ข่าว

เปิดพิรุธหัวโจกเผาคุก ญาติเยี่ยมถี่คนมีสีโผล่เยี่ยม

เปิดพิรุธหัวโจกเผาคุก ญาติเยี่ยมถี่คนมีสีโผล่เยี่ยม

31 มี.ค. 2563

"สมศักดิ์" เผยหัวโจกนักโทษปลุกปั่นเผาเรือนจำมีประวัติโชกโชน ติดคุกไม่เข็ดหลาบ

 

 

               “รมว.ยุติธรรม” เผยหัวโจกนักโทษปลุกปั่นเผาเรือนจำมีประวัติโชกโชน ติดคุกไม่เข็ดหลาบ โดนโทษจำคุกตลอดชีวิต เช็กพิรุธญาติเยี่ยมถี่ คนมีสีโผล่เยี่ยม ประเมินความเสียหายคุกบุรีรัมย์ 70 ล้าน

 

อ่านข่าว สั่ง ผบ.คุก วางมาตรการป้องกันจลาจล

 

               เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2563 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนเหตุจลาจลเผาเรือนจำบุรีรัมย์ว่า จากการสอบสวน นักโทษหัวโจก ซึ่งเป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด มีโทษจำคุกตลอดชีวิต พบว่าตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำมีปัญหากับเพื่อนผู้ต้องขังอื่นตลอด มีประวัติตั้งแต่เป็นเยาวชนถูกจับกุมให้อยู่ที่สถานพินิจฯ เคยติดคุกที่เรือนจำภาคเหนือ ก่อนย้ายมาเรือนจำบุรีรัมย์

 

               เมื่อได้รับการปล่อยตัวออกไปไม่สำนึกยังทำความผิดซ้ำจนกลับมาติดคุกอีกครั้งที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ และศาลได้พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ผู้ต้องขังถือเป็นคนสมองดีจึงคิดแผนปลุกปั่นให้ผู้ต้องขังกลัวโควิด-19 จนเกิดเหตุการณ์เผาเรือนจำขึ้น

 

               “ผู้บัญชาการเรือนจำได้จับตานักโทษรายนี้มาโดยตลอด เพราะพบว่ามีการเยี่ยมญาติถี่ และยังพบว่ามีคนมีสีมาเยี่ยมด้วย โดยชื่อจะปรากฎในชั้นสอบสวนต่อไป ขณะที่กรมราชทัณฑ์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน 2 ชุด คือ 1.สอบผู้ต้องขัง 2.สอบผู้บัญชาการเรือนจำถึงสาเหตุที่เกิด

 

               ส่วนญาติพี่น้องที่มีความกังวลในการย้ายผู้ต้องขังว่าไปอยู่ที่ใดบ้างสามารถสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์หรือติดต่อไปยังเทศบาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่เป็นศูนย์แจ้งว่าผู้ต้องขังอยู่ที่ไหนบ้างและอีกช่องทางหนึ่ง คือ เฟซบุ๊กของกรมราชทัณฑ์ “นายสมศักดิ์ กล่าว

 

               นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องขังคดียาเสพติดที่ยังหลบหนี สามารถจับกุมได้แล้วเมื่อกลางดึกของวานนี้ (30 มี.ค.) โดยสถานีตำรวจภูธรคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทราบจากพลเมืองดีแจ้งว่าผู้ต้องขังที่หลบหนีขี่มอเตอร์ไซค์วนเวียนอยู่แถวบ้าน จึงควบคุมตัวไว้ได้

 

               สำหรับมูลค่าการเสียหายอาคารเรือนนอนที่ถูกเผา 3 หลัง ราคาหลังละ 20 ล้านบาท ส่วนจุดอื่นๆ ที่ถูกทำลายประมาณ 10 ล้านบาท รวมประมาณ 70 ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บมีไม่มาก เจ็บเพียงเล็กน้อยด้วยการถูกกระจกบาด ไม่มีผู้เสียชีวิต คนที่บาดเจ็บหนักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมีเพียง 1 รายเท่านั้น