปลงเอกสารทางราชการ เอกสารสิทธิ์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุก 10 - 12 ปี กรณีทำผิดจำคุกเพิ่มอีก 1 / 4 ของโทษทั้งหมด  ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป 

  ด้านพล.ต.ต.เดชาวัต รามสมภพ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3  เปิดเผยว่า การกระทำความผิดของเครือข่ายปลอมแปลงเอกสารทางราชการ และจำหน่ายธนบัตรดอลล่าร์ปลอมในครั้งนี้  ยอมรับว่า คนร้ายสามารถปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ทั้งโฉนดที่ดิน และบัตรประจำตัวประชาชน ได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าเกินกว่า 90 % เลยทีเดียว รวมถึงธนบัตรดอลล่าร์ปลอม ก็ถูกทำขึ้นจากแท่นพิมพ์ที่มีรายละเอียดชัดเจน มีรอยนูน และรายระเอียดต่างๆครบถ้วน ยากแก่การสังเกตด้วยตาเปล่า ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะในการตรวจสอบ

 อย่างไรก็ตาม ในกรณีของธนบัตรดอลล่าร์ปลอมรายนี้ เบื้องต้นทราบว่า แหล่งผลิต หรือโรงพิมพ์จะอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน(กัมพูชา)และมีผู้ร่วมขบวนการนี้อีกหลายรายขณะนี้ตร.ภาค 3 กำลังแกะรอยเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว อย่างไรก็ตามไม่น่าเป็นห่วงว่าดอลล่าร์ปลอมจะระบาดในประเทศมากนักเนื่องจากเงินดอลล่าร์สหรัฐฯไม่สามารถใช้จ่ายในประเทศไทยได้  แต่ในส่วนของเอกสารทางราชการปลอมนั้นน่าเป็นห่วงเนื่องจากเป็นเอกสารที่สมจริงอย่างมากยากแก่การตรวจสอบ ดังนั้นจึงขอฝากเตือนประชาชนให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพมาหลอกขายโฉนดที่ดินปลอม ให้สังเกตว่านำมาจำหน่ายในราคาถูกเกินจริงหรือไม่แต่หากเพื่อความแน่ใจความนำโฉนดไปให้สำนักงานที่ดินในแต่ละพื้นที่ตรวจสอบเพื่อความแน่ชัด  ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนนี้ตนเองได้สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่รับผิดชอบ8 จว.อีสานตอนล่างเร่งระดมกวาดล้างสืบหาข่าวการกระทำผิดในเรื่องนี้อย่างจริงจัง  โดยเฉพาะคดีนี้เชื่อว่าจะยังคงมีผู้ที่เกี่ยวข้องและร่วมกระบวนการหลงเหลืออยู่อีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนขยายผลจับกุมให้ได้ทั้งกระบวนการ  พล.ต.ต.เดชาวัตฯ กล่าว