ตำรวจรู้ตัวคนร้ายชิงทองลพบุรี เป็นญาติผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น
5 วันหลังเกิดเหตุชิงทอง กลางห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จ.ลพบุรี ขณะนี้ ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว เป็นญาติผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น
จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนชิงทอง ร้านออโรร่า กลางห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จ.ลพบุรี ซึ่งลงมืออย่างโหดเหี้ยมยิงผู้บริสุทธิ์จนเสียชีวิต 3 ราย หนึ่งในนั้นคือ “น้องไทตัล” เด็กชายอายุเพียง 2 ขวบ และยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 4 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 มกราคม 2563 สร้างความสลดหดหู่ให้แก่ผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก กระทั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ พร้อมตั้ง รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี รวมทั้งจัดกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือคอมมานโด และนักสืบมือดีจากหลายหน่วยงาน จำนวนหลายร้อยคนออกไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 มกราคม 2563 ที่วัดหัวช้าง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานฌาปณกิจศพ ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ หรือ “น้องไทตัล” เหยื่อกระสุนคนร้ายชิงทอง บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งประชาชนมาร่วมแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมาก
นายอนุชา วงศ์อยู่ อายุ 35 ปี พ่อของน้องไทตัล กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่น้องเสียไป จนถึงวันนี้เรายังรู้สึกว่าเขายังอยู่กับเรา แต่วินาทีนี้เหมือนกับเราจะเจอกับเขาครั้งสุดท้ายแล้ว วันก่อนเผาเรายังรู้สึกว่า เรายังอยู่ด้วยกันตลอด ตอนนี้กำลังใจดีขึ้นมาก ได้รับกำลังใจจากทุกคนเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไม่รู้จักอยู่ไกลๆ แต่ทราบข่าวก็มาช่วย หรือวันนี้ทางเอ็มเคก็เข้ามาช่วย แต่หลังจากพรุ่งนี้(14 ม.ค.)เราก็ต้องให้กำลังใจกันเองแล้ว พอหมดงานก็ต้องเป็นเรื่องของเราสองคนที่ต้องสู้กันไป
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ตอนนี้ไม่ได้ห่วงอะไร ห่วงความรู้สึกของภรรยาอย่างเดียว เพราะยังร้องไห้ไม่หยุด ห่วงความรู้สึกเวลากลับบ้าน ส่วนเรื่องคดีไม่เคยติดตามเลย จะจับได้หรือไม่ได้ สำหรับตนแล้วจนถึงวันนี้ไม่สำคัญ เพราะความสูญเสียได้เกิดขึ้นแล้ว ต่อให้จับได้ก็มาทดแทนความสูญเสียไม่ได้ ยิ่งไปใส่ใจเรื่องคดี ความรู้สึกมันยิ่งแย่ลง ตอนนี้ความรู้สึกเราทั้งคู่ติดลบอยู่แล้ว เราสองคนต้องคิดดีๆ ให้ความรู้สึกมันบวกขึ้นมา วันนี้ได้บอกน้องว่าได้กินเอ็มเคแล้วนะ เขามาช่วยกันเยอะ วันนี้เอ็มเคเขาเอาสุกี้มาเลี้ยง เพราะวันก่อนน้องจะเสียเราจะไปกินเอ็มเคกันพอดี
“ป๊าและแม่ อยากจะบอกน้องไทตัลว่า ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ป๊ากับแม่ก็จะพยายามอยู่ทางนี้ให้ได้ ถ้ามีภพภูมิที่ดีกว่าให้น้องไปเลยไม่ต้องห่วง แต่ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนมาอยู่กับป๊ากับแม่ก่อน เรารออยู่ เราอโหสิให้ เราคิดในแง่บวก คิดว่าเขาคงเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมากกว่า คือถึงคราวที่น้องเขาต้องไป ทุกอย่างที่เรามองคือประจวบเหมาะกันพอดี เพราะกระสุนลงพื้นเด้งเข้าน้อง ก็เลยไม่อาฆาต เราอยากให้ลูกเราไปอย่างบริสุทธิ์” นายอนุชา กล่าว
ด้าน น.ส.วิไลวรรณ ยังรอด อายุ 40 ปี แม่น้องไทตัล กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ยังรู้สึกโอเค เพราะกำลังใจเยอะ แต่หลังจากคืนนี้คงต้องอยู่กันสองคน ก็คงต้องสู้กันต่อไป เวลาเลิกงานเขาจะวิ่งมารับแม่ หลังจากนี้คิดว่าถ้าเลิกงานกลับไปไม่มีเขา เหมือนขาดสิ่งสำคัญในชีวิตเราสองคน ที่แม่มีอยู่ทุกวันนี้จุดประสงค์คือลูก อะไรคือลูกให้ลูกหมด วันแรกที่ลูกเสียพูดกับป๊าว่า เมื่อไม่มีลูกแล้วจะอยู่ทำไม มันไม่มีจุดหมาย คิดถึงเขา แต่ถ้ามีภพภูมิที่ดีก็ให้ไปไม่ต้องห่วงแม่กับป๊า
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ สภ.เมืองลพบุรี พล.ต.ต.ณัฐพล ศุภระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ออกมายืนยันว่า ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ แต่ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าพอสมควร ตำรวจทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งยังไม่สามารถชี้ชัด 100% ได้ว่า คนร้ายอยู่ในพื้นที่หรือไม่ แต่แผนปฏิบัติการติดตามตัวคนร้าย ได้เน้นในพื้นที่ จ.ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง และชัยนาท โดยล่าสุดมีพยานแวดล้อมเข้ามาให้ข้อมูลจำนวนมาก ตำรวจยังเน้นนำแผนประทุษกรรมคนร้ายปล้น จี้ ร้านทอง ทั่วประเทศมาสืบสวน ตอนนี้ได้สอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แล้วร่วมกว่า 20 ปาก ซึ่งยังมีบุคคลที่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติมอีก
“ตำรวจทำงานตลอด 24 ชม. ตามกรอบได้ผลพอสมควร แต่ต้องใช้เวลาในการหาเบาะเเส โดยประชาชนได้ให้ความร่วมมืออย่างดี เพราะเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ ต้องการให้ได้ตัวคนร้ายโดยเร็ว ทั้งนี้ ขอย้ำว่าทหารให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันการเข้าไปตรวจค้นบ้านเรือนของประชาชน ก็จะต้องมีหมาย และขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจับกุมตัวคนร้าย อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน หรือร้านทอง ให้ช่วยตรวจสอบทองคำ ที่มีรหัสตัวอักษรออโรร่า หากมีการนำไปขาย ให้เเจ้งตำรวจได้ทันที รวมถึงยังต้องการภาพวงจรปิด หรือ ภาพกล้องหน้ารถที่จับภาพรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ขาวแดง ไม่ติดทะเบียน ไว้ได้ หากประชาชนรายใดมีภาพ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้" พล.ต.ต.ณัฐพล กล่าว
ผบก.ภ.จว.ลพบุรี กล่าวอีกว่า สำหรับกำลังตำรวจชุดสืบสวน สามารถเรียกระดมได้ตลอดเวลา โดยกำลังชุดใหม่ที่เข้ามาเสริม เป็นทีมของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีนี้ โดยจะปฏิบัติการอย่างเข้มข้น วันนี้เริ่มแกะรอยจากกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง ขอกำลังเสริมจากตำรวจภาค 2 มาเพิ่ม ประสานงานต่อจากทีมสืบชุดของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ที่เข้ามาดำเนินการก่อนหน้านี้
ทั้งนี้มีรายงานว่า ตำรวจได้นำภาพชายต้องสงสัยมาตรวจสอบประวัติ เบื้องต้นพบว่าเป็นคนในพื้นที่ จ.ลพบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าการติดตามตัว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องออกหมายจับ
ต่อมาในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อสรุปความคืบหน้าในการติดตามไล่ล่าคนร้าย โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่ พล.ต.ท.อำพล จะออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก แต่มีประชาชนมาให้เบาะเเสมาจำนวนมาก และกำลังพิสูจน์ทราบอยู่ ขณะเดียวกันช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการระดมชุดสืบสวนนับร้อยนายที่มาเสริมกำลัง ลงพื้นที่ปูพรมตรวจค้นในพื้นที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ตามโรงแรมม่านรูดต่างๆ ขณะเดียวกันยังกระจายกำลังตรวจค้น 7 จุด ใน จ.ลพบุรี และประสานขอข้อมูลตามสนามยิงปืนต่างๆ ในจังหวัดที่มีอยู่หลายแห่ง เพื่อพิสูจน์และขอข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธปืน รวมทั้งลูกกระสุน ที่อาจจะใกล้เคียงกับคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุ
นอกจากนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชุดสืบสวนอีกชุดนำโดย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.ทท. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ก็ขอความร่วมมือและขอข้อมูลกับสนามยิงปืนใน จ.ลพบุรี แล้ว โดยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมกับได้เข้าพูดคุยกับ พล.ต.บำรุง สายทอง ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ ค่ายพิบูลสงคราม จ.ลพบุรี
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนาเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยชุดสืบสวนสามารถพิสูจน์กลุ่มผู้ลงมือก่อเหตุ และตีกรอบกลุ่มบุคคลได้แคบลงแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะจะทำให้เป็นอุปสรรคในการสืบสวนคดี โดยขณะนี้ยังไม่ขอตัดประเด็นหรือแรงจูงใจใดๆ ทิ้ง และยังคงมุ่งขยายผลต่อทั้งในเรื่องส่วนตัวและสาเหตุชิงทอง ส่วนจะตัดประเด็นใดทิ้งก็ต่อเมื่อมีหลักฐานที่ชัดเจนแน่ชัด
อย่างไรก็ตามภายหลังเกิดเหตุ แม้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะปฏิบัติภารกิจอยู่ต่างประเทศ ก็ได้สั่งการชุดสอบสวนเป็นระยะ และทันทีที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยก็ได้ลงพื้นที่ พร้อมเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีทันที โดยได้กำชับในทุกประเด็นสงสัย
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยที่มีการแชร์ภาพทางสื่อโซเชียล ขอย้ำว่าชายคนดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับคดี เป็นแค่นักศึกษาเท่านั้น และขอเตือนผู้ที่อุตริแต่งกายเลียนแบบคนร้าย ว่าอย่ากระทำ อาจก่อให้เกิดความไขว้เขวในการสืบสวนและอาจทำให้ผู้พบเห็นวิตกและหวาดกลัวได้
จากนั้นเวลา 15.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) นายเอกฐวีป (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี อดีตผู้ต้องหา ที่เคยก่อคดีชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า เมื่อปี 2556 เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. หลังมีผู้นำข้อมูลส่วนตัวและภาพหมายจับเก่า ไปโพสต์ในโลกโซเชียล โดยอ้างว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุฆ่า 3 ศพชิงทองอุกอาจที่ จ.ลพบุรี
นายเอกฐวีป กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้โพสต์ 7- 8 คน ที่แชร์ภาพหมายจับดังกล่าว ซึ่งมีทั้งบุคคลและเพจเฟซบุ๊ก บางเพจมีผู้ติดตามหลายพันคน มียอดแชร์กันหลายพันคนในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเมื่อทราบเรื่องหลังจากที่เพื่อนส่งภาพให้ดูเมื่อวาน (12 ม.ค.) ก็ตกใจมาก และรีบไปแจ้งความที่ สน.สามเสน เชื่อว่าภาพดังกล่าวมาจากการที่ตำรวจนำข้อมูลเก่าที่ตนเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเมื่อปี 2556 มาตรวจสอบ แต่เกิดหลุดออกมา
“ผมขอยืนยันว่า การก่อเหตุครั้งล่าสุดที่ จ.ลพบุรี นั้นไม่ใช่ผมแน่นอน ผมมีหลักฐานภาพวงจรปิดว่าตัวเองกำลังทำงานอยู่ในวันที่เกิดเหตุ โดยหลังเกิดเรื่อง ทราบจากพี่ชายที่อยู่ จ.กำแพงเพชร ว่าตำรวจได้โทรศัพท์มาสอบถาม ซึ่งหากจะเรียกไปสอบปากคำเกี่ยวกับคดี ผมก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่” นายเอกฐวีป กล่าว
นายเอกฐวีป กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่เคยก่อเหตุ เมื่อปี 2556 โดยร่วมกันกับพวกก่อเหตุ 3 คน ซึ่งตนได้ใช้อาวุธปืนเช่นกัน แต่ไม่ประสงค์เอาชีวิตใคร เพราะทุกคนเลี่ยงการทำร้ายร่างกาย กระทั่งมาถูกจับกุมและศาลตัดสินจำคุก 25 ปี ตนรับสารภาพ ลดโทษเหลือ 11 ปี และลดโทษเรื่อยมาจนเหลือ 7 ปี เพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อ 10 เดือนก่อน ตอนนี้ได้มาเริ่มชีวิตใหม่แล้ว ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี หลังได้รับโอกาสให้มีงานทำควบคู่ไปกับการเรียน แต่กลับมีการนำเรื่องในอดีตมาเผยแพร่แบบนี้ขึ้น มันกระทบกับครอบครัว คนรอบข้าง จึงขอฝากวิงวอนไปยังทุกคนว่า หากจะแชร์อะไรกันก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน และในบรรดาคนที่เอาข้อมูลเก่ามาโพสต์ ล่าสุดมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ติดต่อมาขอโทษ และระบุว่าไม่ทราบ หากแก้ไขและลบให้ตนก็อาจจะถอนแจ้งความ
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 13 มกราคม ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี ได้จัดพิธีทำบุญ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงาน คู่ค้า รวมถึงครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้ โดยนิมนต์พระครูจันทสิริธร (หลวงพ่อสารันต์) เจ้าอาวาสวัดดงน้อย เป็นประธานในพิธีสงฆ์
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายแล้ว ว่าเป็นเครือญาติผู้มีอิทธิพลระดับท้องถิ่นและมีฐานะดี มีนิสัยชอบยิงปืนและที่เดินขากะเผลกเนื่องจากขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์แล้วเกิดอุบัติเหตุ ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุอาจจะมาจากหนี้การพนันซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่
“คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนเนื่องจากคนร้ายกระทำการอย่างอุกอาจ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย เจ้าหน้าที่กำลังจับตาดูผู้ต้องสงสัยอยู่และรวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุมตัว คาดว่าจะเป็นในเร็ววันนี้” แหล่งข่าวทีมสืบสวนระบุ
ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เบาะแสสำคัญที่มีประโยชน์ ตอนนี้เริ่มมีข้อมูลบางอย่างเพิ่มมากขึ้น โดยการก่อเหตุดังกล่าวมีมากกว่าการจงใจประสงค์ชิงทรัพย์เพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุก็สืบทราบจนรู้ที่มาแล้ว
ทั้งนี้มีรายงานว่า ตำรวจได้ตรวจสอบผู้ครอบครองปืนให้เเคบลงเหลือ 13 กระบอก โดยผู้ที่ครอบครองแบ่งเป็น ทหาร 2 นาย พลเรือน 11 คน ขณะเดียวกันตำรวจยังประสานค่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อตรวจสอบสัญญาณของผู้ต้องสงสัย